แอฟริกาใต้จัดหนัก

แอฟริกาใต้จัดหนัก

ประเทศแอฟริกาใต้ในทวีปแอฟริกามีชื่อเสียงที่นักท่องเที่ยวขยาด นั่นคือ ปัญหาอาชญากรรมค่อนข้างสูง

นักท่องเที่ยวมักได้รับการเตือนว่าให้ระวังตัวระหว่างท่องเที่ยวในประเทศ


แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม นักท่องเที่ยวก็หลั่งไหลไปชื่นชมธรรมชาติและภูมิประเทศที่สวยงามของแอฟริกาใต้ ที่นี่มีป่าซาฟารีหลายแห่งให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสสัมผัสธรรมชาติและสัตว์ป่าอย่างแท้จริง


เมื่อปี 2556 จำนวนคนต่างชาติที่เดินทางมาแอฟริกาใต้ คือ 10 ล้านคน โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 10.5 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า ในจำนวนนี้ 9.6 ล้านคนเป็นนักท่องเที่ยว ส่วนปีนี้ ครึ่งปีแรกนักท่องเที่ยวรวมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 11 ล้านคน


แอฟริกาใต้เป็นประเทศที่คนในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งอังกฤษนิยมไปเที่ยวมาก ส่วนหนึ่งเพราะเวลาจะต่างกันไม่มาก ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องปรับเวลามากนัก นอกจากนี้เคปทาวน์ยังมีชายหาดที่สวยงาม มีอุทยานแห่งชาติ Table Mountain ซึ่งมีภูเขายอดตัด ที่เกิดจากการยกตัวขึ้นของเปลือกโลก ต่อมาได้ผุพังและถูกกัดกร่อนโดยลมและฝน จนทำให้กลายเป็นภูเขายอดตัดรูปร่างคล้ายโต๊ะ จึงได้ชื่อว่า Table Mountain นอกจากนี้บนภูเขายังมีพันธุ์ดอกไม้หายากกว่า 1,400 ชนิดอีกด้วย


เคปทาวน์ยังมีเกาะ Robben ที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเคยเป็นที่คุมขัง “เนลสัน เมนเดล่า” อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ในระหว่างที่เขาเป็นผู้นำการต่อต้านการเหยียดผิวถึง 18 ปี เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เมื่อปี 2536 และเสียชีวิตเมื่อปี 2556 ขณะอายุได้ 95 ปี นอกจากนี้ยังมีอุทยานแห่งชาติกรูเกอร์ที่มีสัตว์ป่ามากมายอีกด้วย


แต่เมื่อเร็วๆ นี้ แอฟริกาใต้ออกระเบียบใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวพร้อมเด็กๆ โดยให้พวกเขาแสดงเอกสารพิสูจน์ว่า เด็กๆ ที่ไปด้วยนั้นเป็นลูกหรืออยู่ในปกครองของพวกเขาหลักฐานที่ต้องแสดงแก่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองคือใบสูติบัตร หรือถ้าพ่อหรือแม่เดินทางไปกับลูกเพียงคนเดียวก็ต้องสามารถแสดงใบยินยอมจากคู่สมรสว่า อนุญาตให้เด็กไปกับอีกฝ่าย


ตามจริงแล้ว รัฐบาลแอฟริกาใต้จะนำระเบียบใหม่นี้มาใช้ตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว แต่ก็เลื่อนออกมาประมาณ 8 เดือน จนมาใช้จริงเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมานี่เอง ระเบียบใหม่นี้มีขึ้นเพื่อป้องกันขบวนการลักลอบค้าเด็กที่มีอยู่มากมายในทวีปแอฟริกา แต่เรื่องนี้ทำให้บรรดาผู้ประกอบธุรกิจทัวร์และสายการบินต่างพากันกลัวว่า จะทำให้บรรดานักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวพากันเปลี่ยนใจไม่มาแอฟริกาใต้ เพราะไม่อยากเตรียมเอกสารให้ยุ่งยาก


ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาซิงเกิลมัมแอนด์แด๊ดทั้งหลายต้องเตรียมเอกสารมากกว่าพวกครอบครัว พวกเขาต้องมีเอกสารยินยอมจากอีกฝ่ายอนุญาตให้นำลูกมาเที่ยวด้วย เอกสารก็ต้องเซ็นต์ไม่น้อยกว่า 3 เดือนก่อนวันเดินทางพร้อมกับเอกสารจากศาลที่แสดงว่า พวกเขามีสิทธิในลูกอย่างเต็มที่ ในกรณีเป็นม่ายก็ต้องมีใบมรณบัตรมาด้วย


นอกจากนี้ ถ้าเด็กที่มาด้วยไม่ใช่ลูกของตัวเอง นักท่องเที่ยวต้องแสดงสำเนาพาสปอร์ต ที่อยู่ที่ติดต่อได้ของพ่อแม่เด็กนอกเหนือจากสูติบัตรของเด็กอีกด้วย


เรื่องนี้ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในแอฟริกาใต้ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ระเบียบใหม่นี้ด้วยความวิตกกังวล ลิซล์ เกอร์ริก โฆษกสายการบินเวอร์จิ้น แอตแลนติก กล่าวว่า “เรื่องนี้ทำให้ทุกอย่างยุ่งเหยิง พวกเราช็อคมาก ไม่มีประเทศไหนในโลกที่มีระเบียบเช่นนี้”


เกอร์ริก กล่าวว่า เมื่อมีการใช้ระเบียบดังกล่าว สายการบินต้องทำการสกรีนและไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารที่ไม่มีเอกสารที่ถูกต้องบิน


“ก่อนหน้านี้ มีการเปลี่ยนระเบียบมา 3 ครั้งแล้ว การเปลี่ยนครั้งนี้อีกทำให้เรายุ่งยากมาก”


ส่วน คริส แม็คอินไตย์ ผู้เชี่ยวชาญของ Expert Africa กล่าวว่า “แอฟริกาใต้เป็นที่นิยมของครอบครัวที่มีเด็กๆ เรากลัวว่า กฎใหม่นี้จะทำให้นักท่องเที่ยวแบบครอบครัวหันไปเที่ยวที่อื่น ผมขอชมเชยความพยายามที่จะแก้ปัญหาปัญหาการค้าเด็ก แต่ผมกังวลว่า เรื่องนี้จะทำให้หลายครอบครัวมีปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกคนเดียว”


ในขณะเดียวกัน บอร์ดการท่องเที่ยวของประเทศนี้ชี้แจงว่า กฎระเบียบนี้เป็นสิ่งจำเป็นและมีขึ้นเพื่อปกป้องเด็กๆ แต่บอร์ดจะมีการเฝ้าดูและประเมินผลกระทบของเรื่องนี้ต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดเร็ค ฮาเนคอม รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวก็กำลังปรึกษากับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้น