'สิงห์'ปิดดีลเทคฯเนอวานา

แหล่งข่าวโบรกเกอร์เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทสิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) S เตรียมประกาศซื้อกิจการของบริษัทเนอวานา ดีเวลอปเม้นท์ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีกลุ่มลูกค้าระดับบน ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์นอกตลาดหลักทรัพย์ โดยคาดว่าจะประกาศแถลงข่าวการซื้อกิจการภายในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าการทำรายการดังกล่าวเป็นการต่อยอดการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่ม พร้อมทั้งขยายช่องทางการตลาดในกลุ่มลูกค้าระดับบน

"การซื้อบริษัทเนอวานาฯของกลุ่มสิงห์ถือเป็นการขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถประเมินมูลค่าการทำรายการได้ต้องรอพิจารณารายละเอียดราคาที่จะมีการตกลงกัน รวมทั้งขณะนี้บริษัทสิงห์เอสเตท ยังไม่นิ่งพอ และจะมีการลงทุนต่อเนื่องในช่วงปีนี้"โบรกเกอร์กล่าว

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส กล่าวว่าแนวโน้มการควบรวมหรือการเทคโอเวอร์ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็ก ซึ่งการซื้อกิจการถือเป็นการเพิ่มสินทรัพย์ที่ทำได้ง่าย และใช้เวลาไม่มาก จึงเป็นที่นิยมกันในปัจจุบัน

ทั้งนี้ เมื่อปลาย 2557 บริษัทเนอวานา ระบุว่า บริษัทมีแผนที่จะหาผู้ร่วมทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้มากขึ้น โดยเฉพาะด้านเงินลงทุน ซึ่งขณะนี้มีกองทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติ 2 ราย จากประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์ รวมทั้งกลุ่มนักลงทุนไทย เข้ามาเจรจาร่วมทุนกับบริษัท ซึ่งคาดว่าจะข้อสรุปภายในเดือนมี.ค. ปี 2558 ก่อนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2558 หรือช่วงไตรมาส 4 ของปี 2558 โดยบริษัทต้องการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 715 ล้านบาท เป็น 1,000 ล้านบาท

นายบุรินทร์ คุณาธิปพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทวิค แอนด์ ฮุคลันด์ (WIIK) ได้รับแจ้งจากผู้ถือหุ้นบริษัทว่าจะมีการทำรายการซื้อขายหุ้นสามัญของบริษัทผ่านการโอนใบหุ้นโดยทำรายการซื้อขายภายในวันที่ 24 ก.พ.2558 โดยภายหลังจากการทำรายการดังกล่าวจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้น และโครงสร้างการบริหารงานของบริษัท โดยจะเปลี่ยนคณะกรรมการบริษัท และคณะกรรมการบริหารภายในวันที่ 26 ก.พ.2558 ทั้งนี้การขายหุ้นสามัญผ่านการโอนใบหุ้นดังกล่าวจะมีผู้ถือหุ้นปัจจุบัน 1 รายเป็นผู้ขาย และมีนางสุมาลี อ่องจริต ,บริษัทเยาววงศ์ โฮลดิ้ง,นายชัย ชีวมงคล และนายชงก์ รังสิพราหมณกุล รวม 4 รายเป็นผู้ซื้อ โดยจะขายหุ้นสามัญของบริษัทร่วม 197.92 ล้านหุ้นคิดเป็น 65.99%ในราคาหุ้นละ 1.50บาท

ทั้งนี้ภายหลังจากการทำรายการซื้อขายหุ้นสามัญผ่านการโอนเรียบร้อยแล้ว ผู้ซื้อจะร่วมกันเพื่อทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือในราคาหุ้นละ 1.50 บาท

สำหรับประวัติผู้ถือซื้อประกอบด้วย นางสุมาลี อ่องจริต เป็นนักธุรกิจและนักลงทุนปัจจุบันถือหุ้นและเป็นกรรมการในบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งเช่น บริษัทโรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) EPCO
บริษัทเยาววงศ์ โฮลดิ้ง เป็นบริษัทก่อตั้งแกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลลอปเม้นท์ และร่วมลงทุนในโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ และกิจการอื่นๆ นายชัย ชีวมงคล ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทภูเก็ตแฟนตาซี นายชงก์ รังสิพราหมณกุล นักธุรกิจและนักลงทุน ปัจจุบันทำงานที่บริษัทโตโยต้า กรุงเทพยนต์ จำกัด

ผู้ซื้อมีนโยบายดำเนินธุรกิจต่อไป และไม่มีแผนจะเปลี่ยนธุรกิจในระยะเวลา 12 เดือน

ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ได้รับแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ บริษัท วิค แอนด์ ฮุคลันด์จากผู้ทำคำเสนอซื้อ (1) นางสุมาลี อ่องจริต (2) นายชงก์ รังสิพราหมณกุล (3) นายชัย ชีวมงคล (4) บริษัท เยาววงศ์ โฮลดิ้ง จำกัด หลังจากได้รับแจ้งจากผู้ถือหุ้นของบริษัทว่าจะมีการทำรายการซื้อขายหุ้นสามัญของบริษัทผ่านการโอนใบหุ้น โดยทำรายการซื้อขายภายในวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างการถือหุ้นและโครงสร้างการบริหารงานของบริษัท โดยจะมีการเปลี่ยนคณะกรรมการบนริษัทและคณะกรรมการบริหารภายในวันที่ 26 ก.พ.58

ทั้งนี้ในการซื้อขายหุ้นสามัญผ่านการโอนใบหุ้นดังกล่าวจะมีผู้ถือหุ้นปัจจุบัน 1 รายเป็นผู้ขาย คือ บริษัท Uponor Infra จำกัด จำนวน 197.92 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 65.99% ขายให้กับนางสุมาลี อ๋องจริต เข้ามาถือ 22.65% , บริษัท เยาววงศ์ โฮลดิ้ง จำกัด 16.67%, นายชัย ชีวมงคล 16.67%, นายชงก์ รังสิพราหมณกุล 10.00% ภายหลังการทำรายการดังกล่าว ผู้ซื้อจะร่วมกันเพื่อทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญส่วนที่เหลือทั้งหมดในราคา 1.50 บาทต่อหุ้น โดยจะประกาศเจตนาในการทำคำเสนอซื้อในวันที่ 25 ก.พ.และจะยื่นคำเสนอซื้อต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ผู้ถือหุ้นของบริษัท และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 6 มี.ค.