ฟ้องอาญา'สรยุทธ-เบนซ์ พรชิตา' คดีหมิ่นในเรื่องเล่าเช้านี้

ฟ้องอาญา'สรยุทธ-เบนซ์ พรชิตา' คดีหมิ่นในเรื่องเล่าเช้านี้

สาวประเภท2 ฟ้อง "สรยุทธ–เบนซ์ พรชิตา" ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 25พ.ค.นี้ ทนายย้ำเสียหายเอ่ยชื่อในรายการ

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 10.30 น. นายดากานดา สอนประเสริฐ สาวประเภทสอง ผู้จัดทำโครงการ “ เรามีเรา” เพื่อหารายได้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็ง เดินทางมามาพร้อมนายสาคร ศิริชัย ทนายความ ยื่นฟ้อง นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการ “ เรื่องเล่าเช้านี้ ” ซึ่งออกอากาศสถานีโทรทัศน์ทีวี ช่อง 3 อ.ส.ม.ท.และ น.ส.พรชิตา หรือ เบนซ์ ณ สงขลา นักแสดงและผู้ร่วมดำเนินรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้ ” เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐาน ร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 , 328 , 332

โดยคำฟ้องบรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.57 จำเลยทั้งสอง ร่วมกันกล่าวในรายการใส่ความโจทก์ ทำนองว่า บุ๋ม ปนัดดา ถูกสาวประเภมสองชื่อ ดากานดา อ้างชื่อบุ๋ม ปนัดดา ไปขอรับบริจาคเงิน เรื่องราวกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปี ก่อน และข้อความอื่นๆ ซึ่งจำเลยทั้งสอง ได้สนทนากันในรายการว่า โจทก์มีพฤติการณ์แอบอ้างชื่อ น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ไปขอรับบริจาคจากผู้มีชื่อต่างๆ เพื่อหาทุนให้มูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ โดยไปติดต่อดาราต่างๆ มาถ่ายภาพยนตร์ ถ่ายปฏิทินฟรี โดยไมมีค่าตอบแทนอ้างว่าเป็นงานการกุศล และเงินบริจาคทั้ง 2 ปีที่ผ่านมา รวม 3.4 ล้านบาท สถาบันมะเร็ง ฯ ก็ไม่เคยได้รับเลย ซึ่งการใส่ความดังกล่าวทำให้ผู้ชมรายการ เข้าใจว่า สาวประเภทสองคือ โจทก์ ที่มีความประพฤติเป็นคนโกหก คดโกง หลอกลวง อาศัยชื่อบุคคลต่างๆ ที่มีชื่อเสียงไปขอรับเงินบริจาคเพื่อประโยชน์ของตนเอง โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย และให้จำเลยทั้งสองโฆษณาคำพิพากษาทั้งหมดในรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้ ” หรือรายการอื่นที่ออกอากาศช่วงเวลาเดียวกัน ทางสถานีโทรทัศน์ ฯ ช่อง 3 รวมทั้งลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เดลินิวส์ มติชน คม ชัด ลึก และข่าวสด เป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน

ทั้งนี้ศาลรับคำฟ้องไว้ในสารบบหมายเลขดำ อ.621/2558 เพื่อไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ในวันที่ 25 พ.ค.นี้ เวลา 13.30 น.

ขณะที่นายดากานดา สอนประเสริฐ โจทก์ กล่าวว่า ที่ต้องมายื่นฟ้อง เนื่องจากเป็นการรายงานข่าวที่ผิดพลาด จากการนำข่าวที่ น.ส.ปนัดดา หรือ บุ๋ม วงศ์ผู้ดี ให้สัมภาษณ์ว่าถูกหลอกเงินไปมากล่าวในรายการ แต่ข่าวสัมภาษณ์บุ๋ม ปนัดดานั้นไม่มีการระบุถึงตัวเงิน แต่พิธีกรในรายการกล่าวถึงเงินจำนวน 3.4 ล้าน ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยตลอดการเปิดโครงการ “ เรามีเรา ” ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. 56 – 31 ธ.ค.57 บุ๋ม ปนัดดา ได้สนับสนุนเครื่องสำอางค์ที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์แต่การถ่ายนั้นก็ไม่แล้วเสร็จ พร้อมทั้งการหาช่างแต่งหน้า มาช่วยในงานเปิดตัวโครงการเมื่อวันที่ 3 ต.ค.56 โดยไม่มีตัวเงินตามที่มีการเล่าข่าว ขณะที่โครงการดังกล่าวได้รับบริจาคเป็นหมวกไหมพรม เต้านมเทียม นำไปให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โครงการ“ เรามีเรา” ได้นำของบริจาคดังกล่าวให้สถาบันมะเร็งแห่งชาติ เมื่อปลายปี 2557 ที่ผ่านมา ส่วนเงินบริจาคมีแค่ 50,000 บาทเศษที่ถูกหักค่าใช้จ่ายค่าพรีเซ็นเตอร์แล้วจึงเหลือเพียง 20,000 บาทเศษ โดยหลังจากที่บุ๋ม ปนัดดา แถลงข่าว ตนก็ไปถอนเงินในวันที่ 28 ธ.ค.57 ก่อนจะโครงการปิดวันที่ 31 ธ.ค.57 เพื่อนำไปมอบให้สถาบันมะเร็ง ฯ แต่สถาบันไม่ประสงค์จะรับ โดยช่วงนั้นมีการให้สัมภาษณ์ เรื่องเงินบริจาคเข้าโครงการฯ จากเว็บไซต์เทใจ จำนวน 3.4 ล้านบาท แต่จริงๆ แล้วยอดเงินดังกล่าว เป็นยอดรวมในหลายโครงการ ซึ่งโครงการของตนได้รับเพียง 40,000 บาทโดยถูกเว็บไซต์เทใจ หัก 10 % ดังนั้นข้อเท็จจริงที่มีการนำเสนอจึงคลาดเคลื่อน

นายสาคร ศิริชัย ทนายความ กล่าวว่า เหตุที่ต้องมาฟ้อง เพราะรายการเล่าข่าวดังกล่าว มีเรตติ้งสูง มีผู้ชมมมาก อีกทั้งสองพิธีกรเป็นบุคคลที่น่าเชื่อ เมื่อพูดดถึงกรณีนี้ที่ยังไม่ได้ทำการตรวจสอบ และมีการกล่าวชื่อ-นามสกุลจริง อย่างชัดเจนจึงทำให้เสียหย เมื่อผู้ชมรับชมรายการจึงเหมือนการันตีว่า โจทก์เป็นคนไม่ดี และหลังจากนี้จะยื่นหนังสือถึงช่อง 3 ให้จัดการนำเทปรายการที่เคยออกวันที่ 23 ธ.ค57 เอาออกจากเว็บไซต์ด้วย