'โขลกดัง' น้ำพริกฝีมือคนข่าว แซ่บโซเชียล

'โขลกดัง' น้ำพริกฝีมือคนข่าว แซ่บโซเชียล

"..รู้สึกภูมิใจที่อย่างน้อยลูกค้าสนุกกับการทานน้ำพริกของเรา.." อาร์ม - ธนภูมิ ท้าวนอก

ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป แต่จะ "ดิ้น" กันแบบไหน..ที่ได้ทำในสิ่งอยากทำ หรือชอบและเมื่อลงมือทำแล้วสบายใจด้วย

นี่เป็นโจทย์ที่ต้องคิดของคนสู้ชีวิต! ซึ่งคนข่าวฝีมือดี อย่าง "อาร์ม" ธนภูมิ ท้าวนอก หนุ่มเมืองย่าโม ที่ว่างเว้นจากหน้าจอทีวี (อาจชั่วคราว) หันมาเอาดีเรียนรู้มุ่งทำธุรกิจ "น้ำพริกโฮมเมด"

โดยใช้ช่องทาง "สื่อใหม่" อย่างเฟซบุ๊คเป็นที่ปล่อยของ แนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักจากการบอกต่อปากต่อปาก จากเพื่อนถึงเพื่อน จนเริ่มเป็นกระแสอยู่พอสมควร ว่ากันว่า กำลังขายดิบขายดี จึงอยากถามไถ่ที่มา-ที่ไป ว่าเป็นอย่างไร..



ทำไมจู่ๆ ถึงได้มาทำน้ำพริก มีแรงบันดาลใจอะไร

ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อน ผมชื่อ "อาร์ม" ธนภูมิ ท้าวนอก อดีตนักข่าวรายการโต๊ะข่าวบันเทิง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และเป็นผู้ประกาศช่วงท็อปนิวส์เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ รายการท็อปนิวส์ ทางช่อง 3SD ก่อนจะตัดสินใจลาออกเพื่อไปหาประสบการณ์ชีวิตในที่ทำงานใหม่ ด้วยการเป็นบรรณาธิการข่าวบันเทิง ในสถานีข่าวแห่งหนึ่ง


แต่เมื่อพอได้ไปทำจริง เริ่มงานใหม่ได้ไม่นาน กลับรู้สึกถึงความไม่ชัดเจน บางอย่างไม่เหมือนที่เคยตกลงหรือคุยกันไว้ตั้งแต่แรก ก็เลยตัดสินใจตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ทำงานที่นั่นต่อ โดยเลือกเปลี่ยนสถานะมาเป็น “ผู้ว่างงาน” จึงใช้ช่วงเวลานี้ ในการทำฝันอีกอย่างหนึ่งที่อยากทำมานาน แต่ไม่มีเวลาด้วยการขายน้ำพริกโฮมเมด ตั้งชื่อว่าน้ำพริกโขลกดัง


ทำไมถึงอยากขายน้ำพริก?

ต้องบอกว่าส่วนตัว เป็นคนชอบทำอาหารมากอยู่แล้ว ไม่เคยเรียนทำอาหาร แต่อาศัยครูพักลักจำจากคุณแม่ จากญาติๆ จนทำได้ ใครที่ติดตามโซเชียลของผมไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊ค Arm Thanapoom หรือ อินสตาแกรม ArmThanapoom จะเห็นว่าผมชอบอัพรูปภาพอาหารที่ตัวเองทำอยู่ตลอด ซึ่งน้ำพริกปลาทูก็เป็นหนึ่งในอาหารที่ผมอัพรูปลงโซเชียลบ่อยๆ มีหลายคนยุให้เปิดร้านอาหารแต่เท่าที่ประเมินดูหลายๆ อย่างคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อม เลยลองเริ่มจากการขายออนไลน์ก่อนดีกว่า

เพราะตอนนี้ตลาดออนไลน์กำลังมาแรง เลยมองว่าแล้วอาหารอะไรที่เราจะขายออนไลน์ได้ ก็เลยนึกถึงน้ำพริกปลาทูที่เราชอบทาน โดยนำน้ำพริกปลาทูที่เราทำทานเป็นประจำมาปรับสูตรเล็กน้อยและเลือกทำเป็นแบบคั่วแห้ง เพื่อที่จะเก็บไว้ได้นานๆ



ไปเอาสูตรน้ำพริกนี้มาจากไหน?

น้ำพริกปลาทูคั่วแห้ง แบรนด์โขลกดัง ที่ทำขายนี้ ไม่ได้ไปซื้อหรือขอสูตรใครมา ที่ทำทั้งหมดคือจินตนาการคิดขึ้นมาเอง และลองผิดลองถูก ลองแบ่งปันเพื่อนๆ ที่รู้จักให้ได้ชิม จนทุกคนบอกว่าผ่าน ก็เลยทำขาย เราเน้นปลาทูเนื้อแน่น ใช้ปลาทูเยอะมาก และใช้ปลาทูล้วน เราเคยเห็นบางเจ้าจะเอาปลาทูผสมกับปลาชนิดอื่นๆ ที่ราคาถูกกว่าด้วย แต่เราอยากได้ปลาทูแท้จริงๆ แม้ต้นทุนจะสูงหน่อยก็ยอม

ก่อนจะนำมาตำน้ำพริกจะต้องนำมาย่างให้หอมและเนื้อแห้งก่อน รวมถึงเลือกใช้สมุนไพรพวก ตะไคร้ ข่า หอมแดง กระเทียม พริก ในปริมาณมาก ทั้งหมดจะต้องผ่านการคั่วด้วยไฟเตาถ่านก่อนหนึ่งรอบ ก่อนนำมาตำปั่นและนำมาโขลกรวมกันกับเนื้อปลาทู ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ ซอสปรุงรส น้ำมันหอย ที่สำคัญเราไม่ใช้ผงชูรสเลย เมื่อปรุงรสได้ที่ก็นำขึ้นกระทะคั่วด้วยไฟเตาถ่านอ่อนๆ คั่วตั้งแต่น้ำพริกยังเปียกๆ จนเป็นน้ำพริกแห้ง และหลังจากคั่วไฟเสร็จก็ต้องยกลงมาคั่วกับลม คือใช้พัดลมเป่าให้ไอความร้อนออกให้หมด น้ำพริกจะได้เก็บไว้ได้นานๆ

ตอนแรกเราทำแค่สูตรเดียวคือน้ำพริกปลาทูคั่วแบบดั้งเดิม จะรสชาติไม่จัดมาก อยากทำตอบสนองคนชอบอาหารคลีน แต่อยากทานน้ำพริก ซึ่งพอทำไปก็มีคนที่ชอบทานเผ็ดเรียกร้องมาให้ทำแบบเผ็ดด้วยก็เลยเพิ่มขึ้นมาเป็นสูตรจัดจ้าน นอกจากนี้ ยังมีน้ำพริกปลาทูทอด ที่จะมีรสชาติ เผ็ด เค็ม หวาน รสจัดๆ กระบวนการทำก็คล้ายกันแต่ไม่นำไปคั่ว จะนำไปทอดในน้ำมันแทน ทอดจนแห้งก็สามารถเก็บไว้ทานได้นานเช่นกัน



ตอนนี้ธุรกิจเป็นไงบ้าง มีการตั้งเป้าไหม?

เราเริ่มการตลาดออนไลน์ ขายผ่านทางเฟสบุ๊คชื่อว่า "น้ำพริกโขลกดัง" แรกๆ เลยก็จะมีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่รู้จักกันช่วยอุดหนุน และก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว เกิดการสั่งซื้อจำนวนมาก และเป็นเหมือนธรรมเนียม ใครซื้อไปต้องถ่ายรูปแท็กกลับมา ทำให้คนเห็นเยอะขึ้น หลายคนเอาไปทานแบบแปลกๆ หรืออาหารฟิวชั่น มีเอาไปโรยหน้าโจ๊ก เอาไปสอดไส้ซาลาเปาทอด ทานกับสลัด โรยบนราดหน้า หรือแม้แต่ไปทำเป็นข้าวปั้นก็มี ก็แล้วแต่แต่ละคนจะสร้างสรรค์

ในฐานะผู้ผลิตก็รู้สึกภูมิใจที่อย่างน้อยลูกค้าสนุกกับการทานน้ำพริกของเรา เพราะอย่างที่บอกว่าสูตรดั้งเดิมของเรา ชื่อว่าน้ำพริกก็จริง แต่เนื้อปลาทูเยอะ หอมสมุนไพร ไม่เผ็ด ทำให้หลายคนมองว่า มันเป็นปลาหยองสมุนไพรก็ได้ ก็สามารถที่จะนำไปประยุกต์ทานได้หลากหลายรูปแบบ ตอนนี้ธุรกิจนี้เพิ่งเริ่มต้นได้แค่ 1 เดือนเท่านั้นเอง แต่ถือว่าเป็น 1 เดือนที่ได้รับการตอบรับดีมาก

อย่างไรก็ตาม เท่าที่ศึกษา มีข้อมูลว่าธุรกิจอาหาร ควรมองระยะสั้นอยู่ที่อย่างน้อย 4 เดือน ถึงจะทราบว่าคงที่คงตัวแล้วหรือยัง ตอนนี้ก็พยายามที่จะทำสูตรให้คงที่มากที่สุดและศึกษาเรื่องการตลาดออนไลน์เพิ่มเติม ทั้งการซื้อโฆษณาผ่านเฟสบุ๊ค หรือกูเกิ้ล ซึ่งต้องมาชั่งน้ำหนักดูความเป็นไปได้ว่าจะคุ้มค่ากับการลงทุนมากน้อยแค่ไหน ในอนาคตก็คิดเล่นๆไกลๆไว้ว่าอยากจะพัฒนาให้น้ำพริกโขลกดังเป็นที่รู้จักมากกว่านี้ และอยากมีแหล่งหรือตลาดประจำ ที่เราสามารถทำส่งได้ตลอด ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาศึกษาเรื่องการตลาดต่อไป รวมถึงอาจจะคิดสูตรน้ำพริกใหม่ๆขึ้นมาเพิ่มเติมจากที่ทำอยู่ด้วย เพื่อให้มีความหลากหลายและเป็นทางเลือกของลูกค้ามากขึ้น