ผู้การอุดรฯสั่งให้ออก6ตร. ตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรง

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.หนองคาย จับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิรุณ สภ.เมืองอุดรธานีั และตำรวจสังกัด ภ.จว.อุดรธานีรวม 6 นาย พร้อมตำรวจอาสา 2 คน และหญิงสาวอีก 1 คน หลังก่อเหตุจับคนลาว 2 คน เรียกค่าไถ่ 2 ล้านบาท โดยสามีเหยื่อชาวลาวเข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.ภ.จว.หนองคาย และวางแผนจับกุมได้ยกแก็ง

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 เมษายน 2558 พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีที่ 6 ตำรวจ สังกัด ภ.จว.อุดรธานี ถูกจับกุมที่ จ.หนองคาย ว่า กรณีดังกล่าวทราบว่าเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี หรือ ชุดพิรุณ ที่ถูกกล่าวหาในหลายข้อหาหนัก โดยทาง สภ.เมืองอุดรธานี ได้รายงานมายังตนแล้วส่วนหนึ่ง ซึ่งตนถือว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องร้ายแรง ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ซึ่งผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นให้ความสำคัญ หากผู้ใดบกพร่องจะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด

“ผมได้ตั้งกรรมการสอบสวน เพื่อพิจารณาทางวินัยร้ายแรงกับตำรวจทั้ง 6 คนแล้ว ในขณะเดียวกันได้เซนต์คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ในระหว่างรอผลการสืบสวนสอบสวน ซึ่งเหตุการณ์นี้เพิ่งเกิด การสืบสวนสอบสวนคงใช้เวลาพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องของการสอบสวน มีระเบียบกำหนดเวลาไว้ชัดเจน โดยเบื้องต้นที่ทราบตำรวจชุดนี้ออกไปทำการขยายผลจับกุมยาเสพติด แต่ไม่ทราบไปขยายผลแบบไหน ถึงไปมีเรื่องเรียกรับผลประโยชน์ถึง จ.หนองคาย ซึ่งต้องขอเวลาสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน”

พล.ต.ต.ชัยญัติ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ทางระเบียบของตำรวจ จะต้องมีการสอบสวนขึ้นมาถึงผู้บังคับบัญชาว่า มีการปกครองดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาบกพร่องหรือไม่ ส่วนที่ผ่านมามีตำรวจของอุดรธานี ที่ไปเรียกรับผลประโยชน์หลายครั้ง ซึ่งเราก็มีการลงโทษทุกครั้ง เรามีลูกน้องในพื้นที่ถึง 2,000 กว่าคน แต่ในเมื่อมีคนส่วนรวมมีมาก อาจจะมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ซึ่งคนไม่ดีเราก็ต้องตัดออกไป

“ส่วนการจะยกเลิกชุดพิรุณนั้น ความจริงเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นมาของฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ที่เป็นงานตามโครงสร้าง ที่ตั้งชื่อพิรุณเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์เท่านั้นเอง ไม่ได้เป็นชุดที่ตั้งขึ้นแยกออกมา โดยจะมีการตรวจสอบตำรวจในชุดนี้ทุกคน หากพบว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมก็ต้องปรับย้ายออกไปปฎิบัติหน้าที่ที่อื่นหรือตำแหน่งอื่น ส่วนกรณีที่มีตำรวจชุดอัศวิน สภ.เมืองอุดรธานี ที่มีพฤติกรรมแบบเดียวกันจนถูกร้องเรียน 14 คน ขณะนี้ยังคงอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของทางตำรวจภาค 4” พล.ต.ต.ชัยญัติ กล่าว