'ราชภัฎ-ราชมงคล' หารือเลิกธุรกรรมธ.ไทยพาณิชย์

'ราชภัฎ-ราชมงคล' หารือเลิกธุรกรรมธ.ไทยพาณิชย์

"ราชภัฎ" เตรียมหารือเลิกทำธุรกรรมธ.ไทยพาณิชย์ 3ก.ค.นี้ เมินข้ออ้างสื่อสารผิดพลาด "ราชมงคล"เล็งประชุมทบทวนทำธุรกรรมเช่นเดียวกัน

ผศ.ดร.นิวัต กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎ(มรภ.)เพชรบุรี ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎ(ทปอ.มรภ.)เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่าธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศรับสมัครงานจากบัณฑิตที่จบจากมหาวิทยาลัยเพียง14แห่ง และ ธนาคารไทยพาณิชย์ออกมาชี้แจงว่าเป็นการสื่อสารผิดพลาด ตนเห็นว่าสิ่งที่ธนาคารชี้แจงเป็นเพียงการแก้ตัว และสะท้อนให้เห็นว่าทางธนาคารไม่มีจิตสำนึกและทัศนคติดีต่อสังคม อีกทั้งทำให้เกิดการแตกแยกสังคมด้วยการกีดกั้นและแบ่งแยกมาตรฐานบัณฑิต ดังนั้นในการประชุม ทปอ.มรภ.วันที่3ก.ค.นี้ ตนจะนำเรื่องนี้เข้าหารือ เพื่อดูว่าอธิการบดีมรภ.แต่ละแห่งมีความคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไร และจำเป็นจะต้องมีมติให้มรภ.ทั่วประเทศยกเลิกการทำธุรกรรมกับธนาคารไทยพาณิชย์หรือไม่ เพื่อแสดงให้เห็นว่ามรภ.ไม่พอใจธนาคารที่มากีดกั้นและปิดโอกาสบัณฑิตในการแข่งขัน เพื่อเข้าทำงาน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากลุ่มอธิการบดีมรภ.ได้คุยกันเรื่องที่สถานประกอบการบางแห่งขึ้นแบล็คลิสต์ไม่รับนิสิตนักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาบางแห่ง โดยอ้างว่าบัณฑิตไม่มีคุณภาพ ซึ่งผู้บริหารมหาวิทยาลัยก็เป็นห่วงและพยายามปรับปรุงคุณภาพบัณฑิตมาตลอด แต่ขอให้ผู้มีอำนาจช่วยดูแลและสนับสนุนงบประมาณให้แก่มหาวิทยาลัยทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกันด้วย เพราะการลงทุนทางการศึกษาเพื่อพัฒนาประเทศ แต่เวลานี้มหาวิทยาลัยราชภัฎได้รับงบฯน้อยมากเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ทั้งที่มีความเก่าแก่และผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพไม่แพ้กัน

“ทาง มรภ.เข้าใจและรู้ว่าสถานประกอบการต่าง ๆมีอำนาจในการมากำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ารับทำงานได้ แต่อยากจะขอร้องเปิดโอกาสให้แก่บัณฑิตจากทุกสถาบันที่คุณสมบัติครบตามที่กำหนด ให้ได้เข้าแข่งขันเข้าทำงานด้วย ไม่ใช่เพียงแค่บกพร่องไปเรียนในสถาบันอื่นที่ธนาคารไม่ได้กำหนด แล้วทำให้หมดสิทธิ์ในการแข่งขันเข้าทำงาน”ผศ.ดร.นิวัต

รศ.ดร.ฤๅเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา(มรสส.) กล่าวว่า ขณะนี้มาราชการที่ต่างจังหวัด จึงไม่ทราบว่าใครเป็นผู้นำข้อความมติของอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏที่จะมีการตอบโต้ธนาคารด้วยการยกเลิกการทำธุรกรรมการเงินทุกชนิดมาโพสต์ลงในเฟสบุ๊คสำนักทรัพย์สิน และรายได้ ของ มรสส. แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันมาสักระยะหนึ่งแล้วผ่านโปรแกรมแชทไลน์กลุ่ม ทปอ.มรภ. โดยส่วนใหญ่มีความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่าจะยกเลิกการทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคาร ซึ่งในกลุ่มไลน์นี้มีทั้งอธิการบดี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นไปได้ว่าข้อความนี้อาจหลุดมาจากแชทดังกล่าว และนำมาโพสต์ในเฟสบุ๊คกัน

“การที่ธนาคารออกมาระบุว่าเป็นการสื่อสารผิดพลาดนั้น ไม่น่าจะเป็นคำตอบที่เชื่อถือได้ เพราะมีการระบุเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนแสดงว่าต้องเป็นเรื่องจริง ดังนั้นเมื่อธนาคารระบุรายชื่อมหาวิทยาลัยที่จะรับเข้าทำงาน เราก็จะระบุรายชื่อธนาคารที่เราจะทำธุรกรรมทางการเงินด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามผมยอมรับว่าการคัดเลือกคนเข้าทำงานเป็นสิทธิขององค์กรนั้นๆ ที่จะเลือก แต่การประกาศรายชื่อมหาวิทยาลัยแบบเป็นลายลักษณ์อักษรแบบนี้เป็นการไม่ให้เกียรติกัน อีกทั้งมหาวิทยาลัยทั้ง 14 แห่งตามรายชื่อที่ประกาศก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับการประกาศแบบนี้ อย่างไรก็ตามในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ น่าจะทราบมติที่ชัดเจนว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 40 แห่ง จะดำเนินการอย่างไรกับธนาคารแห่งนี้ต่อไป”อธิการบดี มรสส. กล่าว

รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)ธัญบุรี กล่าวว่าขณะนี้ในส่วนของมทร.ทั้ง 9 แห่ง ยังไม่ได้มีการประชุมร่วมกัน แต่เบื้องต้นมีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งอธิการบดีมทร.ส่วนใหญ่เกิดความสับสน และไม่มั่นใจในเรื่องมาตรฐานการบริหารงานของธ.ไทยพาณิชย์ เพราะต่อให้ธนาคารออกมาขอโทษ และอ้างว่าเป็นการสื่อสารผิดพลาดยังคงไม่เพียงพอ เนื่องจากเรื่องนี้สะท้อนถึงคุณภาพอุดมศึกษาไทย ซึ่งถ้าดูบุคลากร ผู้บริหารทั้งในหน่วยงานรัฐและเอกชนล้วนมีศิษย์เก่าของ
มทร. ทั้ง 9 แห่งเข้าทำงาน รวมถึงธ.ไทยพาณิชย์เองก็มีศิษย์เก่า มทร.เข้าทำงาน แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้มาจำกัดไม่รับนศ.จากมหาวิทยาลัยอื่น รับเพียง 14 แห่ง ทั้งที่มหาวิทยาลัยไทยมีมากกว่า 200 แห่ง ดังนั้น อยากให้ทางธ.ไทยพาณิชย์ออกมารับผิดชอบเรื่องดังกล่าว

“ตอนนี้ทั้งนักศึกษา ศิษย์เก่า บุคลากร รวมถึงผู้ปกครอง เกิดความไม่เชื่อมั่นในการบริหารงานของธ.ไทยพาณิชย์และผู้บริหารว่ามีแนวทางการบริหารจัดการอย่างไร เพราะพวกเขามั่นใจในคุณภาพของบัณฑิตมทร. ที่ผ่านมามทร.ได้ผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพไปทำงานอยู่ทุกวงการ แต่เมื่อธ.ไทยพาณิชย์จำกัดการรับนศ. ก็คงต้องทบทวนถึงการทำธุรกรรมกับธนาคารว่าควรจะดำเนินการต่อหรือไม่ ซึ่งในส่วนของมทร.ธัญบุรี จะทบทวนการใช้บริการธ.ไทยพาณิชย์ ที่ดูแลกองทุน 500 ล้านของมหาวิทยาลัยว่าจะดำเนินการต่อหรือยกเลิกหรือไม่”รศ.ดร.ประเสริฐ กล่าวและว่า ทั้งนี้ ในการประชุมทปอ.มทร.วันที่ 13 ก.ค.นี้ คาดว่าจะมีการเลื่อนประชุมให้เร็วขึ้นเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวว่ากลุ่มมทร.ทั้ง 9 แห่ง จะทำธุรกรรมหรือดำเนินการอย่างไรต่อกรณีดังกล่าว