ประกาศหมู่เกาะกระ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำแรมซาร์ไซต์

ประกาศหมู่เกาะกระ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำแรมซาร์ไซต์

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เตรียมประกาศหมู่เกาะกระจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยส่วนจัดการพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นเพื่อจัดทำมาตรการและแผนบริหารจัดการพื้นที่คุ้มครองทางทะเลและพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ เกาะกระ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็น

นายบำรุงศักดิ์ ฉัตรอนันทเวช ผู้อำนวยการส่วนจัดการพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า สืบเนื่องจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้มีแผนจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นในการจัดทำมาตรการและแผนบริหารจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำหมู่เกาะกระ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนและมาตรการในการประกาศเขตพื้นที่คุ้มครอง เนื่องจากปัจจุบันนี้หมู่เกาะกระ ยังไม่มีกฎหมายใดมาเป็นเครื่องมือในการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มีเพียงแต่มติคณะรัฐมนตรีเท่านั้น และเพื่อเป็นการดำเนินการให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558

“กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้คัดเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับเตรียมประกาศเป็นพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งซึ่งการประชุมในครั้งนี้ เป็นการนำเสนอความเป็นมาของพื้นที่ชุ่มน้ำหมู่เกาะกระ การดำเนินการในพื้นที่ แนวทางการจัดทำประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองทางทะเลและชายฝั่ง และให้ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาให้ความคิดเห็นในการจัดทำมาตรการในพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างเต็มรูปแบบ”

นายพินิจ บุญเลิศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า หมู่เกาะกระ ได้รับการประกาศเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ หรือ แรมซาร์ไซต์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2556 แต่เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ยังไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันที่จริงเกาะกระ เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่ฝรั่งทั่วโลกรู้จัก อยู่หางจากชายฝั่งทะเลอำเภอปากพนัง ประมาณ 50 กิโลเมตร ดังนั้นในการวางแผน หรือมาตรการต่าง ๆ ต้องดำเนินการให้ดีว่าจะบริหารจัดการอย่างไร เพราะในอนาคตเมื่อการท่องเที่ยวเกิดขึ้น จะมีปัญหาต่างๆตามมาอีกมากมาย

“สำหรับหมู่เกาะกระ มีเนื้อที่ 2,337.5 ไร่ ประกอบด้วย เกาะขนาดเล็ก 3 เกาะ ได้แก่ เกาะกระใหญ่ เกาะกระกลาง และเกาะกระเล็ก และหินกองเรืออีก 1 กอง เรียกว่า หินเรือ หมู่เกาะกระมีแนวปะการังที่สวยงามและมีสภาพสมบูรณ์ มีแนวปะการังทั้งสิ้น 421 ไร่ มีการสำรวจพบปะการังแข็ง 67 ชนิดเกาะกระเป็นแหล่งวางไข่ของเต่าตนุและเต่ากระ ไม่น้อยกว่าปีละ 30 รัง เกาะกระยังเป็นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์ที่อยู่ในสภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง เช่น เต่ากระแส และนกโจรสลัดเกาะคริสต์มาสชนิดพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ได้แก่ เต่าตนุ ชนิดพันธุ์ที่อยู่ในสถานภาพมีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ ได้แก่ นกยางจีนนอกจากนี้บริเวณหมู่เกาะกระ พบปลาผีเสื้อมากถึง 10 ชนิด ในแนวปะการังเดียว 

ส่วนปัญหาและภัยคุกคามบริเวณเกาะกระ ได้แก่ การทำลายแนวปะการังจากการทิ้งสมอ การทิ้งเศษอวนการทำประมงโดยการใช้ระเบิด ยาเบื่อ การลักลอบทำประมงอวนลากใกล้ฝั่ง การลักลอบเก็บไข่เต่าทะเล และการควบคุมดูแลพื้นที่ ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาที่สำคัญ คือ กำหนดกรอบยุทธศาสตร์ในการปฏิบัติงานเพื่อบริหารจัดการ การแบ่งเขตพื้นที่การใช้ประโยชน์ในพื้นที่ และการประกาศพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง” นายพินิจ กล่าว