ศธ.เอาจริงอาชีวะตีกันซ้ำซากสั่งปิด-เปลี่ยนเครื่องแบบ

ศธ.เอาจริงอาชีวะตีกันซ้ำซากสั่งปิด-เปลี่ยนเครื่องแบบ

“ณรงค์” ลั่นเอาจริงอาชีวะตีกันซ้ำซากสั่งปิด ขณะที่ สอศ.-สช.รับลูกกำหนดเป็นมาตรการ ตีกันสั่งปิดชั่วคราว-ปิดถาวรเริ่มทันที

พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ. ว่า ที่ประชุมหารือถึงปัญหานักศึกษาอาชีวะก่อเหตุทะเลาะวิวาท ซึ่งมีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง รวมถึงมีการเสนอมาตรการต่าง ๆ โดยเฉพาะสถาบันที่มีปัญหาทะเลาะวิวาท และถูกสั่งปิดการเรียนการสอนไปแล้ว5-7วัน แต่กลับมาก่อปัญหาตีกันอีก สุดท้ายอาจจะต้องถึงขั้นปิดถาวรหรือ เพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งอย่างไรก็ตามที่ประชุมยังมีการพูดถึงสาเหตุที่นักเรียนทะเลาะวิวาทว่า ไม่ได้เกิดจากปัญหาส่วนตัว แต่เป็นเรื่องของสถาบัน ดังนั้น จึงมีแนวคิดที่จะเปลี่ยนเครื่องแบบ นักศึกษาอาชีวะให้เหมือนกันทั่วประเทศ โดยมีสองแนวทางคือ แต่งแบบไปรเวทไปเลยทุกคน หรือใส่เครื่องแบบให้เหมือนกันทั่วประเทศเพราะอย่างน้อยเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้ทุกคนดูกลมกลืน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

“ปัญหานักศึกษาอาชีวะตีกัน แม้จะเป็นส่วนน้อยแต่ก็ทำลายระบบของการเรียนอาชีวะในภาพรวม ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดี เพราะผู้ปกครองเห็นว่าให้ไปเรียนแล้วมีปัญหา ก็ส่งให้ไปเรียนสายสามัญแทน กระทบต่อนโยบายการเพิ่มจำนวนนักศึกษาอาชีวะซึ่งครั้งนี้ศธ.เอาจริงถ้าผู้บริหารสถาบันไม่ใส่ใจดูแลนักศึกษาให้ดี ก็อาจจะต้องถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตฯ แน่นอน ไม่ใช่แค่ขู่”พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าว

วันเดียวกัน นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวภายหลังเปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ พล.ต.ต.อนุศักดิ์โกมลศาสตร์ ผบก.อก.บช.น. นายอดินันท์ ปากบารา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) และผู้บริหารวิทยาลัยอาชีวศึกษาของรัฐและเอกชนในเขตกรุงเทพและปริมณฑลที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ประมาณ40แห่ง ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกัน16มาตรการ ซึ่งบางมาตรการเป็นมาตรการเก่าที่คงไว้และเพิ่มใหม่ให้เข้มข้นขึ้นดังนี้1. สั่งปิดสถานศึกษาที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาททั้งชั่วคราวและถาวร แต่จะดำเนินการอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับนักศึกษาจำนวนมาก2. ปรับเปลี่ยนเครื่องแบบนักเรียน นักศึกษาอาชีวะ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสรุปข้อดี ข้อเสียใน2รูปแบบคือ เปลี่ยนให้ใส่ชุดไปรเวท มาเรียนพอเข้าสถาบันค่อยใส่เสื้อช็อป หรือใส่เครื่องแบบที่เหมือนกันทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม มีผู้แย้งว่าแม้ใส่เหมือนกันก็ยังรู้ได้ว่าเป็นเด็กอาชีวะ3.ดำเนินโครงเตรียมความพร้อมอาชีวศึกษา หรือพรีอาชีวศึกษา

นายชัยพฤกษ์ กล่าวต่อว่า4.ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารร่วมอบรมสร้างระเบียบวินัย5.สนับสนุนให้เรียนหลักสูตรรักษาดินแดน(รด.) โดย รมว.ศึกษาธิการ จะไปประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง6.ให้แต่ละสถาบันจัดเวลาเข้า-เลิกเรียนไม่ให้ตรงกัน7.สนับสนุนการจัดการศึกษาระบบทวิภาคีร่วมกันภาคเอกชนมากขึ้น8.ส่งเสริมให้เด็กทำกิจกรรมทั้งในเชิงสร้างสรรค์มากขึ้นทั้งจิตอาสา9.ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอดส่องดูแลอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงรวมถึงให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนรับผิดชอบด้วย10.รวบรวมข้อมูลนักเรียนกลุ่มเสี่ยง ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามและพูดคุยกับผู้ปกครองที่บ้าน

11.ตรวจค้นอาวุธร้ายแรงทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา12.ใช่มาตรการทางจิตวิทยาเข้าช่วย ทำให้เด็กเห็นว่าการทะเลาะวิวาทเป็นสิ่งไม่ดี และเกิดผลกระทบกับสังคม13.นำมามาตรการปะ ฉะ ดะ ซึ่งทางพื้นที่จังหมัดสมุทรปราการ มาเป็นแนวทางแก้ไขปัญหา14. สร้างความเข้มแข็ง และสัมพันธภาพของสถานศึกษาที่อยู่ใกล้กัน15. ดำเนินการกับศิษย์เก่าที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม และ16.ห้ามจัดกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมในสถานศึกษา เช่น จัดรับน้อง นอกจากนั้นที่ประชุมยังหารือว่า ควรจะนำมาตรการดี ๆ ที่แต่ละวิทยาลัยดำเนินการไปแล้วมาขยายผล สนับสนุนให้เกิดการดำเนินการทั่วประเทศ

ด้าน นายอดินันท์ กล่าวว่า ในส่วนของการปิดสถานศึกษาถาวรและปิดชั่วคราวนั้นปัจจุบันสช.ได้สั่งปิดสถานศึกษาชั่วคราวในวิทยาลัยที่มีเหตุ3-5วันทันทีอยู่แล้ว เพื่อให้ผู้บริสถานศึกษาครูอาจารย์ได้ทบทวนมาตรการว่ามีจุดบกพร่องตรงไหน และจะมีการป้องกันอย่างไร ส่วนการปิดสถานศึกษาถาวรนั้นก็คงต้องให้โอกาสและดูเหตุผลก่อนว่าใครเป็นคนก่อเหตุ