ดีเอสไอ ส่งสำนวนทุจริตปล่อยกู้สกสค.ให้ปปช.ไต่สวน

ดีเอสไอ ส่งสำนวนทุจริตปล่อยกู้สกสค.ให้ปปช.ไต่สวน

ดีเอสไอส่งสำนวนทุจริตปล่อยกู้สกสค.ให้ป.ป.ช.ไต่สวน พรุ่งนี้ชุดสอบสวนคดียักยอกสหกรณ์คลองจั่น

พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว รองอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า พ.ต.ท.อัมฤต บูรณะกิจเจริญ ผอ.ส่วนคดีอาญาพิเศษ 1 นำสำนวนการตรวจสอบสืบสวนกรณี อดีตผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ปฏิบัติหน้าที่มิชอบปล่อยกู้เงินกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์เพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) กับบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด ทำให้รัฐเสียหาย 3,000 ล้านบาท ไปส่งให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนตามกฎหมาย

ส่วนข้อร้องเรียนอื่น เช่นความผิดฐานฟอกเงิน ฉ้อโกง และกรณีครูร้องให้ตรวจสอบการบังคับครูซื้อกรมธรรม์คุ้มครองสินเชื่อ แต่มีข้อสงสัยเป็นประกันอุบัติเหตุนั้น ดีเอสไออยู่ระหว่างตรวจสอบเป็นรายคดีพ.ต.ท.พงษ์อินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาดีเอสไอ ได้ส่งข้อมูลที่ส่อทุจริตในสกสค.ให้กับผู้บริหารสกสค. ชุดปัจจุบัน เป็นระยะ โดยเฉพาะกรณีผลตรวจสอบหลักทรัพย์ค้ำประกัน ที่ประกอบด้วย โฉนดที่ดิน ดร๊าฟ เช็ค ซึ่งเป็นเอกสารปลอมดร๊าฟและเช็คไม่มีเงินจริง ซึ่งผู้บริหาร สกสค. ปัจจุบัน ต้องแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีฐานฉ้อโกง อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังไม่เป็นคดีพิเศษ และยังไม่มีการร้องขอเป็นคดีพิเศษ ดังนั้นการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดจึงเป็นอำนาจตำรวจ โดยผู้บริหารสกสค. ชุดปัจจุบัน ต้องแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ไม่เกิน 30 วัน นับจากวันที่รู้ว่าถูกฉ้อโกง ในส่วนของดีเอสไอจะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษให้ป.ป.ช.ไต่สวนในข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ปฏิบัติมิชอบ 

แหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่าวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ชุดตรวจสอบเส้นทางการเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด มีหมายเรียกนายสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา หรือเสี่ยบิ๊ก ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ และกรรมการบริษัทบิลเลี่ยนฯ มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำกรณีมีชื่อรับเช็คจากสหกรณ์ฯคลองจั่น กว่า 10 ล้านบาท ในช่วงปี 2552 และ 2553 เบื้องต้น มีข้อมูลว่านายสัมฤทธิ์มีความเชื่อมโยงทางการเงินกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่นฯ โดยนายสัมฤทธิ์ถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดทรัพย์ กรณีรับเงิน 2,100 ล้านบาทจาก สกสค.