IRC - ซื้อ

IRC - ซื้อ

โดดเด่นสุด ในกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์

แนวโน้ม 3Q58 ยังสดใส ต้นทุนวัตถุดิบยังคงลดลงต่อเนื่อง

บริษัทให้ข้อมูลแนวโน้มผลประกอบการใน 3Q58 (เม.ย–มิ.ย 58) คาดยังเติบโตดีแม้คาดตัวเลขผลิตรถยนต์ของอุตสาหกรรมจะเป็นจุดต่ำสุดของปี จากปัจจัยฤดูกาลที่เป็นช่วง Low Season ของอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนโมเดลใหม่ของค่ายรถยนต์รายใหญ่ แต่บริษัทยังคงรับผลบวกจากต้นทุนวัตถุดิบหลัก ทั้งยางธรรมชาติ ยางสังเคราะห์ และน้ำมัน ที่ปรับลดลง จากภาวะราคายางในตลาดโลกซึ่งมีอุปทานส่วนเกินอยู่ ทำให้ราคาตกต่ำ โดยเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนต้นทุนวัตถุดิบหลักดังกล่าวปรับลดลงจาก 25% ของรายได้เหลือ 18% และเทียบกับไตรมาสก่อนต้นทุนยางสังเคราะห์ยังปรับลดลงราว 15%

คาดปี 58 กำไรเติบโตโดดเด่นสุดในกลุ่ม

ในปี 58 เราคาดว่า IRC จะมีกำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้น 22%เป็น 382 ล้านบาท โดยได้รับผลบวกจาก 1) คาดยอดขายเติบโต 5%YoY เป็น 5.7 พันล้านบาท ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกกรมผลิตรถยนต์ของประเทศ เราอิงสมมติฐานยอดผลิตรถยนต์ปี 2015 ที่ 2 ล้านคันเติบโต 6%YoY โดยในปีนี้คาดว่าบริษัทได้รับโมเดลใหม่ราว 8 รุ่น 2) ประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ดีขึ้น โดยคาด EBITDA Margin ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 12.2% เป็น 13.2% ผลของขนาดยอดขายที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดการประหยัดขนาด และต้นทุนยางซึ่งคิดเป็นวัตถุดิบหลัก คาดราคาปรับลดลงเฉลี่ย 16%YoY จากภาวะราคายางในตลาดซึ่งมีอุปทานส่วนเกินอยู่

โครงการใหม่เพิ่มมูลค่ามหาศาลในอนาคต

แนวโน้มระยะยาวเราคาดว่าผลประกอบการจะเติบโตดีต่อเนื่อง ซึ่งต้นทุนยางคาดว่ายังอยู่ในภาวะตกต่ำไปยางน้อยอีก 2ปี ในขณะที่บริษัทเตรียมขยายสินค้าใหม่สำหรับลูกค้านอกกลุ่มรถยนต์ ซึ่งเป็นงาน high precision ที่มีอัตรามาร์จิ้นที่สูงกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น และโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 ที่คาดว่าจะได้ออร์เดอร์จากผู้ผลิตรถยนต์เกือบทุกรายที่เข้าโครงการ นอกจากนี้ยังมีโครงการผลิต "Rail Pad”ยางสำหรับรองรางรถไฟซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษารวมกับ สวทช. ซึ่งถือเป็นโครงการที่รัฐบาลสนับสนุนเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบราคายางที่ตกต่ำ โดยคาดขนาดตลาดราว 1 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้เรายังไม่ได้รวมโครงการดังกล่าวในประมาณการ ซึ่งรอรายละเอียดจากโครงการดังกล่าวที่คาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงปลายปี ซึ่งก็ถือเป็น Upside Potential ที่จะปรับเพิ่มประมาณการในอนาคต

แนะนำ “ซื้อ” ผลประกอบการฟื้นตัวโดดเด่น มีปันผลจูงใจ

ด้วยแนวโน้มกำไรในปี 2015 ที่เติบโตโดดเด่นกว่ากลุ่มยานยนต์ นอกจากนี้บริษัทยังมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีสถานะเป็น Net cash ไม่มีหนี้สิน และมีนโยบายจ่ายปันผลสม่ำเสมอ เราคาดว่าบริษัทจะจ่ายปันผลสำหรับงวดปี 2015 (สิ้นสุด ก.ย 2015) ที่ 0.77 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 4.4% ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ P/E เพียง 9 เท่า ซึ่งถือว่ายังถูกเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มปัจจุบันที่ 12 เท่า