ผู้การฯหนองคาย บุกรวบ5ตร.อุดรฯ จับคนลาวเรียกค่าไถ่

ผู้การฯหนองคาย บุกรวบ5ตร.อุดรฯ จับคนลาวเรียกค่าไถ่

"พล.ต.ต.ชูรัตน์" ผู้การฯหนองคาย นำกำลังบุกจับ "รอง สว.เมืองอุดรฯ" พร้อม4ตร.อุดรฯ คดีจับคนลาวเรียกค่าไถ่ ด้าน "ร.ต.อ.สุรพัศ" ให้การปฏิเสธ

พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.ภ.จว.หนองคาย พร้อมด้วย พ.ต.อ.อัครพงศ์ พิมลศิริ รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กรองทิพย์ ผกก.สภ.เมือง และตำรวจจากกำลังจาก สภ.เมืองหนองคาย และ ภ.จว.หนองคาย นำกำลังเข้าจับกุม ร.ต.อ.สุรพัศ เพ็ญศรี อายุ 34 ปี รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี, ด.ต.ปกรณ์ สุขประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สภ.หนองหาน จ.อุดรธานี, ด.ต.ชัยณรงค์ อรดี ผบ.หมู่ จร.สภ.เมืองอุดรธานี, ด.ต.วิรัตน์ ตานุชนม์ ผบ. หมู่ (สส.) สภ.เมืองอุดรธานี นายธวัช ทิพสุภา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 403/12 ม.1 ซ.บ้านหนองบัว ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ตำรวจอาสา และนายสมเด็จ สุขรมย์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/5 ถ.บริเวณสถานีตำรวจ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ตำรวจอาสา บริเวณลานจอดรถ หน้าวัดจันทรสามัคคี ใกล้กับด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมือง จ.หนองคาย นั้น

จากการสอบถาม พล.ต.ต.ชูรัตน์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 58 ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากนางพวงมาลี ตันทะแก้ว อายุ20ปี ชาวเมืองสีโคดตะบอง สปป.ลาว ว่า นางบัวจัน ตันทะแก้ว อายุ55ปี และท้าวพอนสะหวัน ตันทะแก้ว อายุ14ปี แม่และน้องชายถูกตำรวจ สภ.อุดรธานีจับกุมในข้อหาค้ายาบ้า ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่25เม.ย.58 และต้องการให้ครอบครัวนำเงินมาไถ่ถอนจำนวน2ล้านบาท

หากไม่นำเงินมาจะส่งตัวดำเนินการทางกฎหมาย ความกลัวว่าแม่จะได้รับอันตราย จึงนำรถกระบะไปจำนำ ได้เงินมา 300,000 บาท จากนั้นนัดหมายมอบเงินให้ที่ลานจอดรถช่วงเย็นวันที่ 26เม.ย. จากนั้นจึงวางแผนจับกุมและนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ทั้งหมด 6 คน ดังกล่าว

ด้านนางบัวจัน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อบ่ายวันที่ 25 เม.ย.58 ได้เดินทางพร้อมกับลูกชายมาซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองหนองคาย จากนั้นได้รับโทรศัพท์จากท้าวทอง คนลาว คนรู้จักโทรศัพท์มาบอกว่าจะมีคนนำเงินค่าไม้มาฝากจำนวนหนึ่ง ขอให้รับด้วย จากนั้นมีนางพัชรมัย พรหมวิชัย อายุ 40 ปี บ้านลุมพุก ต.ท่าศิลา อ.สองดาว จ.สกลนคร นำถุงมาฝากให้

ต่อมาชายทั้ง 6 คน อ้างตัวว่าเป็นตำรวจเข้าแสดงตัวพร้อมกล่าวหาว่าขายยาบ้าและมารับเงินค่ายาบ้า ซึ่งขอยืนยันว่าครอบครัวไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

“จากนั้นชายทั้ง 6 คน พาไปที่วัดแห่งหนึ่งริมฝั่งแม่น้ำโขง พร้อมบอกให้หาเงินมาไถ่ตัว 2 ล้านจึงจะปล่อยตัวกลับบ้าน หากไม่เช่นนั้น จะนำส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้วยความกลัวจึงบอกทางบ้านให้หาเงินมาไถ่ตัว แต่ช่วงนั้นมืดแล้วทำให้ทางบ้านหาเงินไม่ได้ จากนั้นชายทั้ง 6 คน ได้พานั่งรถไปกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งริมฝั่งแม่น้ำโขง หลังกินข้าวเสร็จพาตัวขึ้นรถยนต์ไป อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เปิดเช่าห้องพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง โดยชายทั้ง 6 คนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาบอกให้ครอบครัวหาเงินมาไถ่ตัว ได้ต่อรองเหลือ 150,000 บาทแต่ก็ถูกปฏิเสธ กระทั่งเช้าสามีและลูกสาวนำรถไปจำนำได้เงินมาเพียง 300,000 บาท จึงเกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงแจ้งขอความช่วยเหลือ จาก พล.ต.ต.ชูรัตน ปานเหง้า ผบก.ภ.จว.หนองคาย และมีการวางแผนเพื่อจับกุมตัวได้” นางบัวจัน กล่าว

ด้าน ร.ต.อ.สุรพัศ เพ็ญศรี รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ชี้แจงพร้อมทั้งฏิเสธข้อกล่าวหา โดยกล่าวว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่ขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ในวันที่เกิดเหตุได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองอุดรธานีแล้วเช่นกัน

พล.ต.ต.ชูรัตน์ กล่าว่า ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย และไม่ปักใจเชื่อคำให้การ ต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาเคยได้รับรายงานการก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วใน จ.อุดรธานี จนกระทั่งเกิดขึ้นในจังหวัดหนองคาย สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 6 คน หากสอบสวนแล้ว พบว่ามีการกระทำผิดจริง จะต้องดำเนินคดีใน 7 ข้อหา คือ เจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรืออื่นใด สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ กักขังหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ กักขังเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนเข้ามาในสาธารณะโดยไม่มีเหตุผลอันควร มียาเสพติด (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมียาเสพติด(ยาไอซ์)ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย