นายกฯวอนอย่าวิตกก่อนเอียซ่า ประกาศมาตรฐานบินของไทย

นายกฯวอนอย่าวิตกก่อนเอียซ่า ประกาศมาตรฐานบินของไทย

"ประยุทธ์"ระบุอย่าตื่นตระหนก ก่อนสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหภาพยุโรป ประกาศท่าทีมาตรฐานบินไทย ขอโทษสื่อบอกคุยแล้วผ่านไป3วันเหมือนเดิม

ทำเนียบรัฐบาล-เมื่อเวลา 12.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า   พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึง กรณีสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหภาพยุโรป (เอียซ่า) จะมีการประกาศท่าทีต่อมาตรฐานการบินของประเทศไทย ว่า "ไม่มี ทำไมจะให้เขามีอะไร เขายังไม่ประกาศ ถ้าประกาศก็แย่นะสิ ถ้าเขายังไม่ประกาศก็อย่าเพิ่งไปตื่นตระหนก ก็แก้กันต่อไปจะทำอะไรได้ ก็ผิดกติกาเขาต้องยอมรับความผิดบ้าง ซึ่งเวลานี้รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาอยู่และก็แก้มามากกว่าทุกคนที่แก้มา แต่ขึ้นอยู่กับเขาจะให้หรือไม่ อย่าเพิ่งไปตีโพยตีพาย เขาอาจจะให้เป็นใบเหลืองต่อไปก็ได้ ทำไมต้องไปคิดในแง่ร้าย ใครเป็นคนให้ ใช่ตนหรือเปล่า"

"ในเมื่อเราผิดกติกาก็ต้องแก้ไขปัญหาไม่ใช่ว่ากันไปกันมาจนแย่ไปกว่าเดิม การใช้จ่ายรัฐแย่กว่าเดิม การลงทุนแย่กว่าเดิม พูดกันแต่เรื่องแบบนี้ถามว่าได้อะไรขึ้นมา การลงทุนที่จะมาลงทุนก็เลิกทั้งหมด ขอถามว่าใครจะรับผิดชอบแทนผม นั้นแหล่ะผมขอสื่อแค่นี้ วันนี้เขียนโจมตีผมนู้นนี่เยอะไปหมด แต่ผมไม่ได้กลัวอยู่แล้ว อยากเขียน ก็เขียนไป แต่ต้องให้ความเป็นธรรมผม ซึ่งผมจะไปถามคนทั้งประเทศสิ ว่าเขาจะว่าอย่างไร หลายคนเขาก็ไม่ชอบเขียนแบบนี้ ทำไมต้องเขียนแบบนั้น เขียนว่าผมไปกดดันไม่ให้พูด ทำไมท่านมีอำนาจเหนือผมตรงไหนว่ะหะ กลายเป็นผมผิดหมด เออสื่อต้องมีอำนาจพิเศษ ถามได้ทุกอย่าง ก็เป็นเรื่องของนายกฯอยากตอบก็ตอบ ไม่อยากตอบก็อย่าตอบ คุณต้องกลับไปถามกันเองบ้าง เรื่องบ้างเรื่องไม่ใช่เรื่องคุณก็อย่าถามผม สิทธิเท่าเทียมกัน ไม่ได้มีสิทธิเหนือกว่าผมเป็นประชาชนเท่ากัน ทุกคอลัมน์ทุกหนังสือพิมพ์เขียนตลอดว่านายกฯ อารมณ์เสีย"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

นายกฯ กล่าวต่อว่า"อะไรต่าง ๆ ที่มันหงุดหงิดไม่ใช่ผมอยากหงุดหงิด และผมไม่เคยดูถูกท่านซักคน เพียงแต่เวลาท่านถามขอให้ดูอารมณ์ผมนิดหนึ่ง ผมจะตอบผมก็ดูอารมณ์ของผม และดูอารมณ์ท่าน ผมไม่ใช่ศัตรูท่านซักสื่อ แต่ทำไมมันจองล้างจองผลาญกันหนัก ผมไม่เข้าใจ มันก็เป็นสื่อเลือกข้างเหมือนเดิมนั้นแหล่ะ ไม่อยากจะพูด อยากให้ทุกคนใจเย็นกันบ้าง ถ้าทุกคนใจร้อนหมด ผมก็ใจร้อน ซึ่งผมใจร้อนกว่าท่านอยู่แล้ว เวลาผมจำกัด ผมเริ่มทุกอย่างให้ได้เป็น 100 เรื่องโดยจะเริ่มทำส่วนที่ 1 ขณะส่วนที่ 2 ที่ทำไม่ได้จะส่งต่อให้รัฐบาลหน้า"

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เห็นแถลงการณ์ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็แถลงไป เวลาอย่างนี้เล่นงานผม เวลาพวกคุณทำความผิด ไอ้สมาคมทำอะไรให้ตนบ้าง มีไหม เมื่อถามว่า สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ แถลงข่าวปฏิเสธ ไม่ใช่เรื่องจริงจากกรณีที่นายกฯ ระบุว่า นักข่าวได้รับใบสั่ง ให้เขียนถึงรัฐบาลในทางที่ไม่ดี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ ตนเห็นแล้ว แล้วทำไมไปทำนองนั้น ซึ่งวิธีการเขียน มันเขียนแบบนั้น เอาหล่ะไม่ได้โกรธกันอยู่แล้ว เพียงแต่มีอารมณ์บ้างเป็นธรรมดา ก็ต้องคิดงานอะไรต่างๆ เยอะเพื่อขับเคลื่อนคนทั้งประเทศ สั่งการทั้งประเทศไม่ใช่นั่งฟังเขาเสนอมาแล้วอนุมัติอย่างเดียว ทั้งริเริ่มแล้วเอาข้อเสนอมาตัดสินใจจากที่นู้นที่นี่ มีทั้งงานฟังก์ชั่นและงานนโยบายที่ 20 กว่าเรื่อง งานวาระแห่งชาติอีก รวมถึงต้องแก้ปัญหาที่หมักหมมมายาวนาน ที่พูดมาทั้งหมดกี่เรื่องแล้วมาหาว่า ตนไม่ทำอะไรเลยเป็นธรรมกับผมหน่อย หนังสือพิมพ์เขียนก็ไม่รู้ ใครพูดก็ไม่รู้ ไปหามา เอามาวัดกันที่ผ่านมากับที่ผมทำวันนี้ทำอะไรไปบ้าง อย่ามาพูดเปล่า ๆ"

เมื่อถามว่า สื่อที่เป็นมิตรกับนายกฯ ก็มีเยอะ นายกฯ กล่าวว่า"เป็นมิตรทุกสื่อ ผมไม่ได้เป็นศัตรูกับท่าน แต่ไม่ใช่มีอำนาจเหนือผมไม่ใช่ ผมไม่มีอำนาจเหนือท่าน และท่านไม่มีอำนาจเหนือผมแค่นั้นเอง เราต้องร่วมกันทำให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าให้ได้ ให้ต่างชาติเขาให้เกียรติเรา ให้ต่างชาติมองว่าประเทศไทยคลี่คลายความขัดแย้งได้ในเวลานี้ ทำไมไม่เขียนทำนองนี้ ถ้าเขียนแบบทุกวันนี้การค้า การลงทุนก็ไม่มา การท่องเที่ยวก็จะถอยออกไป สิ่งที่ผมพูดทุกวันนี้เป็นทั้งอนาคตและทุกวันนี้ทำไมไม่เอามามองบ้าง ว่ามันจะดีขึ้นเดี๋ยวนายกฯคนนี้ก็ไปแล้ว แล้วไปคาดหวังกับคนหน้า ที่จะมาทำต่อเขียนอย่างนี้สิ อย่างอื่นก็กระเซ้าเย้าแหย่ธรรมดา ผมไม่ได้โกรธ แต่เขียนในเชิงที่ว่าผมไม่ได้ทำอะไรเลย และเรื่องการเมืองอยู่นั้นแหล่ะ ซึ่งวันนี้การเมืองยังไม่เกิด ยังไม่มี เดี๋ยวค่อยไปทะเลาะกันตอนมีการเมืองก็แล้วกัน ผมไม่ทะเลาะกับใครอยู่แล้วคนจะเป็นจะตายน้ำท่าก็ไม่มี คิดอยู่ทำอย่างไรจะให้มีน้ำ มีรายได้ให้เกษตรกร"

เมื่อถามว่า อยากจะคุยกับบรรณาธิการบริหารแต่ละสำนักพิมพ์อีกครั้งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่เอา ทำไมต้องคุย เขาขึ้นตรงบังคับบัญชากับตนหรืออย่างไรก็ไม่ได้ขึ้น ซึ่งตอนเข้ามาใหม่ๆ คุยไปแล้วก็ไม่เห็นดีขึ้น ก็ไม่คุยแล้วขี้เกียจคุย แต่ถ้าคุยแล้วก้าวหน้าก็จะคุย ถ้าคุยแล้วเหมือนเดิมไม่คุย พอแล้วเสียเวลา ต้องให้เกียรติกันบ้างสิแค่นั้น ซึ่งตนก็ให้เกียรติสื่ออยู่แล้ว แต่อย่ามาก้าวก่ายสิทธิของตน วันนี้ที่เชิญผู้บริหารสื่อมาคุยก็ดีหมด ครับๆ ผม พี่ เดี๋ยวเราคุยกันนอกรอบ วันรุ่งขึ้น 3 วันด่าใหม่ แล้วตนจะไปคุยทำไม โอเคนะ ขอบคุณทุกคน เสียงดังไปบ้างก็ขอโทษ"