จับผู้ค้ายาบ้า-ไอซ์รายใหญ่ มูลค่ากว่า7ล้าน

จับผู้ค้ายาบ้า-ไอซ์รายใหญ่ มูลค่ากว่า7ล้าน

ตร.ภูเก็ต จับสาวค้ายาบ้า-ไอซ์ มูลค่ากว่า7ล้าน เผยเป็นผู้ค้ารายใหญ่ในพื้นที่ เคยถูกปปง.อายัดทรัพย์กว่า3 ล้านบาท

 พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.พินิจ ศิริชัย รอง.ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กำกับดูแลงานปราบปรามยาเสพติด พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน รอง.ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม น.ส.อัมพร หรือ แหม่ม ไกรสร อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/11 ถ.ศรีเสนา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 36,000 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนัก 874 กรัม และอุปกรณ์ดับกลิ่นยาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 33/1 ถ.นริศร ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต และต่อเนื่องบ้านเลขที่ 35 ถ.นริศร ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 17 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา โดยแจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า และยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

สำหรับการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากชุดปราบปรามยาเสพติด กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ได้เข้าจับกุมนายธรรมรัต หรือเคน หมัดเต๊ะ อายุ 32 ปี ผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต พร้อมยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) น้ำหนักประมาณ 0.4 กรัม เมื่อช่วงหลายวันก่อน และจากการสอบสวนได้ให้การซัดทอดว่าซื้อยาเสพติดมาจาก น.ส.อัมพร จึงขยายผลจนทราบว่า พักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 33/1 ถ.นริศร ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จึงได้เข้าไปตรวจสอบและขอตรวจค้น พบยาไอซ์น้ำหนัก 20 กรัมซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน ซึ่งระหว่างการตรวจค้นพบ น.ส.อัมพรมีพิรุธ จึงเชื่อว่าอาจมียาเสพติดซุกซ่อนหรือเก็บไว้ที่อื่นอีก จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต โดยใช้เวลาในการสอบปากคำกว่า 5 ชั่วโมง จึงยอมบอกจุดซุกซ่อนยาเสพติด ซึ่งมีการเก็บไว้ที่บ้านเลขที่ 35 ถ.นริศร ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จึงนำกำลังไปตรวจค้น พบยาบ้าจำนวน 36,000 เม็ดและยาไอซ์น้ำหนัก 850 กรัมซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้น น.ส.อัมพร ให้การรับสารภาพว่ามีหน้าที่ดูแลยาเสพติดที่ได้มาจากนายอาร์ต ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งเป็นเจ้าของยาเสพติดส่งมาให้เก็บรักษาไว้ จากนั้นจะนำยาเสพติดไปส่งให้กับลูกค้าตามที่นายอาร์ตจะโทรศัพท์มาสั่ง โดยจะนำไปวางไว้ตามจุดต่างๆ แล้ว แจ้งให้ลูกค้าทราบ จากนั้นจะแจ้งหมายเลขบัญชีธนาคารที่ทางเจ้าของยาเสพติดส่งมาให้ลูกค้าทราบอีกทอดหนึ่ง โดยตนเองจะได้รับค่าจ้างในการดูแลและคอยกระจายยาเสพติด ซึ่งถ้าคิดเป็นยาบ้า 1 มัดๆ ละ 200 เม็ดจะได้เงิน 2,000 บาท ถ้าเป็นยาไอซ์จะได้ขีดละหรือ 100 กรัม เป็นเงิน 2,000 บาท ซึ่งถ้ายาบ้าลอตนี้ส่งถึงมือลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยจะได้ค่าจ้างทั้งสิ้นเป็นเงินกว่า 3 แสนบาทและยาไอซ์จะได้ค่าจ้างเกือบ 20,000 บาท ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติ น.ส.อัมพรพบว่าเมื่อปี 2550 เคยถูกฝ่ายปกครอง จ.ภูเก็ตจับกุมพร้อมยาบ้ามาแล้ว ต่อมาในปี 54 ศาลได้ยกฟ้อง แต่ทาง ปปง.ได้มีการอายัดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจพิสูจน์ที่มาของทรัพย์สินมูลค่าราว 3 ล้านบาท โดย น.ส.อัมพรได้ยื่นต่อศาลขอให้ ปปง.เพิกถอนการอายัดทรัพย์สิน ซึ่งในวันที่ 20 เม.ย.นี้ศาลจะตัดสิน จนมาถูกจับกุมตัวในที่สุด

ด้าน พล.ต.ต.พชร กล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวได้ทำกันเป็นทอดๆ โดยจะมีการสั่งการมาจากต่างจังหวัดแล้วจะให้คนคุมยาเสพติดในพื้นที่ไปกระจายยาเสพติดให้กลุ่มผู้ค้ารายย่อย โดยกลุ่มนี้เป็นเครือข่ายเรือนจำแห่งหนึ่ง ซึ่งยาบ้า 36,000 เม็ด มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ส่วนยาไอซ์ มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท และการจับกุมยาบ้าในครั้งนี้ถือว่ามีจำนวนมากกว่าปกติ อย่างไรก็ตามตนเองจะเดินหน้ากวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อกลุ่มผู้ค้าให้หมดไปจากจังหวัดภูเก็ต แม้ว่าในส่วนของผู้ค้าจะมีการเปลี่ยนวิธีการนำส่ง ทั้งนี้การจับกุมขึ้นอยู่กับการขยายผล