SVI - Under Review

SVI - Under Review

คาดธุรกิจเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ 1Q58

ประเด็น

จากการเข้าเยี่ยมชมโรงงานที่สวนอุตสาหกรรมบางกระดีวานนี้ (5 มี.ค. 58) มีประเด็นสำคัญดังนี้

• SVI ถือว่าฟื้นฟูกิจการได้เร็ว โดยจะกลับมามีกำลังการผลิตเท่ากับช่วงก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในต้น 2Q58 นี้ ด้วยการซื้อเครื่องจักรใหม่มาเสริมโรงงานที่แจ้งวัฒนะและปรับปรุง SVI โรงงาน 2 ที่เสียหายจากน้ำท่วมมาใช้งานชดเชย SVI โรงงาน 1 ที่ถูกเพลิงไหม้

• บริษัทได้รับรู้เงินประกันภัยจากเหตุการณ์ไฟไหม้แล้วจำนวน 1 พันล้านบาทในเดือน ธ.ค. 57 ส่วนที่เหลืออีก 820 ล้านบาท จะรับรู้ในเดือน ม.ค. 58 ขณะที่รอรับเงินชดเชยจากธุรกิจหยุดชะงัก (Business interruption) ราว 200 ล้านบาท ในเดือน พ.ย. 58

• ผู้บริหารเชื่อว่า จะมีคำสั่งซื้อกลับมาราว 80% ทันทีที่ SVI โรงงาน 2 เสร็จสมบูรณ์ โดยตั้งเป้าหมายรายได้ปี 58 ที่ 260 - 285 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 8.3 - 9 พันล้านบาท) คิดเป็นการเติบโต 0% - 8.4% YoY

• ยกเลิกแผนซื้อกิจการอื่นและกลับมาเน้นขยายกิจการตนเองแทน ดังนี้ (1) จะต่อขยาย SVI โรงงาน 2 เพื่อรองรับ High season ในไตรมาส 3 (2) ขยาย SVI 5 ใน 3Q58 รองรับกลุ่มสินค้ายานยนต์ ที่วางแผนไว้ตั้งแต่ปี 56 และ (3) เตรียมขยายที่ตั้งโรงงานใหม่ในปี 59 ไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อกระจายความเสี่ยง

ผลกระทบ / ความเห็น

- คาดพลิกเป็นกำไรตั้งแต่ 1Q58 และค่อยๆฟื้นตัว หลังเริ่มกลับมาผลิตและส่งมอบสินค้าได้แล้วใน 1Q58 คิดเป็นสัดส่วน 50% ของกำลังการผลิตที่ถูกเพลิงไหม้ไป แต่อัตรากำไรจะไม่โดดเด่นเนื่องจากยังไม่ประหยัดต่อขนาด แม้เชื่อว่าโรงงานจะฟื้นฟูได้ตามเป้าเพราะจากการเยี่ยมชมถือว่า SVI 2 ใกล้สมบูรณ์มากแล้วและน่าจะเริ่มผลิตได้เร็วกว่าคาด แต่เรามองว่าความเชื่อมั่นของลูกค้าและยอดสั่งซื้ออาจฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปหลังเกิดเหตุไม่คาดฝันบ่อยครั้งซึ่งทำให้บริษัทต้องกระจายความเสี่ยงหาที่ตั้งโรงงานใหม่ นอกจากนี้จะสามารถดำเนินการผลิตได้เต็ม 100% อย่างเร็วที่สุด ตั้งแต่ 2Q58 ซึ่งจะทำให้กำลังผลิตหายไปอย่างน้อย 3 เดือน เมื่อเทียบกับปี 57 ที่กำลังผลิตหายไปราว 1.5 เดือน หลังไฟไหม้ จึงมองว่าเป้าหมายยอดขายปี 58 ของผู้บริหารที่ 260 – 285 ล้านดอลล่าสหรัฐ ถือว่าท้าทาย

คำแนะนำ / เหตุผล

- คาดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ปัจจุบันเราอยู่ระหว่างทบทวนคำแนะนำและมูลค่าที่เหมาะสมของ SVI อย่างไรก็ตามเรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อกิจการ เพราะเชื่อว่า downside เริ่มจำกัดแล้วจากกำลังการผลิตที่เริ่มกลับมาบางส่วนตั้งแต่ 1Q58 และมีแผนรองรับความเสี่ยงในอนาคตด้วยการขยายโรงงานให้มากกว่าเดิม อีกทั้งมีแผนซื้อหุ้นคืนจำนวนไม่เกิน 200 ล้านหุ้นมูลค่าไม่เกิน 1 พันล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ EPS สูงขึ้น แม้ในกรณีเลวร้ายที่ความเชื่อมั่นของลูกค้าและคำสั่งซื้อกลับมาช้า SVI จะยังได้รับชดเชยจากประกันในส่วนของธุรกิจเสียหาย (Business interruption) ซึ่งคำนวณตามความล้าช้าในการฟื้นฟูกิจการ

- ราคาหุ้นเริ่มตอบสนองต่อการฟื้นตัวไปบางส่วนแล้ว ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ PBV ratio ปี 58 ที่ 2.6 เท่า (ภายใต้สมมติฐานว่าซื้อหุ้นคืนได้ครบ 200 ล้านหุ้น และรวมผลของเงินประกันส่วนที่เหลือที่คาดว่าจะได้รับในปี 58 ราว 1 พันล้านบาทแล้ว) ถือว่าใกล้กับช่วงก่อนไฟไหม้ซึ่งซื้อขายที่ 2.9 เท่า สะท้อนว่าราคาหุ้นเริ่มตอบสนองต่อการฟื้นตัวไปบ้างแล้ว