อุตฯเหล็กห่วงราคาร่วง

อุตฯเหล็กห่วงราคาร่วง

"มิลล์คอน" คาดราคาเหล็กต่ำกว่าปีก่อน หลังสิ้นปี 2557 ราคาร่วงตามราคาน้ำมัน เหลือ 16 บาทต่อกิโลกรัม แต่มั่นใจดีมานด์ในประเทศฟื้น

นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) MILL กล่าวว่า ปีนี้ราคาเหล็กมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงจากปีก่อน ตามทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกโดยเฉพาะราคาน้ำมัน ส่งผลให้ราคาขายเหล็กในประเทศอ่อนตัวลงเหลือ 16 บาทต่อกิโลกรัม จากปีก่อนอยู่ที่ 19 บาทต่อกิโลกรัม และคาดว่าราคาเฉลี่ยน่าจะทรงตัวอยู่ในระดับนี้ตลอดทั้งปี

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าราคาขายเหล็กที่ปรับตัวลงนี้จะไม่กระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทที่คาดการณ์ไว้ว่าจะพลิกกลับมามีกำไรในปีนี้ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีสต็อกสินค้าอยู่น้อยมาก และมั่นใจว่าในปีนี้จะไม่มีผลขาดทุนจากสต็อกสินค้าเหมือนปีก่อนอย่างแน่นอน ประกอบกับปัจจัยที่สำคัญคือความต้องการใช้เหล็กในประเทศที่จะเพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางการลงทุนของภาครัฐ ส่วนตลาดส่งออกนั้นอาจจะต้องประเมินแบบเฉพาะราย ตามภาวะเศรษฐกิจของแต่ละที่ โดยบริษัทมองว่าตลาดที่ยังเติบโตได้อยู่คือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และพม่า

"ราคาเหล็กที่ปรับตัวลงอย่างรวดเร็วเมื่อปลายปี 2557 ตามทิศทางราคาน้ำมัน ทำให้บริษัทมองว่าราคาเหล็กเฉลี่ยในปีนี้น่าจะต่ำกว่าปีก่อน แต่ทั้งนี้บริษัทไม่มีนโยบายเก็งกำไรจากราคาเหล็ก เพราะฉะนั้นบริษัทจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ทั้งนี้บริษัทมองว่าราคาเหล็กในระดับนี้น่าจะเป็นระดับที่ต่ำที่สุดแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถประเมินราคาที่แน่ชัดได้ เพราะราคาเหล็กเป็นไปตามราคาตลาดโลก ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามากระทบ" นายสิทธิชัยกล่าว

ขณะที่นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการบริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) PYLON กล่าวว่า ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และธุรกิจที่เกี่ยวข้องเติบโตได้คือความต้องการซื้อของผู้บริโภค รวมถึงความต้องการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งมีงบประมาณในส่วนนี้ค่อนข้างมาก ส่วนปัจจัยที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือนโยบายด้านอัตราดอกเบี้ยของภาครัฐว่าจะเป็นไปในทิศทางใด หลังจากทิศทางของอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกยังเป็นไปในลักษณะที่ลดลงหรือใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

"ในส่วนของราคาเหล็กและน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งของอุตสาหกรรม จะช่วยให้บรรยากาศการลงทุนของอุตสาหกรรมในภาพรวมดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามจะไม่ได้ส่งผลบวกต่ำผลประกอบการมากนัก เพราะโดยปกติเมื่อบริษัทได้รับงานมาแล้ว จะมีการซื้อสินค้าไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือดีมานด์จากการลงทุนภาครัฐ และการบริโภคของเอกชน" นายบดินทร์ กล่าว

นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) SMPC กล่าวว่า จากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงค่อนข้างมากในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ทำให้เหล็กซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของบริษัทมีราคาลดลง และจากการประเมินของบริษัทในปีนี้มองว่าราคาเหล็กก็น่าจะทรงตัวอยู่ในระดับนี้ไปอีกระยะหนึ่ง ฉะนั้นบริษัทจึงคาดว่ากำไรของบริษัทน่าจะดีขึ้นจากปกติ โดยจะเริ่มรับรู้ผลบวกดังกล่าวในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ราคาเหล็กที่ปรับตัวลดลงนั้นน่าจะส่งผลบวกต่อธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ ในด้านของบรรยากาศการลงทุน แต่สิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมเหล่านี้เติบโตคือ การเพิ่มขึ้นของเม็ดเงินลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะช่วยให้กำลังซื้อของผู้บริโภคฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี