พศ.กำชับคณะสงฆ์สร้างสังคมศีล5

พศ.กำชับคณะสงฆ์สร้างสังคมศีล5

“ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช” กำชับคณะสงฆ์-พศ. สามัคคีทำงานสร้างสังคมศีล5 สนองรัฐบาล

ที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) นำคณะผู้บริหาร และผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด(พศจ.)ทั้ง 76 จังหวัด เข้าถวายสักการะและสรงน้ำสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ)ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เนื่องในประเพณีสงกรานต์ขึ้นปีใหม่ไทย โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวให้โอวาทว่า ขอขอบใจผอ.พศ.และคณะที่ได้มาสรงน้ำในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในพศ.โดยระยะเวลาเช่นนี้ คณะสงฆ์และรัฐบาล ต้องการสร้างความสุขแห่งประชาชน สันติสุขของประเทศชาติ รวมทั้งต้องการความปรองดอง สมานฉันท์ โดยคณะสงฆ์ได้ช่วยรัฐบาลในการสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ ด้วยการใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ก็คือ หลักของศีล 5 มาสู่การปฏิบัติของประชาชน ได้แก่ การไม่มุ่งร้ายผู้อื่น ไม่ทุจริตคดโกง ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่หลอกลวงกล่าวเท็จผู้อื่น และไม่เสพสิ่งเสพติด เชื่อว่า ศีล 5 จะเป็นเครื่องมือที่ทำให้เกิดความปรองดอง สมานฉันท์ขึ้นได้

สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 เป็นนโยบายของมหาเถรสมาคม(มส.)เป็นหน้าที่โดยตรงของพศ.และพศจ.ทั่วประเทศ ที่จะต้องทำและสนองงานคณะสงฆ์ ซึ่งต้องอาศัยกำลังของพศจ.งานของคณะสงฆ์จึงจะเดินหน้าไปได้ รวมทั้งหากติดปัญหาเรื่องใดให้ประสานมายังพศ.ส่วนกลาง เพื่อที่จะได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา ที่สำคัญบุคลากรของพศ.ต้องรักงานที่ทำ หากไม่รักงานที่ทำทุกอย่างก็จะไม่ประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกัน พศจ.ต้องประสานงานกับเจ้าคณะจังหวัด และคณะสงฆ์ในพื้นที่ก็ต้องประสานกับพศจ.ในการประสานงานการทำงาน เพื่อให้งานคณะสงฆ์เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

“การทำงานพระพุทธศาสนาหากทำเพียงแค่ทำไปวันๆ ไม่ได้รักงานที่ทำ งานก็จะไม่สำเร็จผล ซึ่งการที่จะทำให้งานออกมาได้ผลดี ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน ทั้งคณะสงฆ์และพศ. เปรียบเสมือนขาสองข้าง หากขาดข้างใดข้างหนึ่งไป การเดินไปข้างหน้าก็จะสะดุด ที่สำคัญควรลดการถือตัวถือตน ละทิฏฐิมานะ หากไม่เข้าใจกันเรื่องใด ก็ควรที่จะพูดคุยกัน มิเช่นนั้นงานพระพุทธศาสนาก็จะไม่เดินหน้า จึงอยากฝากทั้งเจ้าคณะปกครอง คณะสงฆ์ และพศ. สามัคคีการทำงานร่วมกัน เพื่อให้งานพระพุทธศาสนาเดินหน้าไปได้และเกิดผลสู่การปฏิบัติต่อไป”ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กล่าว