'เอสเทรค'คว้าดีลใหญ่ขาย 'เสี่ยวหมี่' ในไทย

'เอสเทรค'คว้าดีลใหญ่ขาย 'เสี่ยวหมี่' ในไทย

"เอสเทรค" ม้ามืดคว้าดีลขายสมาร์ทโฟนดาวรุ่งแบรนด์ดังจากจีน 'เสี่ยวหมี่' เตรียมชิมลางเปิดตัว "เอ็มไอ4" ครั้งแรกในงานโมบาย เอ็กซ์โป

นายณัฐวร สาครสินธุ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสเทรค (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอทีในกลุ่มค้าส่งของไทย เผยว่า บริษัทได้รับเลือกให้เป็นผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์ยอดนิยมจากจีน "เสี่ยวหมี่" ในฐานะ "ชาแนล ดิสทริบิวเตอร์ พาร์ทเนอร์" ที่รับสินค้าโดยตรงจากไบร์สตาร์ ซึ่งเป็นดิสทริบิวเตอร์หลักของเสี่ยวหมี่ในไทย

พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมจัดงานพรีลอนซ์ เพื่อทดลองเปิดตัวสมาร์ทโฟนเสี่ยวหมี่เป็นครั้งแรกในงาน "ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป" ระหว่างวันที่ 7-10 พ.ค.นี้สำหรับรุ่นเอ็มไอ 4 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในหลายตลาดนอกจีน และปัจจุบันยังขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ด้วยมูลค่าตลาด 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ 

แต่แผนเบื้องต้นสินค้าของเสี่ยวหมี่ จะพร้อมวางตลาดอย่างเป็นทางการราวสัปดาห์แรกของเดือน มิ.ย.นี้่ ซึ่งในงานโมบายจะเริ่มเปิดให้ผู้สนใจจองสินค้าได้ โดยข้อมูลจากเว็บโมบาย เอ็กซ์โป ระบุราคาขายเอ็มไอ 4 อยู่ที่ 10,990 บาท

นายณัฐวร ระบุว่า ช่วงนี้บริษัทกำลังพิจารณาหา "มาสเตอร์ ดีลเลอร์" เพื่อกระจายสินค้าลงไปถึงมือผู้บริโภค เนื่องจากเอสเทรคมีช่องทางการขายหลากหลาย ทั้งห้างร้านไอทีขนาดใหญ่ และเชน สโตร์ต่างๆ หลายพันแห่ง รวมถึงช่องทางการขายตรงสำหรับกลุ่มองค์กร และขายส่งสำหรับเว็บออนไลน์ เช่น ราคูเท็น และลาซาด้า

"เสี่ยวหมี่เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมาก และเกิดจากการขายออนไลน์ แต่ต้องยอมรับว่าการขายในกลุ่มออนไลน์หรือกลุ่มโซเชียล ยังเข้าถึงยากสำหรับบ้านเรา ขณะที่เอสเทรคมีข้อดี คือ เราเป็นดิสตี้ที่รับสินค้าต้นน้ำเพื่อกระจายไปสู่ตู้และดีลเลอร์รายย่อยต่างๆ หลายพันร้าน และเราก็เป็นตัวแทนขายสินค้าไอทีที่อยู่มานาน มีความพร้อมที่จะดูแลตลาดอยู่แล้ว" นายณัฐวร กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีศูนย์บริการหลังการขายที่รองรับสินค้าไอทีเดิม และกลุ่มโมบาย 52 สาขา และกำลังเตรียมแผนขยายศูนย์บริการเอสเทรค โมบาย เพิ่มอีกเท่าตัวหรือราว 100 สาขา เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในกลุ่มโมบายให้ครอบคลุมมากขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อ เช่น สินค้าเสี่ยวมี่ที่สามารถติดต่อศูนย์บริการหลังการขายได้สะดวกมากกว่าการซื้อผ่านออนไลน์

ผู้บริหารเอสเทรคยังเผยว่า สินค้าไอทีในกลุ่มโมบายมีแนวโน้มเติบโตสูง ซึ่งที่ผ่านมาเอสเทรคเป็นตัวแทนจำหน่ายไอโฟน เน้นตลาดค้าส่งเป็นหลัก และแบรนด์อื่นๆ เช่น ซัมซุง และเลอโนโว ทำรายได้ให้เอสเทรค ราว 40% ของยอดขายทั้งหมด แต่คาดว่าหลังได้รับสิทธิจำหน่ายเสี่ยวมี่เพิ่มเติม และตลาดสมาร์ทโฟนกำลังขยายตัวคาดว่า จะทำให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจโมบายเพิ่มเป็น 50-60% ในปีนี้

ส่วนที่เหลือเป็นการขายสินค้าในกลุ่มชิ้นส่วนประกอบ (ไอที คอมโพแนนท์) ประเภทซีพียู เมนบอร์ด ฮาร์ดดิสก์ และจอมอนิเตอร์ ซึ่งยังมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่อง

"ตลาดสินค้าไอทีถ้ามองในกลุ่มการขายแบบเดิมผ่านดีลเลอร์ต่างๆ ยังพอโตได้ เพราะเริ่มมีกลุ่มเชน สโตร์ ประเภทที่มีชื่อเดียวหลายสาขา เช่น คอมเซเว่น, เจไอบี และแอดไวซ์ เข้ามาช่วยกระตุ้นการขาย รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่เรามีแผนจะทำเหมือนกัน เพราะมันเป็นเทรนด์ที่กำลังมา แต่ต้องดูก่อนเนื่องจากนโยบายเรา คือ เน้นสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้ามากกว่า ถ้าเราลงไปขายเองอาจจะเกิดคอนฟลิกซ์กับตลาด" นายณัฐวร กล่าว

ปีนี้เอสเทรคตั้งเป้ามีรายได้เติบโตเพิ่ม 15% หรือราว 3,500 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 3,174 ล้านบาท