'พล.อ.อ.ประจิน'ผิดหวังท่าที 'ICAO'

'พล.อ.อ.ประจิน'ผิดหวังท่าที 'ICAO'

"พล.อ.อ.ประจิน" ผิดหวังท่าทีไอซีเอโอและกรมการบินพลเรือนญี่ปุ่น ที่ให้สายการบินของไทยหยุดเพิ่มเที่ยวบิน หลังไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรณีองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือไอซีเอโอ เข้ามาตรวจสอบมาตรฐานการบินของไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดกระทรวงคมนาคมและกรมการบินพลเรือนได้ดำเนินการปรับหลักเกณฑ์ตามที่ไอซีเอโอต้องการไปแล้ว ทั้งการแก้ไขกฎหมายด้านการบินที่ล้าสมัย อาจต้องเพิ่มบุคลากรทางการบินที่ได้มาตรฐานของไอซีเอโอ การแก้ไขบทบาทของกรมการบินพลเรือน โดยให้มีหน้าที่กำกับดูแลหรือเรคกูเลเตอร์ เพียงอย่างเดียวและให้หน้าที่การบริหารท่าอากาศยานไปอยู่ในการกำกับดูแลของหน่วยงานอื่น เช่น บริษัทอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. โดยกรมการบินพลเรือนส่งประเด็นการแก้ไขต่าง ๆ ไปให้ไอซีโอตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งตามหลักเกณฑ์กระทรวงคมนาคมทราบว่าการพิจารณาจะใช้เวลาในการพิจารณา 90 วัน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดไอซีเอโอ มีการส่งหนังสือตั้งข้อสังเกตและกังวลเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยและมาตรฐานด้านการบินมากรมการบินพลเรือนของญี่ปุ่น ส่งผลให้ญี่ปุ่นออกมาตรการในการให้อนุญาตการทำการบินของสายการบินของไทย โดยมีการกำกับให้สายการบินจากไทยห้ามเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน เส้นทางบิน ขนาดของเครื่องบิน และสายการบินใหม่ โดยให้คงไว้ในจำนวนปัจจุบัน

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวกระทรวงคมนาคมยอมรับว่าจะส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวของไทยในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่เป็นช่วงฤดูร้อน มีนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยและนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นจำนวนมาก โดยกระทรวงคมนาคมยอมรับว่าผิดหวังไอซีเอโอและญี่ปุ่นที่มีการออกมาตรการปฏิบัติก่อนครบกำหนด 90 วัน ในการพิจารณาเอกสารการแก้ไขของฝ่ายไทย

อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมและกรมการบินพลเรือนได้เร่งแก้ไข โดยขณะนี้ได้ส่งผู้บริหารของกรมการบินพลเรือนและบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ไปเจรจากับกรมการบินพลเรือนของญี่ปุ่น รวมทั้งจะมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปเจรจากับประเทศที่มีความสำคัญในเรื่องของปริมาณเที่ยวบินกลับประเทศไทย เช่น เกาหลี เยอรมัน และจีน เพื่อไม่ให้ปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อไป

ทั้งนี้ ยอมรับว่ากังวลต่อข้อสรุปที่ไอซีโอจะมีการพิจารณาผลมาตรการแก้ไขปัญหาของไทยที่จะมีการประกาศผลในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งหากผลที่ออกมามีการลดชั้นมาตรฐานความปลอดภัยและการกำกับดูแลของกรมการบินพลเรือนของไทยไปอยู่ในชั้นเดียวกันกับประเทศที่เคยโดนมาตรการก่อนหน้านี้ เช่น อินโดนีเซีย ก็จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเรื่องดังกล่าวได้มอบหมายให้กรมการบินพลเรือนและการบินไทยไปเตรียมมาตรการรองรับไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถบอกได้ในขณะนี้

ส่วนคำถามที่ว่ามาตรการที่ไอซีเอโอปฏิบัติกับไทยครั้งนี้มีแรงกดดันมาจากการเมืองหรือเป็นการส่งสัญญาณมาตรการแทรกแซง เพื่อกดดันไทยเร่งจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วหรือไม่นั้น พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะไม่เกี่ยวกับประเด็นการเมือง โดยเชื่อว่าการพิจารณาของไอซีเอโอ จะเป็นมาตรฐานทางวิชาชีพที่ไม่มีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้อง