วิตกกรีซกดหุ้นสหรัฐร่วง

วิตกกรีซกดหุ้นสหรัฐร่วง

ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐปรับตัวลดลง ตามตลาดยุโรป ท่ามกลางความวิตกถึงความเป็นไปได้ที่กรีซจะออกจากกลุ่มยูโร

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) ลดลง 36.87 จุด หรือ 0.20% มาอยู่ที่ 18,126.12 จุด
ขณะที่ดัชนีเอส แอนด์ พี 500 ลดลง 2.69 จุด หรือ 0.13% มาอยู่ที่ 2,120.79 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับลงมา 8.62 จุด หรือ 0.17% ปิดซื้อขายที่ 5,097.98 จุด

ดัชนีแด็กซ์ 30 ของเยอรมนี ร่วงลง 0.79% มาอยู่ที่ 11, 677.57 จุด ขณะที่ดัชนีแค็ก 40 ของฝรั่งเศส ลดลง 0.86% มาอยู่ที่ 5,137.83 จุด แต่ดัชนีเอฟทีเอสอี 100 ของอังกฤษ ปรับขึ้น 0.11% ที่ 7,040.92 จุด

ตลาดตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก หลังจากที่กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ นางคริสติน ลาการ์ด ที่เข้าร่วมการประชุมจี 7 เตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่กรีซอาจจะออกจากกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 19 ชาติ และหากเกิดขึ้นจริง ก็จะเป็นเรื่องราวที่สร้างความยากลำบากให้กับยุโรปอย่างแน่นอน

ข้อมูลน้ำมันหนุนราคาขยับขึ้น
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย หลังรายงานปริมาณน้ำมันสำรองของสหรัฐ แสดงให้เห็นว่า น้ำมันดิบ และน้ำมันเบนซินสำรอง ลดลงมากกว่าที่คาดไว้ แม้การผลิตจะเพิ่มขึ้นก็ตาม

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ส่งมอบเดือนกรกฎาคม ที่ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ปรับขึ้น 17 เซนต์ มาอยู่ที่ 57.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ส่งมอบเดือนเดียวกัน ในตลาดลอนดอน อังกฤษ ขยับขึ้นมา 52 เซนต์ มาอยู่ที่ 62.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

รายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐ ระบุว่า ในช่วง 1 สัปดาห์ นับถึงวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา สหรัฐมีน้ำมันดิบสำรองเชิงพาณิชย์ลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 497.4 ล้านบาร์เรล ส่วนน้ำมันเบนซินสำรองลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน