น้ำลดปะทะเดือดนราฯวิสามัญฯ2คนร้าย

น้ำลดปะทะเดือดนราฯวิสามัญฯ2คนร้าย

ใต้เดือดทันควันหลังน้ำลด คนร้ายควบกระบะแหกด่านตรวจที่เจาะไอร้อง นราธิวาส

ทหารพรานไล่ตามเปิดฉากยิงปะทะ สุดท้ายวิสามัญฯดับ 2 รวบอีก 3 พบประวัติพัวพันคดีความมั่นคง ฝั่งเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 1 นาย "ประยุทธ์" ยอมรับพูดคุยสันติสุขไม่ง่าย เหตุฝ่ายผู้เห็นต่างไม่พร้อมคุย ด้าน สพฐ.ลุยเปิดโรงเรียนกีฬาชายแดนใต้ ดึง "ซิโก้" ร่วมเป็นบอร์ดโครงการ พร้อมลงพื้นที่สอนเด็กด้วยตัวเอง

สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาร้อนระอุอีกครั้งหลังน้ำลด โดยเมื่อเวลา 13.15 น.วานนี้ (6 ม.ค.) ร.ต.ท.กอบเกียรติ มณีโชติ ร้อยเวร สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4816 กรมทหารพรานที่ 48 (ร้อย ทพ.4816 ทพ.48) ได้ยิงปะทะกับคนร้ายบนถนนจารุเสถียร ช่วงเจาะไอร้อง-สุไหงปาดี ใกล้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมะรือโบออก บ้านปาเร๊ะลูโบ๊ะ หมู่ 9 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง มีคนร้ายเสียชีวิต 2 คน เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 1 นาย จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ

ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิซิ รุ่นไทรทัน สีดำ สี่ประตู หมายเลขทะเบียน กง 4143 ยะลา จอดเสียหลักอยู่กลางถนนในสภาพตัวถังถูกกระสุนปืนจนพรุน ที่รถพบศพ 2 ศพอยู่ใกล้กับประตูรถด้านขวา ทราบชื่อคือ นายสมาแอ ปาล๊ะมูบิง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ 1 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และ นายมะยูตี อีแต 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/1 หมู่ 6 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส โดยทั้ง 2 คนมีประวัติพัวพันคดีความมั่นคงหลายคดี

นอกจากนั้น จากการตรวจสอบภายในรถยังพบแกลลอนน้ำมันเครื่องที่บรรจุกระสุนปืนสงครามนานาชนิดไว้เกือบเต็มแกลลอน ทั้งยังมีกระเป๋าสะพาย เชือก เสื้อผ้า และกระเป๋าคาดเอวด้วย เจ้าหน้าที่จึงยึดทั้งหมดไปตรวจพิสูจน์

ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บนั้น อาการไม่สาหัส ทราบชื่อคือ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) วิน นาคจู

เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ขณะที่ทหารพรานกำลังตั้งจุดตรวจบนถนนในหมู่บ้านเจาะเกราะ หมู่ 1 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้องนั้น ปรากฏว่ารถกระบะของคนร้ายแล่นผ่านมา และไม่ยอมหยุดให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น ซ้ำยังขับหลบหนี เจ้าหน้าที่ทหารพราน จำนวน 6 นาย จึงขี่รถจักรยานยนต์ 3 คันไล่ติดตาม

กระทั่งถึงบริเวณหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมะรือโบออก คนร้ายได้จอดรถและใช้อาวุธปืนยิงใส่ทหารพราน เจ้าหน้าที่จึงจอดรถจักรยานยนต์และใช้ไหล่ถนนเป็นที่กำบัง เปิดฉากยิงตอบโต้กับกลุ่มคนร้ายอย่างดุเดือด ฝ่ายคนร้ายเห็นจวนตัวจึงใช้อาวุธปืนยิงเบิกทาง ก่อนจะทิ้งรถวิ่งหลบหนีไป โดยมี 2 คนถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต ขณะที่อีก 3 คนหลบหนีไปได้

ต่อมามีรายงานว่าเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 คน แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าเป็นกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีไปหลังเหตุการณ์ยิงปะทะหรือไม่

ประยุทธ์บอกกลุ่มเห็นต่างไม่พร้อมคุย

วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ช่วงปีใหม่ได้มีโอกาสพบกับ นายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นการส่วนตัว และได้คุยกันเรื่องการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยผู้นำมาเลเซียบอกว่าจะเร่งรัดเรื่องการเจรจาให้ และเวลานี้กำลังหาคนเหล่านั้น (ผู้เห็นต่างจากรัฐ) ให้ตรงและครบทุกกลุ่ม

"มันไม่ได้ง่าย บอกแล้วขึ้นอยู่กับคน ส่วนเราพร้อมเต็มที่ทุกอย่างที่จะพูดคุยไปสู่สันติสุขอย่างยั่งยืน แต่ปัญหาคือคนที่เขาตั้งประเด็นขึ้นมาต่อสู้ มาใช้ความรุนแรงเหล่านี้ เขาพร้อมหรือยัง เขาอยากหรือไม่ เขามีกี่กลุ่ม สมมติว่ามีหลายกลุ่ม ทุกกลุ่มอยากจะมีสันติสุขกับเราหรือยัง มันอาจจะยังไม่ครบมั้ง คนที่ดี คนที่ต้องการ เขาทำกับเราอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวล วันนี้มันก็เบาลงตั้งเยอะ แต่เท่าที่รู้วันนี้บางพวกเขาก็ยังไม่ยอม"

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ดำเนินการอยู่ และมีคณะทำงานทำงานอยู่ พูดกันได้อยู่ แต่อย่างเป็นทางการต้องรอให้ครบทุกกลุ่ม ไม่เช่นนั้นจะเหมือนเดิม เป็นแบบเก่า กดดันเราแบบเก่า มันไม่ได้ วันนี้เราพร้อมคุย ต้องไปถามคนที่ซ่อนหนีอยู่ เราอยู่ในที่เปิดเผยพร้อมตั้งโต๊ะ จะเอาอะไรก็เสนอมา พร้อมทุกวัน ทุกเวลา ทุกนาที ไปหามา

สพฐ.เปิดโรงเรียนกีฬาชายแดนใต้

นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า สพฐ.ได้จัดทำโครงการโรงเรียนส่งเสริมความเป็นเลิศด้านกีฬาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคัดเลือกโรงเรียนที่มีความพร้อมใน จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อย่างน้อยจังหวัดละ 1 โรง พัฒนาเป็นโรงเรียนเป็นเลิศด้านกีฬา

ทั้งนี้ เป้าหมายของการจัดทำโครงการ ส่วนหนึ่งเพื่อรองรับการแก้ปัญหาภาคใต้ ซึ่ง สพฐ.เห็นว่าการส่งเสริมด้านกีฬาสามารถช่วยได้ เด็กในภาคใต้เองก็สนใจทางด้านนี้อยู่มาก ขณะเดียวกันก็เป็นการดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการด้วย

"ตามแผนจะมีการรับนักเรียนรุ่นแรกในปีการศึกษา 2558 ส่วนประเภทกีฬาที่จะส่งเสริมนั้น สพฐ.สำรวจแล้วว่าเด็กในพื้นที่มีความสนใจกีฬา 14 ประเภท โดยเฉพาะแบดมินตัน บาสเกตบอล และฟุตบอล หลังจากนี้จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการขึ้นมาดูแลเป็นการเฉพาะ ซึ่ง สพฐ.ได้ทาบทาม ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย มาเป็นบอร์ดและได้รับการตอบรับจากแล้วด้วย โดยซิโก้บอกว่าพร้อมจะลงไปช่วยฝึกซ้อมและให้ข้อแนะนำ รวมถึงอาจจะนำนักกีฬาไปร่วมฝึกซ้อมและเป็นกำลังใจให้เด็กๆ ด้วย" นายกมล กล่าว

ทำหลักสูตรเฉพาะ-ปูอนาคตเด็ก3แนว

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า ระหว่างนี้ สพฐ.เตรียมจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมายกร่างหลักสูตรโรงเรียนกีฬา โดยทำเป็นหลักสูตรเฉพาะในลักษณะเดียวกับหลักสูตรอิงลิชโปรแกรม (EP) หรือหลักสูตรสำหรับโรงเรียนเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งนักเรียนจะได้เรียนวิชาสามัญตามปกติและเรียนกีฬาเป็นวิชาเอก

เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วเด็กจะมีช่องทางในอนาคตได้ 3 แบบ คือ เป็นนักกีฬาอาชีพ ซึ่งจะไปได้ไกลแค่ไหนแล้วแต่ความสามารถของเด็ก แต่ถ้าเด็กถนัดทฤษฎีมากกว่า สามารถเลือกเรียนต่อทางวิทยาศาสตร์การกีฬา คณะครุศาสตร์ เอกพลศึกษา เพื่อทำงานเกี่ยวกับการบริหารจัดการการกีฬา นอกจากนั้น นักเรียนอาจเลือกศึกษาต่อในคณะอื่นๆ ได้ เพราะเรียนวิชาสามัญมาเช่นกัน

ส่วนการเลือกโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ จะไม่ดึงโรงเรียนประจำจังหวัดเข้าร่วม แต่จะเลือกโรงเรียนเบอร์ 3 หรือ 4 ในจังหวัดแทน เช่น โรงเรียนประจำอำเภอ โรงเรียนประจำตำบล เป็นต้น