กสทช.สั่งเลิกโฆษณาโปรอันลิมิตเน็ต3จี

กสทช.สั่งเลิกโฆษณาโปรอันลิมิตเน็ต3จี

กสทช.สั่งค่ายมือถือยกเลิกใช้คำ "โปรฯอันลิมิต"แก้ปัญหาประชาชนสับสน เหตุใช้ได้ความเร็วตามสปีด 3จี หลังหมดต้องเป็นเอฟยูพี

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า หลังจากร่วมหารือกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 5 ราย ได้แก่ บมจ.กสท โทรคมนาคม, บมจ.ทีโอที, บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส), บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) และกลุ่มทรู มีข้อสรุปว่า ทุกค่ายเห็นตรงกันให้ยกเลิกการใช้คำว่า อันลิมิเต็ด ในโปรโมชั่น 3จีและ4จี เพื่อแก้ปัญหาความเข้าใจผิดของประชาชน


เนื่องจากคำนี้จะต้องใช้กับการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงข้อมูล (ดาต้า) ที่ไม่มีการปรับลดอัตราความเร็วลง หรือแฟร์ ยูสเซส โพลิซี (เอฟยูพี) แต่การใช้งานจริงโปรโมชั่นอันลิมิเต็ดจะปรับลดอัตราความเร็วลง เมื่อใช้งานจนครบจำนวนที่แต่ละโปรโมชั่นนั้นๆ ดังนั้น ค่ายมือถือควรใช้คำอื่นเพื่อสื่อสารกับประชาชนจะได้ไม่เข้าใจผิดว่า อันลิมิเต็ดของโปรโมชั่นจะได้ความเร็วตามสปีดที่ระบุในแพ็คเกจตลอด


ทั้งนี้ ค่ายมือถือทั้ง 5 ราย ยืนยันตรงกันว่า การคิดอัตราค่าบริการดาต้าไม่มีปัดเศษแน่นอน เป็นการคิดตามความจุของการใช้งานจริง ซึ่งตามข้อกำหนดของกสทช.ระบุไว้ว่า จะต้องคิดอัตราดาต้าไม่เกิน 0.28 บาทต่อเมกะไบต์ โดยข้อกำหนดนี้ได้ระบุอยู่ในเงื่อนไขใบอนุญาตอยู่แล้ว

ขณะที่การคิดอัตราค่าโทรตามจริงเป็นวินาที หลังจากผู้ประกอบการทำตามคำสั่ง กสทช. จะต้องรอดูผลตอบรับจากผู้ใช้ก่อน เนื่องจากยังมีผู้ใช้งานน้อย และยังไม่มีร้องเรียน ซึ่งทุกค่ายมือถือยืนยันว่าแพ็คเกจคิดค่าโทรตามจริงที่ออกมาเป็นไปตาม กสทช.กำหนด คือคลื่นความถี่ย่าน 2100 เมกะเฮิรตซ์ หรือ 3จี ค่าบริการต้องไม่เกิน 0.84 บาทต่อนาที ส่วนคลื่นความถี่ย่านอื่นต้องไม่เกิน 0.99 บาทต่อนาที

ส่วนกรณีที่ต้องมีประกาศออกมากำกับดูแลผู้ให้บริการ เรื่องการคิดค่าโทรนั้น กสทช. มีกฎหมายที่รองรับส่วนนี้อยู่แล้ว คือ ร่างประกาศ เรื่อง การกระทำที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม โดยอาศัยการใช้เครือข่าย หรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ พ.ศ. ... ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการไปประกาศรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ

ทั้งนี้ ร่างประกาศฉบับนี้จะเป็นมาตรการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค อาทิ การคิดค่าโทรศัพท์ที่ไม่เป็นจริงตามการใช้งาน ซึ่งให้อำนาจ กสทช.สั่งระงับการดำเนินการดังกล่าวของผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมได้ และให้มีอำนาจสั่งปรับทางปกครองได้ไม่เกิน 5 ล้านบาทและปรับ 100,000 บาทต่อวัน ตามระยะเวลาที่ยังไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่ง เมื่อมีประกาศออกมาบังคับใช้ และหลังจากรับฟังความคิดเห็นสาธารณะและเสนอต่อกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว จะมีผลบังคับให้ค่ายมือถือ ต้องคิดค่าโทรเป็นจริงตามการใช้งาน

ส่วนนางสาวสารี อ๋องสมหวัง ประธานกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แถลงว่า ขณะนี้ค่ายโทรศัพท์มือถือ ทั้งเอไอเอส ดีแทค และ ทรูมูฟ จัดโปรโมชั่นใหม่โดยคิดค่าบริการเป็นวินาที ซึ่ง สปช.คำนวณแล้วพบว่า ผู้บริโภคจะต้องจ่ายค่าบริการแพงขึ้นกว่าเดิม 62% รวมทั้งสิทธิประโยชน์ก็ลดลงด้วยเมื่อเปรียบเทียบกับแพ็คเกจเดิมที่ไม่คิดค่าโทรเป็นวินาที

นอกจากนี้ โปรโมชั่นที่ออกมายังซับซ้อน ยากที่ผู้บริโภคจะเข้าใจ เป็นนโยบายเพื่อให้เกิดความสับสนและยังคงเอาเปรียบผู้บริโภคเหมือนเดิม

พร้อมกันนี้ สปช. (ด้านกฎหมายที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัล) กำลังพิจารณา พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ เพื่อปรับปรุงกลไกการคุ้มครองผู้บริโภคให้ชัดเจน และเสนอให้ กสทช. ใช้มาตรการป้องกันการเอาเปรียบผู้บริโภค ห้ามผู้ประกอบการคิดค่าบริการในส่วนที่ผู้บริโภคไม่ได้มีการใช้งานจริงทั้งในส่วนที่เป็นค่าโทรศัพท์และค่าบริการอินเทอร์เน็ต เพราะการคิดค่าบริการโดยปัดเศษการใช้งานอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเข้าข่ายเป็นการค้ากำไรเกินควร

ทั้งนี้ กสทช. ควรรวมเรื่องการคิดค่าโทรศัพท์เป็นวินาทีเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาในประกาศ “การกระทำที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมโดยการอาศัยการใช้เครือข่ายหรือการโฆษณา อันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ พ.ศ. ....” ซึ่งจะจัดรับฟังความคิดเห็นวันที่ 12 มี.ค. 2558