เพลินวันวาน ณ บ้านนอนเพลิน

เพลินวันวาน ณ บ้านนอนเพลิน

นอกจากจะเป็นที่พักอาศัยให้ได้หลบร้อน กันฝน ทนหนาวแล้ว ใต้หลังคาที่ทุกคนเรียกว่า "บ้าน" ยังมีความอบอุ่นคุ้นเคยชนิดที่ที่พักประเภทอื่นไม่มี

ความอบอุ่นที่ว่าส่งผ่านมาจากความรักและความทรงจำที่งดงาม ทุกๆ ความเคลื่อนไหวในบ้าน ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดความผูกผันและความอบอุ่นทั้งสิ้น


เช่นเดียวกับ บ้านนอนเพลิน ที่พักหลังใหญ่ใจกลางเมืองเชียงราย สถานที่แห่งนี้ซุกซ่อนความทรงจำอันแสนน่ารักเอาไว้ แต่ก็เผยให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสหากมีหัวใจที่เปิดรับอย่างเต็มเปี่ยม


ภชฤมน หาญพิพัฒน์ หรือ ครูกุ้ง เจ้าของบ้านนอนเพลิน เล่าให้ฟังว่า เดิมทีบริเวณบ้านแห่งนี้เคยเป็นโรงเรียนเตรียมอนุบาลมานานกว่า 60 ปี ตั้งแต่สมัย "ครูศรีพันธุ์" ซึ่งเป็นคุณย่าของครูกุ้ง โดยชาวเชียงรายจะรู้จักกันดีในชื่อ "โรงเรียนครูศรีพันธุ์" ที่เป็นสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งแรกๆ ของเชียงราย แต่เมื่อครูกุ้งมารับช่วงต่อจึงเปลี่ยนมาเป็น "โรงเรียนเตรียมอนุบาลศรีพันธุ์" รับดูแลเด็กตั้งแต่อายุ 1 ขวบครึ่งไปจนถึง 5 ปี


"ครูกุ้งทำต่อมาอีก 26 ปี จนรู้สึกว่าอยากพัก อยากเออร์ลี่ตัวเองออกมา เพราะว่างานดูแลเด็กเป็นงานที่ละเอียดอ่อนมาก ถามว่าสนุกมั้ย สนุกนะ ไม่งั้นครูกุ้งไม่ทำมาถึง 26 ปี แต่ทีนี้มันละเอียดเกินไป จะให้เด็กรุ่นใหม่มาสานต่อครูก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะละเอียดได้แบบเรามั้ย แล้วลูกครูก็เป็นผู้ชายทั้งคู่ เขามีทางของเขา เราเลยพักจากตรงนี้ แต่ก็คิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง เริ่มต้นใหม่ตอนที่อายุยังไม่มากจะดีกว่า"


การตัดสินใจครั้งนั้นทำให้ผู้ปกครองของเด็กทุกคนใจหาย เพราะฝากชีวิตกับโรงเรียนนี้ไว้ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าจนแทบจะเป็นโรงเรียนประจำตระกูล ทว่า ทุกคนก็เข้าใจ เพราะครูกุ้งได้อธิบายเหตุผล พร้อมทั้งบอกกล่าวกันล่วงหน้านานกว่า 6 เดือน เด็กๆ จึงหาที่เรียนใหม่ได้ทัน


เพราะเป็นคนชอบท่องเที่ยวในแนวธรรมชาติ และหลงรักกลิ่นไอแห่งอดีต ทำให้ครูกุ้งคิดทำที่พักแนวบูทีคโฮเทล โดยปรับปรุงโรงเรียนอนุบาลศรีพันธุ์ให้เป็นห้องพักของนักเดินทาง ซึ่งการตกแต่งทั้งหมดนั้นมาจากความคิดสร้างสรรค์และการนำของเก่ามาประยุกต์โดยครูกุ้งทั้งสิ้น


"ครูกุ้งเป็นคนชอบอนุรักษ์ของดั้งเดิม รู้สึกว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าแก่ คนรุ่นใหม่ชอบรื้อแล้วสร้างเป็นตึก เพราะที่ดินแพง ต้องทำสูงๆ ไว้ถึงจะคุ้ม แต่ครูกุ้งไม่ มีเท่าไรทำเท่านั้น แล้วเรามีความรู้สึกว่าต้องอนุรักษ์ของที่เป็นมรดกไว้ ความเป็นคุณย่าอยู่ตรงนี้ หากทุบไปคงเสียดาย ท่านอุตส่าห์สร้างมา แล้วเราก็ทำมาหากินตอนเป็นโรงเรียนด้วย เลยตัดสินใจปรับปรุงให้เป็นที่พัก แบบนี้มันมีเสน่ห์ ใครมาเห็นก็ชมว่าสวยจัง"


ภายในพื้นที่ราว 1 ไร่เศษ มีบ้านไม้ทรงไทยล้านนาผสมโคโลเนียลสีน้ำตาล-ขาว 3 หลังตั้งอยู่ แทรกซ้อนไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยเขียวครึ้มชื่นใจ ตรงกลางบริเวณจัดสรรให้เป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆ ในชื่อ "ห้องนันทนาการ" ส่วนห้องพักทั้ง 14 ห้องนั้น มีชื่อเป็นห้องเรียนระดับอนุบาล ไล่มาตั้งแต่ อนุบาล1-3 ได้กลิ่นไอแห่งความสนุกสนานของโรงเรียนอนุบาลสมัยก่อนจริงๆ


ด้วยความที่เป็น "บ้าน" ที่ผ่านเรื่องราวมามากมาย การเข้าพักในบ้านนอนเพลินจึงคล้ายกับการกลับมาสัมผัสไออุ่นแห่งความสุขที่นักท่องเที่ยวทุกคนเป็นเจ้าของบ้านร่วมกัน ตอนเช้ามีอาหารเช้าให้ แต่ถ้าใครอยากเจียวไข่ ทำไข่ดาว ต้องลงมือเอง เมื่อรับประทานเสร็จแล้วก็ช่วยกันเก็บล้างเหมือนอยู่บ้าน มีจักรยานก็ขี่ออกไปเที่ยวในเมืองได้ ห้องนั่งเล่นสามารถใช้ได้ตลอดเวลา มีชากาแฟบริการ 24 ชั่วโมง ส่วนน้ำดื่มก็มีให้แบบไม่จำกัด สำหรับนักท่องโลกอินเทอร์เน็ตสามารถใช้ไวไฟฟรีได้ทุกพื้นที่


"ข้อเด่นของเราคือความอบอุ่น อธิบายไม่ได้เหมือนกัน แขกที่มาพักจะรู้เองว่าคืออะไร สโลแกน คือ นอนเพลินเพลินที่บ้านนอนเพลิน เหมือนมานอนบ้านญาติ มาหาเพื่อนฝูง แขกที่มานอนประจำก็จะบอกว่า ผมกลับมาบ้านผมแล้วนะ การที่มีกิจกรรมทำอาหารด้วยตัวเอง เจียวไข่ ล้างจาน เป็นเสน่ห์ของเรา ไม่มีใครมาแล้วแบบ...ทำไมต้องทำ เวลามีแขกมาก็จะช่วยกันทำ ชั้นเจียวไข่เธอล้างจานนะ ก็สนุกดี ตอนแรกก็กังวลว่าจะเป็นยังไง เพราะที่อื่นมีบริกรดูแล ยกกระเป๋า ทำอะไร แต่เราไม่มี"


สุดท้ายครูกุ้งก็พบว่า นี่แหละคือหลักการทำบูทีคโฮเทลของจริง เพราะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เลือกมาพักแบบนี้จะแตกต่างจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เลือกพักในรูปแบบโรงแรม ฉะนั้นการดูแลตัวเองอย่างพอเหมาะพอควรคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ


"วันหยุดครูกุ้งหายไปหมด เพราะเราทำงานทุกวัน แต่ครูกุ้งสนุกมากเลยนะ นี่เดี๋ยวครูกุ้งก็จะต้องเดินดูความเรียบร้อยรอบๆ บ้าน ประมาณ 4 ทุ่มครูกุ้งจะไม่รับแขกแล้ว ที่วอล์คอินเข้ามาก็ไม่เอา เพราะแขกคนอื่นๆ ของเราพักผ่อนแล้ว เราเกรงใจ ก็จะปิดประตูตอน 4 ทุ่ม เพื่อให้แขกในบ้านเราได้พักผ่อน"


จากวันแรกที่เปิดให้บริการคือ 8 กันยายน 2554 จนถึงวันนี้ ครูกุ้งบอกว่า แม้จะเหนื่อยที่ต้องดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้ามา แต่ก็สุขใจเพราะได้รักษาบ้านที่เป็นมรดกตกทอด ตลอดจนรักษาความทรงจำที่งดงาม


เสียงหัวเราะของเด็กๆ เมื่อครั้งเป็นโรงเรียนเตรียมอนุบาล และความรู้ที่คุณครูทุกท่านมอบให้ ยังคงอบอวลอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่แสนอบอุ่นหลังนี้ บ้านที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ "บ้านนอนเพลิน"

....................

ที่ตั้ง : ถนนบรรพปราการ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
จุดเด่น : สงบ สบาย ง่าย เงียบ มีเรื่องราว
ราคา : 850 บาท, 990 บาท และ 1,500 บาท
ติดต่อ : โทรศัพท์ 08 4669 7926, 09 4697 9626 หรือ www.facebook.com/baannornplearn