ผบ.ทบ.ยันไม่มีรัฐประหาร หลังเกิดข่าวลือ

ผบ.ทบ.ยันไม่มีรัฐประหาร หลังเกิดข่าวลือ

ผบ.ทบ.ภูมิใจทหารเสือสุรสีห์ดูแลชาติบ้านเมือง-รักษาความสงบ ยันไม่มีรัฐประหารหลังเกิดข่าวลือ ชี้กองทัพหนุน "ประยุทธ์" เต็มที่

วานนี้ (8 มิ.ย.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ ทบ.เดินทางมาร่วมงานวันสถาปนาหน่วยครบรอบ 44 ปี พร้อมชมสาธิตการปฏิบัติการทางยุทธวิธีของกำลัง พล.ร. 9 ซึ่งเป็นหน่วยพร้อมรบระดับหนึ่งของกองทัพบก โดยพล.อ.อุดมเดช กล่าวกับกำลังพลว่า กำลังพลทุกคนของ พล.ร.9 ได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ และ ขีดความสามารถในการปฏิบัติ ทั้งภารกิจป้องกันชายแดน การรักษาความสงบเรียบร้อย การรักษาความมั่นคงภายใน และการช่วยเหลือประชาชน ทั้งนี้ ตนได้ติดตามผลการดำเนินการของกำลังพล ขอชื่นชมยินดี และขอให้กำลังใจทุกคนในการทำหน้าที่อย่างไรก็ตาม เกียรติยศ ศักดิ์ศรี ของ พล.ร.9 ที่ผู้บังคับบัญชาและกำลังพลทุกคนที่ผ่านหน่วยนี้ ตนมั่นใจว่าถ้าพวกเขาติดตามผลการปฏิบัติงานมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน คงภาคภูมิใจที่พวกเราสามารถยืนหยัดเกียรติยศศักดิ์ศรีให้ประชาชนเป็นที่ประจักษ์ได้ถึงทุกวันนี้

 

“ ในปัจจุบันยังมีสถานการณ์ที่ทหารต้องดูแล ทั้งการป้องกันชายแดน การรักษาความสงบ หวังว่ากำลังพลทุกคนจะพยายามอย่างยิ่งให้บรรลุเป้าหมายตามที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้วางไว้ พวกเราเป็นทหารเสือพระสุรสีห์ ตามสมัญญานามของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสีหนาท ในรัชกาลที่ 1 เราจึงมีความภาคภูมิใจในการเป็นทหารเสือพระสุรสีห์ พร้อมปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่สมกับที่ในอดีต จนถึงปัจจุบันที่บรรพบุรุษรักษาบ้านเมืองด้วยเลือดเนื้อ และชีวิต ขอให้พวกเราทุกคนภูมิใจและตั้งใจทำงานให้สมกับคำขวัญที่ว่า จริงใจ ริเริ่ม จริงจัง เพื่อชาติและราชบัลลังก์ ขอให้กำลังตระหนักในหน้าท่ในปัจจุบันและต่อเนื่องไปในอนาคคต ทุกสิ่งทุกอย่างเราสามารถช่วยชาติบ้านเมืองได้ ถ้าเราทำงานเต็มที่เกียรติยศ ศักดิ์ศรีก็มาสู่ตัวท่านเอง และหน่วย รวมถึงชาติบ้านเมือง จึงฝากความปรารถนาดีมาสู่พวกเราว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงมีความตั้งใจแน่วแน่ในการรักษาชาติบ้านเมืองให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ขอให้ทุกคนตั้งใจในการทำงานให้เต็มที่” พล.อุดมเดช กล่าว 

 

จากนั้น พล.อ.อุดมเดช ให้สัมภาษณ์ถึงการวามาตรการในการดูแลช่วงรณรงค์ร่างรัฐธรรมนูญก่อนลงประชามติว่า คิดว่าประชาชนมีความเข้าใจ อาจมีคนไม่เห็นด้วยบ้างเกี่ยวกับผลกระทบประโยชน์ของเขาหลายประการ แต่ตนเชื่อว่าขณะนี้เราอยู่ได้ด้วยคนส่วนใหญ่ที่เข้าใจรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ไม่ยึดติดในสิ่งเหล่านี้แต่ก้าวเข้ามาเพราะเกิดวิกฤตรุนแรงจริงๆ ถ้าไม่แก้ไข ก็คงไม่เรียบร้อยเหมือนในขณะนี้ ซึ่งมองไม่ออกว่าถ้าไม่เข้ามาตอนนี้จะเป็นอย่างไร แต่เมื่อเข้ามาแล้วสถานการณ์เรียบร้อยทุกคนก็อย่าลืมภาพที่ผ่านมาว่าเหตุการณ์ต่างๆ เกิดจากความไม่เข้าใจ ไม่สามัคคี และไม่ปรองดองกัน ตอนนี้จึงต้องร่วมมือและพูดคุยกันตามช่องทางที่ถูกต้อง เข้าใจว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี

 

“ของวิงวอนให้ทุกคนเข้าใจและเราสามารถแสดงความคิดเห็นตามกรอบได้ เมื่อเรียบร้อยไปตามโรดแม็พ ก็คงดำเนินการไปตามนั้น แต่ระยะเวลาในโรดแม็พก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย ถ้าราบรื่นดีก็จะเป็นไปตามที่วางไว้ แต่อาจจะมีการปรับเวลายืดออกไปบ้างก็คงไม่มากอะไรนัก อยู่ที่ขั้นตอนต่างๆ เช่นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นต้น ทางรัฐบาลไม่ได้ไปกะเกณฑ์อะไร เป็นเรื่องที่ผู้เกี่ยวข้องออกมาว่าจะมียางอย่างที่จะแก้ไขหรือไม่ เวลาอาจขยับไปบ้าวแต่คงไม่ยาวนานเกินไปกว่าที่พวกเรารอคอย ในส่วนของผู้มีความเห็นต่างต่อร่างรัฐธรรมนูญและจะออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านน้ัน เราจะพยายามทำความเข้าใจเป็นหลัก และให้เสนอเข้ามาตามกรอบ ไม่อยากให้เกิดปัญหาอะไร ในช่วงเวลาที่เราทำอะไรได้ก็คงให้กองกำลังรักษาความสงบ( กกล.รส.)ดูแลสถานการณ์ให้เรียบร้อยต่อไป ถ้าเราช่วยกันทำให้นิ่งได้ มันก็จะไปได้ ไม่สะดุด แต่ถ้ามาแสดงความเห็นต่างนอกกรอบทำให้สถานการณ์กระเพื่อมก็จะมีผลต่อส่วนรวม” ผบ.ทบ. ระบุ

 

เมื่อถามว่า มีข่าวลือเรื่องปฏิวัติซ้อนหลังข่าวเรื่องสถาบัน พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ไม่มีแน่นอน กองทัพยังยึดถือนโยบายรัฐบาล และตัวท่าน นายกรัฐมนตรี ทุกอย่างเป็นไปตามต้องการในการทำให้ประเทศชาติมั่นคง องค์การที่อยู่ภายใต้รัฐบาลก็ร่วมมือร่วมใจกันดี กองทัพพร้อมช่วยรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่