เสกหุ่นสวยหลังคลอด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลอด 9 เดือนแห่งการอุ้มท้องคุณแม่ขุนตัวเองมาก รู้ตัวอีกทีก็ตอนหลังคลอดว่ามีน้ำหนักส่วนเกิน

คุณแม่ร้อยทั้งร้อยอยากจะฟิตหุ่นเพื่อกลับไปใส่เสื้อผ้าชุดเดิมหรือแม้แต่กางเกงยีนส์ตัวโปรดได้เหมือนก่อนตั้งครรภ์ แต่ภาระหน้าที่หลังคลอดนั้นก็หนักหนาเอาการ ไหนจะต้องทำหน้าที่ภรรยาคอยดูแล สามีที่รัก และยังต้องทุ่มเทเวลาดูแลลูกน้อยแบเบาะตลอด 24 ชั่วโมง การควบคุมน้ำหนักจึงอาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับบรรดาคุณแม่ แต่ข่าวดีก็คือคุณแม่ทั้งมือเก่าและมือใหม่สามารถหยิบเอาเสื้อผ้าและกางเกง ยีนส์ตัวโปรดที่ถูกซุกไว้ในตู้เสื้อผ้ากลับมาสวมใส่อีกครั้ง พร้อมรูปร่างที่ฟิตและสมส่วนดังเดิม เฮอร์บาไลฟ์แนะนำเคล็ดลับสำคัญสู่การเริ่มต้นสร้างความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวด้วยกฎทอง 3 ข้อคือ

กฎข้อ 1 – ห้ามบอกว่าไม่มีเวลา แม้จะยุ่งแค่ไหน ต้องมองหาเวลาออกกำลังกายให้ได้ อาจจะเป็นช่วงที่ลูกนอนหลับหรือช่วงที่มีผู้อื่นช่วยคุณดูแลลูก เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงต่อวัน สัก 5 วันต่ออาทิตย์ก็เพียงพอกับ
การสร้างนิสัยแห่งคนมีสุขภาพดีแล้ว
กฎข้อ 2 – อย่าทำให้ตัวเองเบื่อ ใน 5 วันนั้น ควรออกกำลังแบบคาร์ดิโอสัก 3 วัน ส่วนที่เหลือเน้นไปที่การเสริมสร้างความแข็งแรง เลี่ยงกิจกรรมแบบเดิมซ้ำไปซ้ำมา แต่หันมาผสานการออกกำลังกายกับกิจวัตร
ประจำวันอื่นๆ เช่น การทำงานบ้าน การปฏิบัติภารกิจส่วนตัว เช่น อาบน้ำ แต่งตัว เป็นต้น
กฎข้อ 3 – ท้าทายตนเองอยู่เสมอ ทะลายขีดจำกัดของตนเองเมื่อภารกิจการออกกำลังกายเริ่มจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ พยายามหากิจกรรมออกกำลังกายในระดับที่ยากขึ้นกว่าเดิมเพื่อให้คุณไม่หยุดอยู่กับที่

ซูซาน โบเวอร์แมน ผู้อำนวยการด้านการฝึกอบรมโภชนาการของเฮอร์บาไลฟ์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบอกได้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไรจึงจะสามารถลดน้ำหนักส่วนเกินอันเกิดจากการตั้งครรภ์ได้ ในช่วง 1 เดือนแรกหลังคลอด คุณแม่ไม่ควรสนใจเรื่องแคลอรี่ในอาหารด้วยซ้ำ เพราะถ้าหักโหมให้ตนเองลดน้ำหนักเร็วเกินไป จะกระทบต่อคุณภาพและปริมาณน้ำนมของคุณแม่ได้ คุณแม่จึงควรทานอาหารที่มีลีนโปรตีน ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีไขมันต่ำให้มาก รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ผักและผลไม้สดหรือธัญพืช เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ส่วนโปรตีนจะช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อของร่างกายที่สึกหรอ และเกลือแร่ที่สำคัญ เช่น แคลเซียม และธาตุเหล็ก ซึ่งคุณแม่หลังคลอดต้องการเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้คุณแม่ควรจะเรียนรู้การทำหน้าที่แม่และสร้างความผูกพันระหว่างแม่กับลูก ทั้งยังควรดื่มน้ำสะอาด และพักผ่อนอย่างเพียงพอ

อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ

การขาดน้ำจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ดังนั้นจึงหมั่นจิบน้ำหรือชาสมุนไพรอยู่เรื่อยๆ และช่วงให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน แต่ถ้าเริ่มให้ลูกดื่มนมจากขวด ควรเลี่ยงคาเฟอีนตอนบ่ายเป็นต้นไป จะได้ไม่กระทบกับการนอนตอนกลางคืน

กินให้มากแต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่ขวางหน้า

คุณแม่ขณะตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มักตกอยู่ในกับดักความคิดที่ว่า ควรทานอาหารมากขึ้นสำหรับตัวคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ ซึ่งเป็นสาเหตุของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหลังคลอด ดังนั้น คุณแม่ควรเปลี่ยนความ คิดเป็นการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางสารอาหารเพิ่มขึ้นต่างหากจึงจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของคุณและเผื่อแผ่ไปยังลูกน้อยในช่วงที่ยังให้นม นอกจากนี้คุณแม่ควรระมัดระวังการบริโภคน้ำตาลซึ่ง อาจจะช่วยอาการอิดโรย แต่อาหารที่อุดมไปด้วยน้ำตาลไม่ได้มีสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายในระดับสูง

คุณต้องไม่ลืมว่าการที่คุณค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักมาได้ระหว่างตั้งครรภ์ก็ใช้เวลากว่า 9 เดือน ดังนั้น อย่าคาดหวังว่าจะผอมได้ในบัดดล ทุกอย่างต้องใช้เวลาทั้งนั้น เมื่อคุณและลูกต่างมีภารกิจประจำวันร่วมกันที่เริ่มเข้าที่เข้าทาง คุณก็จะเริ่มควบคุมการกินและออกกำลังกายได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น หากลองทำตามคำแนะนำข้างต้นภายใต้วินัยที่ดีแล้ว คุณจะสามารถลดน้ำหนักลงมาได้ประมาณ 0.4-0.9 กิโลกรัม ต่อสัปดาห์เลยทีเดียว คุณน่าจะรู้สึกเบาตัวและเห็นความเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้ภายใน 1 เดือน ทดสอบได้ง่ายๆ ด้วยการลองหยิบกางเกงยีนส์ตัวโปรดกลับมาสวมใส่อีกครั้ง เผลอๆ อาจจะใส่แล้วหลวมกว่า เดิมก็ได้