ศาลสั่งฟื้นฟูกิจการ 'สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น'

ศาลสั่งฟื้นฟูกิจการ 'สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น'

ศาลล้มละลายกลาง สั่งฟื้นฟูกิจการ “ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น” พร้อมให้ คณะกรรมการปัจจุบัน ทำแผนฟื้นฟู บริหารหนี้กว่า 2.1 หมื่นล้าน

ที่ห้องพิจารณา 15 ศาลล้มละลายกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ วันที่ 20 มี.ค.58 เวลา 09.00 น. ศาลอ่านคำสั่งคดีฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผน หมายเลขดำ ฟ.20/2557 ที่ บริษัท สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งฟื้นฟูกิจการของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และตั้งผู้ทำแผนโดยบริษัท สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 26 ส.ค.57 เพื่อขอฟื้นฟูกิจการที่มีหนี้สิน 21,934,374,657.39 บาท

โดยศาลได้ดำเนินการไต่สวนแล้ว เห็นว่า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นลูกหนี้ มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน เป็นเงินจำนวน 19,533,963,864.64 บาท

คดีจึงมีประเด็นต้องวินิจฉัยต่อว่า มีเหตุสมควรและช่องทางให้ฟื้นฟูกิจการของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นหรือไม่ ศาลเห็นว่า สมาชิกสหกรณ์ได้รับประโยชน์เป็นเงินจำนวนมากกว่า การนำเงินไปลงทุนกับสถาบันการเงินอื่นในช่วงที่เศรษฐกิจเจริญเติบโต และสาเหตุที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ลูกหนี้ มีหนี้สินก็เนื่องจากระหว่างปี 2552–2555 มีการนำเงินไปลงทุนในธุรกิจที่ไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 เป็นการกระทำของอดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่ดำเนินการในขณะนั้น จึงไม่ควรนำผลการกระทำดังกล่าวมาเป็นเหตุสำคัญ ที่จะไม่ให้โอกาสสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ลูกหนี้ ขอฟื้นฟูกิจการ เพราะเป็นการกระทำนอกวัตถุประสงค์ของลูกหนี้ ซึ่งแม้ว่าสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ลูกหนี้ จะมีหนี้สิ้นล้นพ้นตัวแต่ลูกหนี้ยังคงดำเนินการอยู่ และเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนการฟื้นฟูกิจการของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ลูกหนี้ และมีหน่วยงานรัฐเตรียมการช่วยเหลือเพื่อให้ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ลูกหนี้ ผ่านวิกฤติทางการเงินผ่านช่องทางการฟื้นฟูกิจการหากได้รับการปรับโครงสร้างหนี้และการบริหารจัดการที่ดี กรณีจึงมีเหตุสมควรและช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ลูกหนี้

ขณะที่ศาลเห็นว่า หากปล่อยให้สมาชิกที่เป็นเจ้าหนี้แต่ละรายบังคับคดีจะทำให้เกิดความได้เปรียบ เสียเปรียบกัน และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นลูกหนี้ อาจถูกยึดทรัพย์ตามหมายบังคับคดีหรือในที่สุดไม่มีทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะนำมาชำระหนี้ และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ลูกหนี้ อาจถูกฟ้องล้มละลายได้ ดังนั้นการยื่นคำร้อง ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ลูกหนี้ ขอฟื้นฟูกิจการ จึงไม่ได้เป็นการหลีกเลี่ยงการบังคับคดีของบรรดาเจ้าหนี้ที่จะถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สุจริต ดังนั้นการให้เวลาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ลูกหนี้ หรือผู้ทำแผนสำรวจความบกพร่องของกิจการ จะสามารถนำไปวางแผน ปรับปรุง แก้ไขให้กิจการของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ลูกหนี้ ดำเนินการต่อไปได้

ดังนั้นข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า มีเหตุผลสมควรและมีช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ลูกหนี้ และการร้องขอฟื้นฟูกิจการเป็นการยื่นคำร้องโดยสุจริต จึงฟังได้ว่า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ลูกหนี้ มีคุณสมบัติครบถ้วนตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/3 และสมควรให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ลูกหนี้ เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการต่อไป และเห็นสมควรให้ตั้ง สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูตามที่ร้องขอ เนื่องจากคณะกรรมการดำเนินการและบุคคลากรมีความรู้ความสามารถในการบริหารงานและดำเนินกิจการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ลูกหนี้ เป็นอย่างดี

ภายหลังฟังคำสั่งศาลแล้ว นายเผด็จ มุ่งธัญญา ประธานดำเนินงานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กล่าวว่า ศาลได้มีคำสั่งให้สหกรณ์เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการได้ โดยให้คณะกรรมการสหกรณ์ชุดปัจจุบัน เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูในกรอบระยะเวลา 3 เดือน แต่สามารถขยายเวลาได้ 2 ครั้งๆ ละ 1 เดือน และต้องฟื้นฟูกิจการของสหกรณ์ให้เสร็จตามกฎหมาย ภายในระยะเวลา 5 ปี แต่สามารถขยายเวลาได้อีก 2 ครั้งๆ ละ 1ปีโดยตนมั่นใจว่าจะสามารถฟื้นฟูกิจการได้สำเร็จ เนื่องจากมีหนังสือของ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ยืนยันสนับสนุนงบประมาณ วงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยมีภาครัฐและรัฐวิสาหกิจให้การสนับสนุน และการฟ้องคดีเรียกทรัพย์สินคืนจากกรณีโอนเงินบริจาคให้กับวัดพระธรรมกาย กว่า 100 ล้านบาท รวมทั้งติดตามทวงหนี้สินจากลูกหนี้เก่าของสหกรณ์กว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งลูกหนี้ได้เริ่มทยอยชำระหนี้คืนแล้วบางส่วน

นายเผด็จ กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการเยียวยาสมาชิก จะเริ่มเปิดให้สมาชิก ยื่นคำร้องได้ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.เป็นต้นไป โดยเบื้องต้นคณะกรรมการจะให้เงินเยียวยา 10 % ของเงินที่มี หรือไม่เกิน 20,000บาทต่อเดือน โดยเชื่อว่าสามารถเริ่มจ่ายเงินเยียวยาได้ใน เดือน เม.ย.นี้ และมั่นใจว่าสภาพคล่องที่มีปัจจุบัน คือเงินบัญชี 250 ล้านบาท และเงินคืนจากวัดพระธรรมกาย เดือนละ 100 ล้านบาท จะเพียงพอต่อการเยียวยาสมาชิก โดยในวันที่ 21 มี.ค.นี้ จะนัดประชุมคณะกรรมการเพื่อจัดทำโรดแมพ แผนการฟื้นฟูให้เสร็จทันตามกำหนด

ขณะที่นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ผู้แทนเจ้าหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ รพ.ราชวิถี และสหกรณ์ออมทรัพย์ สำนักงาน ปปส. กล่าวว่า หลังจากนี้จะรวบรวมกลุ่มเจ้าหนี้ หารือกันนอกรอบว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่สิ่งที่ต้องดำเนินการก่อน อันดับแรก คือขอชำระหนี้ภายใน 1 เดือน และติดตามว่า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น สามารถจัดทำแผนฟื้นฟูเสร็จทันหรือไม่ สัดส่วนเป็นที่น่าพอใจหรือไม่ ถ้าเป็นไปได้ก็ควรได้เต็มจำนวน ในส่วนที่นายเผด็จ ระบุว่าอาจได้ 10 % ของจำนวนหนี้นั้น ก็ต้องหารือกันว่าเป็นแนวทางที่ดีที่สุดหรือไม่ หากไม่พอใจก็ต้องทำความเห็นแย้ง

“ ขณะนี้เรามีแผนฟื้นฟูอยู่แล้ว แต่ขอดูฉบับของ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ก่อน หากศาลไม่เห็นชอบด้วยกับแผนฟื้นฟูดังกล่าว สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ก็ต้องกลับเข้าสู่สถานะล้มละลายเหมือนเดิม ” นายเดชา กล่าวและว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นว่า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จะนำรายได้จากทางไหนมาชำระหนี้ได้ เพราะเงินต้นจำนวน 2.1 หมื่นล้านบาท โดยมีเงินที่ได้จากวัดธรรมกาย เดือนละประมาณ 100 ล้านบาท และเงินที่ได้จากการสนับสนุนจาก รมว.เกษตรและสหกรณ์เท่านั้น ซึ่งไม่น่าจะเพียงพอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการฟังคำสั่งวันนี้ มีสมาชิกสหกรณ์ จำนวนหนึ่งมาให้กำลังใจพร้อมมอบช่อดอกไม้ให้นาย เผด็จ มุ่งธัญญา ประธานดำเนินงานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นด้วย

ภาพ-naewna