ไทย-มาเลย์ได้ข้อสรุป ขอใช้พื้นที่ลำเลียงศพโรฮิงญา

 ไทย-มาเลย์ได้ข้อสรุป ขอใช้พื้นที่ลำเลียงศพโรฮิงญา

หารือร่วมไทย-มาเลเซีย เปิดทางให้เพื่อนบ้านใช้พื้นที่ในขั้นตอนการลำเลียงศพโรฮิงญา

สภ.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันทน์  ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9  ,นายเอกรัฐ หลีเส็น รองผวจ.สงขลา ,ตัวแทนกองทัพภาคที่4 และหน่วยงานทุกภาคส่วน ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและตำรวจสอบสวนกลาง ประเทศมาเลเซีย เพื่อร่วมพิจารณาข้อเสนอที่ฝ่ายมาเลเซียร้องขออนุญาต ใช้พื้นที่ฝั่งไทยในการลำเลียงศพ หลังจากที่มีการตรวจพบหลุม139หลุม บนเขาปาดังเบซาร์ รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นพื้นที่ี่รอยต่อบริเวณเทือกเขาแก้ว อ.สะเดา จ. สงขลา ที่เป็นพื้นที่จุดเริ่มต้นในการขุดพบศพโรฮิงญา

โดยข้อสรุปในวันนี้คือเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย อนุญาตให้เจ้าหน้าที่มาเลเซียใช้พื้นที่ฝั่งไทยในการเดินทางผ่านแดนเข้าไปในพื้นที่ฝั่งมาเลเซียเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนในการตรวจสอบหลุมที่พบ โดยการสำรวจจะเริ่มในวันพรุ่งนี้(3มิ.ย.) ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย จะขึ้นไปสำรวจพื้นที่พร้อมกัน ทั้งนี้หากมาเลเซีย จำเป็นต้องใช้พื้นที่ภาคพื้นดินก็พร้อมให้ดำเนินการในการลำเลียงศพเพราะเข้าใจในสภาพพื้นที่ 

แต่หากพิจารณาพื้นที่สามารถใช้การลำเลียงทางอากาศโดยเฮลิคอปเตอร์ได้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้พื่นที่ฝั่งไทยในการดำเนินการ ซึ่งก็ต้องรอการสำรวจพื้นที่จริงๆร่วมกันอีกครั้ง ทั้งนี้ยืนยันว่าจะอำนวยความสะดวกเฉพาะการใช้พื้นที่ผ่านแดนเท่านั้น เบื้องต้นที่ตกลงกันจะมีเจ้าหน้าที่มาเลเซีย 80นาย ที่เข้าร่วมในการเดินทางปฎิบัติการดังกล่าว ส่วนขั้นตอนการดำเนินการตั้งแต่การขุดศพและการตรวจสอบ กระทั่งการใช้เวลาในการดำเนินการในประเด็นต่างๆเป็นเรื่องของฝั่งมาเลเซีย ในการจัดการทั้งหมด 

พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 ในฐานะ โฆษกศปก.ภ.9สน.กล่าวว่า ถือเป็นความร่วมมือกันของทั้ง 2 ฝ่าย ในการประสานงานกัน ซึ่งในเนื้อหาก็ต้องมาดูเรื่องพิกัดและเส้นทางที่ชัดเจนอีกครั้ง ว่าจะดำเนินการได้มากน้อยขนาดไหน