'ฮาวด์ซทูธ' ขนมสุดคูลของเจ้าสี่ขา

'ฮาวด์ซทูธ' ขนมสุดคูลของเจ้าสี่ขา

ขนมหลากสีสัน ในบรรจุภัณฑ์น่ารักน่าชัง ประทับตรา “ฮาวด์ซทูธ” ดูๆ ไปก็เหมือนของขวัญ หากใครจะคิดว่านี่คือขนมน้องหมาทีพร้อมละลายทรัพย์คนรักสุนัข

“คะวะอี้”

เสียงทักจากขาช้อปชาวญี่ปุ่น ทันทีที่ได้เห็นบูธ “ฮาวด์ซทูธ” (Houndstooth) ขนมน้องหมาหน้าตาน่ารักน่าชังสัญชาติไทยแท้ ในงาน “Interpets 2015” งานแสดงสินค้าสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ขณะที่ขาช้อปชาวไทย ที่ได้แวะเยือนงาน BIG&BIH 2015 ณ ไบเทค บางนา ในสองสัปดาห์ต่อมา ก็มีแต่คำพูดให้ว่า “น่ารักอ่ะ” ทักทายผลิตภัณฑ์ ฮาวด์ซทูธ

เราได้รู้จักผลงานสุดน่ารัก หลังการพูดคุยกับ “โบ-วัชรนันท์ พิริยพูล” ผู้ก่อตั้งขนมสุนัขแบรนด์ “ฮาวด์ซทูธ” ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้เพียงปีเศษ แต่ก็สร้างความตื่นเต้นให้ตลาดคนรักสุนัขเอามากๆ

วันที่คุยกัน เธออยู่ในชุดลาย “Houndstooth” ชื่อที่เรียกแพทเทิร์นลายตารางแฉกสี่เหลี่ยมสลับกันสองสี เช่น ขาว-ดำ ที่ดูเรียบง่าย ทว่าโก้หรู เธอว่า “ชอบเป็นพิเศษ” เลยเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ “ฮาวด์ซทูธ” และคอนเซ็ปต์ธุรกิจในวันนี้

“เริ่มธุรกิจนี้เมื่อปีที่แล้ว เกิดจากความคิดว่า ขนมของน้องหมาที่ขายอยู่ในตลาด จะมีแต่แบบเป็นห่อๆ ดูแล้วน่าเบื่อ เลยอยากเพิ่มความสนุกให้เจ้าของสามารถเลือกขนมให้น้องหมาได้เหมือนที่เลือกขนมให้ตัวเอง ซึ่งตอนแรกไม่ได้มองเป็นธุรกิจอะไรเลย ไม่ได้สำรวจตลาดด้วยซ้ำ แต่เกิดจากความสนุกล้วนๆ”

เธอเล่าที่มา ที่ไม่ได้ออกสตาร์ทจากคำว่า “ธุรกิจ” แต่คิดจากความสนุกและความชอบ โดยไม่มีพื้นฐานเรื่องการทำอาหารสุนัข และไม่ได้เรียนมาทางด้านดีไซน์ ลองย้อนไปดูแบคกราวน์ เธอคืออดีตสาวแบงก์ ที่อยู่ในสายงานด้านการเงินมาโดยตลอด ขณะครอบครัว (พิริยพูล) ก็ทำธุรกิจนำเข้าสินค้าจากทั่วโลก และขายชาออร์แกนิก (แบรนด์ ฮาร์โมนิค)

เลยพูดได้ว่า “ฮาวด์ซทูธ” เกิดจากความชอบ และการช่างแสวงหาของเจ้าตัวล้วนๆ“ง่ายๆ เลย เริ่มจากเปิดกูเกิลค้นดูว่า ขนมน้องหมามีอะไรบ้าง พบว่า มีน้องหมาบางตัวที่แพ้เนื้อไก่ สินค้าของเราเลยจะไม่ใส่เนื้อไก่เลย แต่ใช้โปรตีนสำหรับน้องหมาแทน เพื่อตอบโจทย์น้องหมาได้ทุกตัว เรียกว่า จะแพ้หรือไม่แพ้ก็กินของเราได้”

เธอบอกหัวใจของความปลอดภัย ที่ต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ โดยปัจจุบันเธอทำหน้าที่ออกแบบ แต่จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารสุนัขมาช่วยผลิตให้ ก่อนที่จะแต่งเติมด้วยสีสัน รูปแบบและกลิ่น เอาใจทั้งสุนัขและคนเลี้ยง

“เราให้ความสำคัญกับทั้งน้องหมาและคนเลี้ยงด้วย อย่างจะเห็นเลยว่า เราจะเน้นสีสันที่ดูน่ากิน ซึ่งน้องหมาเองบางทีเขาไม่รู้หรอกว่าสีแบบไหนน่ากิน แค่ได้กลิ่น ก็ชอบแล้ว ส่วนเรื่องสีสันเป็นของเจ้าของล้วนๆ”

เธอบอกเหตุผลที่ขนมของเจ้าสีขาต้องดีไซน์ออกมาเสียน่ารักน่าชัง ไม่ใช่เพราะเป็นความจำเป็น แต่ต้องบอกว่านี่เป็นความสุขอย่างหนึ่งของคนรักสุนัข นึกภาพง่ายๆ นี่ไม่ใช่แค่การเลือกซื้ออาหารให้น้องหมา แต่กำลังเลือกซื้อ “ของขวัญ” ที่จะสร้างความสุขให้ทั้งผู้ให้และผู้รับ

ส่วนการดีไซน์ที่ทำออกมาในหลายรูปแบบ เธอว่า “ไม่ได้ใช้ความรู้ แต่ใช้ความชอบล้วนๆ” โดยเลียนแบบมาจากขนมของคน หน้าตาของ ฮาวด์ซทูธ เลยดูน่าทานเหมือนขนมแคนดี้ของมนุษย์

ขนมน้องหมาเปิดตลาดครั้งแรก จากการลองแซมๆ ไปขายในบูธชาออร์แกนิกของครอบครัว เวลาไปออกร้านตามตลาดนัดคนรักสุขภาพ ปรากฏได้รับการตอบรับดีมาก ชนิดขายดีกว่าชาที่เป็นสินค้าหลักเสียด้วยซ้ำ จากนั้นธุรกิจก็ค่อยๆ ขยับขยาย จากการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งในเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ส่วนหน้าร้านหลัก อย่าหวังว่าจะหาเจอได้ที่ร้านเพ็ทช็อปทั่วๆ ไป เธอย้ำว่า ไม่ใช่ทาร์เก็ต แต่ต้องร้านขายสินค้าไลฟ์สไตล์ เท่านั้น

“ฮาวด์ซทูธ มีขายที่สยามเซ็นเตอร์ ในร้านขายสินค้าดีไซน์ เพราะมองว่า นี่ไม่ใช่แค่ขนมของน้องหมา แต่คือสินค้าไลฟ์สไตล์ ซึ่งแตกต่างจากการไปซื้ออาหารหรือขนมของน้องหมาตามร้านเพ็ทช็อปทั่วไป แต่เป็นการซื้อของขวัญให้น้องหมาที่รัก”

เธอบอกเหตุผลที่ไม่เลือกวางตัวเองเป็นสินค้าในร้านสัตว์เลี้ยง แต่เลือกช่องทางที่แตกต่างเปิดตลาดคนรักสุนัข

ราคาของขนมน้องหมา ขายแพงกว่าอาหารสุนัขทั่วไปอยู่บ้าง แต่ยังอยู่ในระดับราคาที่เข้าถึงได้ คือตั้งแต่ 115-300 บาท เธอว่า ถ้าเข้าไปตรงกลุ่ม เจอะกับลูกค้าที่เข้าใจคอนเซ็ปต์ และกำลังมองหาสิ่งพิเศษ ที่ไม่มีอยู่ในตลาดแล้วล่ะก็ ราคาแค่นี้ “ไม่ใช่ปัญหา” เพราะคนรักน้องหมายินดีที่จะจ่ายให้กับความพิเศษอยู่แล้ว

ขนมของเจ้าสี่ขาเปิดตัวสู่ตลาดได้ไม่นาน ก็มีโอกาสโกอินเตอร์ โดยหลังเป็นสมาชิกของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ฮาวด์ซทูธ ถูกคัดเลือกให้ไปร่วมงาน “Interpets 2015” งานแสดงสินค้าสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เวทีแรกก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ จากทั้งลูกค้าญี่ปุ่น และหลายๆ ประเทศ ผลพลอยได้จากงานนี้ คือมีลูกค้าชาวเกาหลี นำพา“ฮาวด์ซทูธ” ไปเปิดตลาดแดนกิมจิเป็นประเทศแรก

ขณะก่อนหน้านี้ เธอลองหอบหิ้วสินค้าไปขายตาม Street Market ที่ประเทศอังกฤษ ปรากฏได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน นั่นคือเสียงสะท้อนกลับของคำว่า “โอกาส” ที่คงไม่ใช่แค่ตลาดไทย แต่ยังไปได้อีกไกลในตลาดโลก

“ตลาดมีอยู่แล้ว มีคนให้ความสนใจ ขั้นตอนต่อไปก็ต้องมองหาผู้ส่งออก และวางแผนเรื่องทำตลาดส่งออกต่อไป ตอนนี้ติดอยู่ก็แค่ความพร้อมของโบเอง ความพร้อมในที่นี้ คือ การได้เจอคนที่เข้าใจในคอนเซ็ปต์ของเราจริงๆ”

ที่ต้องย้ำแบบนี้ เพราะเธอบอกว่า ฮาวด์ซทูธ ไม่ใช่แค่ขายสินค้า แต่กำลังขาย “คอนเซ็ปต์” ฉะนั้นใครที่จะมาช่วยทำตลาดให้ ก็ต้องคลิกในไอเดียเดียวกันนี้ด้วย

วันนี้อดีตสาวแบงก์ลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจเต็มตัว เธอบอกว่า ไม่ได้คิดถึงโจทย์ธุรกิจมากมายเหมือนคนอื่น ไม่เคยมีแผนธุรกิจ ไม่เคยสำรวจตลาด ไม่คิดด้วยซ้ำว่าแต่ละปีต้องทำเงินได้เท่าไร ทว่าสิ่งที่เธอใช้ในการเริ่มต้นธุรกิจ มีแค่คำสั้นๆ คือ “Passion” เพราะถ้าไม่ชอบ ไม่สนุก และไม่สุข คิดแต่จะทำธุรกิจ เธอว่า..การทำงานก็คงทุกข์ทรมานเอามากๆ

“ทำงานทุกอย่างต้องมี Passion ต้องชอบ และมีความสุขกับมัน เราถึงจะไม่รู้สึกเหนื่อยเลย แม้ว่างานนี้จะหนักแค่ไหน เพราะเหมือนได้ใช้ใจทำ เราถึงทำได้ดีที่สุด”

ส่วนโจทย์ยากๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมา เธอว่าก็ค่อยๆ แก้กันไป เพราะเชื่อว่าทุกปัญหา มีทางออกเสมอ ในเมื่อคนอื่นยังทำได้ เธอก็ต้องทำได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าแค่ยังมีความสุขกับมัน ต่อให้จะเจอโจทย์ยากแค่ไหน เชื่อว่าสุดท้ายก็จะฝ่าฟันไปได้

อีกหนึ่งไอเดียธุรกิจ ที่ใช้ความรักและความสนุก แจ้งเกิดในตลาดสัตว์เลี้ยงหมื่นล้าน!
..................................
Key to success
สูตรแจ้งเกิดแบรนด์ “ฮาวด์ซทูธ”

๐ ทำขนมน้องหมา หน้าตาขนมคน
๐ เริ่มต้นจากความชอบและความสนุก
๐ ขายคอนเซ็ปต์ ไม่ใช่อาหาร แต่คือ ของขวัญ
๐ ขายในร้านดีไซน์ ไม่ใช่เพ็ทช็อป
๐ ขนมน้องหมา แต่ต้องปลอดภัย ได้คุณภาพ
๐ หาคนเข้าใจคอนเซ็ปต์ขยายสู่ตลาดโลก