SCตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า10%

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ SC เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน และตั้งเป้ายอดขายที่ 1.3 หมื่นล้านบาท เติบโต 52% ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีโครงการต่อเนื่องที่เปิดขายอยู่ที่หมด 32 โครงการ มูลค่าโครงการคงเหลือเพื่อขายรวมประมาณ 2.29 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 24 โครงการ และโครงการแนวสูง 8 โครงการ พร้อมกันยอดขายรอโอน (Backlog) ณ วันที่ 31 ธ.ค.2557 ประมาณ 8.8 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ราว 44%

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่ารวม 1.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยม 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7.6 พันล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกคาดว่าจะเปิด 2 โครงการหรู คือโครงการกรานาดา ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม ที่มีมูลค่าโครงการ 2.1 พันล้านบาท โดยจะเปิดให้เยี่ยมชมโครงการในวันที่ 28 มี.ค.นี้ และโครงการ Saladaeng One ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมที่มีมูลค่าโครงการ 3.7 พันล้านบาท โดยจะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือน พ.ค.2558

นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งเป้าหมาย ในอีก 5 ปีข้างหน้า (2562) SC จะมีรายได้แตะ 2 หมื่นล้านบาท ตามแผนยุทธศาสตร์เชิงรุกในการลงทุนเพื่อสร้างรายได้เติบโตต่อเนื่อง จากการพัฒนาอสังหาฯโดยรักษาผู้นำตลาดบ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยม พร้อมที่จะรุกไปยังระดับราคาใหม่ๆที่ยังไม่เข้าไป และยุทธศาสตร์เชิงรับด้วยการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และการรักษาคุณภาพระดับพรีเมี่ยมทั้งสินค้าและบริการควบคู่ไปกับการเติบโต มุ่งเน้นพัฒนาบุคลากรสร้างวัฒนธรรมองค์กร และสุดท้ายคือการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง   

ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะทำได้มากกว่า 12% และภายในปี 2562 จะมีอัตรากำไรสุทธิขึ้นไปแตะระดับ 15% เนื่องจากบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบกับได้มีการนำเทคโนโลยีการผลิตผนังแบบพรีแคสเข้ามาใช้กับบ้าน จึงส่งผลทำให้อัตรากำไรสุทธิปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนี้ บริษัทฯตั้งงบซื้อที่ดินในปีนี้ไว้ที่ 5.2 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าเร็วๆนี้จะสามารถสรุปที่ดินที่จะซื้อเพิ่มอีก 2 แปลงในเขตกรุงเทพฯ และวางงบลงทุนก่อสร้างในปีนี้ไว้ที่ 7.8 พันล้านบาท ซึ่งมีเงินทุนรองรับไว้แล้ว