นักท่องเที่ยวจีนกับผู้ดีเมืองน้ำหอม

กรุ๊ปนี้ทุบสถิติเป็นกรุ๊ปทัวร์ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เมืองน้ำหอมเลยทีเดียว

หลี่ จิ้น หยวน ประธานบริษัทที่ดำเนินธุรกิจทางด้านการท่องเที่ยวต้องจองโรงแรมในกรุงปารีส 140 แห่ง ใช้รองรับพนักงานทั้งหมด นอกจากนี้พนักงานทั้งหมดยังเดินทางไปยังโคตดาซูร์ ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส รวมไปถึงโมนาโก ผู้บริหารดีเด่นแห่งปีคนนี้ต้องจองห้องพักจำนวน4,760 ห้องของโรงแรมระดับ 4 และ 5 ดาว รวมทั้งหมด 79 แห่ง ในเมืองคานส์และโมนาโกให้พนักงาน เชื่อกันว่า งานนี้เขาต้องควักกระเป๋าจ่ายไปกว่า 33 ล้านยูโร หรือราว 1, 122 ล้านบาทเลยทีเดียว

กรุ๊ปทัวร์ประวัติศาสตร์นี้น่าจะทำให้ทางการฝรั่งเศสโล่งใจไปได้มากทีเดียว เพราะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ฝรั่งเศสประสบปัญหาโดนนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่พากันเบือนหน้าหนีเพราะปัญหาอาชญากรรม เช่น ขโมยของ ฉกชิงวิ่งราวและทำร้ายในฝรั่งเศสมีมากขึ้นและพวกเขาเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากร

ปัญหานี้รุนแรงจนถึงขนาดว่า สถานทูตจีนในฝรั่งเศสต้องออกหนังสือเตือนนักท่องเที่ยวชาวจีนให้หลีกเลี่ยงรถไฟใต้ดินที่วิ่งระหว่างใจกลางเมืองกับสนามบินชาร์ลส์ เดอ โกล สถานทูตแนะว่า ควรใช้รถโดยสาร แท็กซี่หรือพาหนะอื่นๆ จะปลอดภัยกว่า หนังสือพิมพ์ เดอะแสตนดาร์ดของฮ่องกงรายงานโดยอ้างสถานทูตจีนว่า ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ มีการปล้นคนจีนอย่างน้อย 4 ครั้งบนรถไฟด่วนซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองกับสนามบิน นักท่องเที่ยวคนหนึ่งตกเครื่องอดกลับบ้านหลังจากกระเป๋าโดนขโมยบนรถไฟดังกล่าว

ทางการฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เพราะคนจีนเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ของประเทศ วูลฟ์กัง จอร์จ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวนอกประเทศของจีน กล่าวว่า ฝรั่งเศสอยู่ในอันดับ 10 ของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนจีน เมื่อปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวจีนไปเที่ยวและชอปปิงที่ฝรั่งเศสเกือบ 2 ล้านคน (อันดับ 1 คือฮ่องกง) ในจำนวนนี้ ประมาณ 533,000 คน มาเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยที่ปารีส ทำให้จีนเป็นตลาดการท่องเที่ยวอันดับ 7 ของมหานครแห่งนี้

คเลมองต์ ลาลูส์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของสำนักงานการประชุมแห่งปารีส กล่าวว่า คนจีนเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายมากที่สุดในปารีส คือประมาณ 1,500 ยูโร (76,500 บาท) ต่อคน ส่วนใหญ่เพื่อซื้อสินค้าแบรนด์เนม

“การซื้อของแบรนด์เนมในปารีสถูกกว่าซื้อในจีนมาก นอกจากนี้ยังได้เงินคืนภาษี 12 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย ทำให้คนจีนพากันมาซื้อของในปารีส”

นักท่องเที่ยวจีนตกเป็นเป้าได้ง่ายเพราะพวกเขาชอบแลกเงินหยวนทีละมากๆ เพื่อไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแลกเงินหลายครั้ง พวกเขาชอบใช้แบงค์ใหญ่ซื้อของเล็กๆ เช่นใช้ใบละ 100 ยูโรเพื่อซื้อไอติมเท่านั้น นอกจากนี้ บัตรเครดิตก็ยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายอีกด้วย

รัฐบาลฝรั่งเศสหันมาเอาจริงเอาจังเรื่องนี้หลังจากนักธุรกิจชาวจีนคนหนึ่งโดนขโมยกระเป๋าที่สถานีรถไฟ เขาเขียนจดหมายร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสให้ช่วยปรับปรุงความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว จดหมายของเขามีคนจีนลงนามสนับสนุนถึง 50,000 คนเลยทีเดียว

ทางการฝรั่งเศสจึงปรับแผนด้านความปลอดภัยใหม่โดยเพิ่มมาตรการถึง 26 ข้อ เช่น เพิ่มจำนวนของตำรวจและการลาดตระเวนในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น พิพิธภัณฑ์ลูฟว์ มองมาร์ต นอร์ตเตอร์ดามและชองอาลิเซ่ นครปารีสถึงกับทำคู่มือสำหรับนักท่องเที่ยวโดยใช้ชื่อว่า “ไกด์สำหรับการอยู่อย่างปลอดภัยในปารีส” ฉบับภาษาจีน คำแนะนำคือ ให้นักท่องเที่ยวถือเงินไว้กับตัวให้น้อยที่สุด ให้แลกแบงค์ย่อยและระวังแกงค์วัยรุ่นที่มักทำทีเข้ามาขอความช่วยเหลือและถือโอกาสล้วงกระเป๋า คำแนะนำรวมถึงว่าอย่าวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะในร้านอาหารและหลีกเลี่ยงการใส่ของมีค่าในที่สาธารณะ

กรมตำรวจของปารีสเปิดเว็บไซต์ภาษาจีน ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันอาชญากรรมและสถานที่ตั้งของสถานีตำรวจ ลาลูส์ กล่าวว่า ในเขตใจกลางเมือง นักท่องเที่ยวสามารถแจ้งความเป็นภาษาจีนได้เลยเพราะเรามีตำรวจซึ่งพูดภาษาจีนได้ ทางการจีนเคยเสนอว่า จะส่งตำรวจจีนมาทำงานที่ปารีสเพื่อช่วยนักท่องเที่ยวจีนที่มีปัญหา แต่แผนนี้ถูกยกเลิกไปเพราะมีปัญหาการบริหารงาน

ชอง-ฟรังซัวร์ ซู ประธานสมาคมการท่องเที่ยวจีนในฝรั่งเศสกล่าวว่า “คนจีนมองฝรั่งเศสอย่างหลงใหล พวกเขาหลงรักวรรณคดีฝรั่งเศสและเรื่องราวความรักแบบฝรั่งเศส แต่พวกเขาหลายคนจบการท่องเที่ยวที่นี่ด้วยน้ำตาและสาบานว่า จะไม่กลับมาฝรั่งเศสอีก”

เมื่อเร็วๆ นี้ ทางการปารีสอ้างว่า การเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมนี้ได้ผลเพราะทำให้จำนวนอาชญากรรมลดลง 25 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็คงต้องดูกันต่อไปว่า ปารีสจะกลับมามีมนต์ขลังพอที่จะดึงนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาอีกได้หรือไม่

นอกจากนี้ คนจีนหลายคนผิดหวังกับภาพของนครปารีสที่พวกเขาวาดฝันไว้กับภาพที่เป็นจริง เจียง ฮี นักศึกษามหาวิทยาลัยจากเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า เขาผิดหวังในทันทีที่ถึงปารีสทั้งๆ ที่เขาเลือกที่นี่เป็นทริปต่างประเทศของเขา ในทันทีที่ถึงสนามบินชาร์ลส์ เดอ โกล ก็พบว่ากระเป๋าของนักท่องเที่ยวจีนคนหนึ่งโดนขโมย นอกจากนี้ เขายังประหลาดใจว่า ถนนในปารีสสกปรกและเต็มไปด้วยก้นบุหรี่และขยะ

“ผมนึกว่ายุโรปจะสะอาดกว่านี้ แต่ปารีสสกปรกมาก คนปารีสก็ไม่สนใจเรื่องความสะอาดเลย”