กสทรื้อโครงสร้างองค์กร-ยุบรวมเหลือ 6 บียู

กสทรื้อโครงสร้างองค์กร-ยุบรวมเหลือ 6 บียู

บอร์ดกสทอนุมัติโครงสร้างธุรกิจใหม่ปรับลดเหลือ 6 บียู พร้อมรวบสายงานไร้สายอยู่ในบียูเดียว คาดปีนี้มีกำไรสุทธิกว่า 1,500 ล้านบาท

พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการบริษัท และรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติหลักการปรับโครงสร้างองค์กรภายใน เบื้องต้นลดหน่วยงานในองค์กรเหลือ 6 กลุ่มธุรกิจ (บียู) ตามคำสั่งปรับยุทธศาสตร์

ประกอบด้วย 1.กลุ่มโครงสร้างพื้นฐานดำเนินธุรกิจให้บริการแก่ผู้ประกอบการ ด้วยการให้เช่าเคเบิลใยแก้วนำแสง ให้บริการความยาวคลื่น และวงจรสื่อสัญญาณด้วยการรับประกันคุณภาพ 2.กลุ่มเสาโทรคมนาคมให้บริการเช่าใช้พื้นที่สำหรับติดตั้งสายส่งสัญญาณ จานรับส่งสัญญาณโทรคมและอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง 3.กลุ่มอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ และเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ

4.กลุ่มโทรศัพท์ ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ครบวงจร ทั้งสื่อสารทางเสียงและสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงเคลื่อนที่ 5.กลุ่มโทรศัพท์ประจำที่และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ ให้บริการโทรศัพท์ประจำที่ สื่อสารแบบมีสายหรือไร้สาย และ 6.กลุ่มบริการด้านไอที ไอดีซี คลาวด์ ดำเนินธุรกิจอินเทอร์เน็ตศูนย์ข้อมูล (ดาต้า เซ็นเตอร์)

ทั้งนี้ เป็นการปรับเอาโครงสร้างธุรกิจเดิมที่กระจาย โดยเฉพาะกลุ่มสายงานไร้สาย (โมบายล์) ให้อยู่ในบียูเดียวกัน เพื่อรวมโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดที่มี อาทิ เสาโทรคมนาคม สถานีฐานทั้งหมดรวม 25,000 แห่ง แบ่งเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในสัญญาสัมปทาน 20,000 แห่ง และทรัพย์สินของกสทเอง 1,800 แห่ง ซึ่งไม่รวมเสาสถานีฐานของเอชเอสพีเอจำนวน 10,000 แห่ง

"อยากจัดกลุ่มให้รวมเสาสถานีฐานมาอยู่ในกลุ่มบียูไร้สายทั้งหมด เพื่อให้การจัดการในอนาคตทำได้ง่ายขึ้น ปูทางสู่การเป็นเน็ตเวิร์ค โพรวายเดอร์ในอนาคต และตั้งเป็นทาวเวอร์ คัมพะนีในอนาคต"

ในช่วงพ.ค.นี้หลังบอร์ดอนุมัติจะสามารถดำเนินการได้ทันที คาดว่าสัดส่วนรายได้การให้เช่าเสาสถานีฐานที่จัดกลุ่มในโครงการบียูใหม่นี้ จะสร้างรายได้ในระยะยาว ปัจจุบันรายได้จากธุรกิจไร้สายมีสัดส่วน 45% ของผลประกอบการแต่ใน 3-5 ปีคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 60%

รายได้กสทปีนี้คาดการณ์ว่าอยู่ที่ 52,000 ล้านบาท กำไรสุทธิเดิมประเมินไว้ว่า 255 ล้านบาท แต่หลังรับมติของคนร.ให้ลดรายจ่ายลง 10% ทำให้กสทประเมินกำไรสุทธิใหม่ขึ้นไปที่ 1,500 ล้านบาท