"เวย์ตาน่า" ขนมแห่ง "ความรัก"

อักษรตัวใหญ่ สะดุดตาเหมือนพาดหัวข่าว ออกแบบทันสมัย ในแพคเก็จจิ้งดูดี ขณะที่ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดล้วนมีชื่อ “กิ๊บเก๋” เฉพาะตัว

อาทิ บ๊วยคืนชีพ, ลูกเดือยยิ้มแย้มรสอบเกลือ, เม็ดบัวฉาบอาบความสุข, มะขามจี๊ดพริกร้อยเม็ด, สมอหอมอโรคยา ฯลฯ กับคำบรรยายสรรพคุณซาบซึ้ง ที่คนทำบรรจงปั้นแต่งขึ้นมาจากใจ และ “ความรัก”

“WAYDHANAR ก็คือ เวทนา มาจากภาษาบาลี แปลว่า ความรู้สึก”

“แม็ค-นนทกช ปัญญาปัทม์” ผู้บริหารหนุ่มวัย 30 ปี ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อตั้ง และปลุกปั้นแบรนด์ “เวย์ตาน่า” (WAYDHANAR )บอกเล่าที่มาของชื่อ ซึ่งบางคนอาจเผลออ่านอักษรภาษาอังกฤษว่า “เวทนา” แทนที่จะเป็น “เวย์ตาน่า” ตั้งแต่ครั้งแรก

พอรู้ว่าเป็นความตั้งใจของคนทำ เลยยิงกระตุ้นความ “อยากรู้” ในเบื้องหลังธุรกิจของเขา

“ผมจบจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นลูกศิษย์อาจารย์โต (ม.ล.จิราธร จิรประวัติ) ที่มหาวิทยาลัย และเรียนวาดภาพประกอบกับท่านด้วย ผมสนใจปรัชญา ศาสนา ชอบกิน และชอบเขียนหนังสือ”

คนหนุ่มบอกที่มาของตัวเองที่ช่วยลดความแปลกใจในผลงาน ยิ่งบอกว่า “ถ้อยคำ” สร้างสรรค์ทั้งหมด ล้วนมาจากไอเดียของเขา ขณะที่คาแรคเตอร์เด็กหนุ่มตรงโลโก้แบรนด์ ก็ได้ อาจารย์โต “ม.ล.จิราธร จิรประวัติ” นักวาดภาพประกอบอันดับต้นๆ ของเมืองไทย เป็นคนออกแบบให้ ซึ่งปัจจุบันยังมีชื่อเป็นที่ปรึกษาแบรนด์ด้านสไตล์และอาร์ต ขณะที่ “สมนึก คลังนอก” หรือ ครูปาน จิตรกรและนักวาดภาพประกอบชื่อดัง ก็นั่งเป็นที่ปรึกษาด้านบรรจุภัณฑ์และการออกแบบของ “เวย์ตาน่า”

นนทกช คือ ทายาทธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ถ่ายหนัง ถ่ายละคร ในครั้งแรกที่เลือกเรียนนิเทศศาสตร์ก็เพื่ออยากมาสานต่อธุรกิจครอบครัว จนมาเกิดไอเดียอยากทำธุรกิจของตัวเอง ก็ตอนเห็นขนมไทยบ้านๆ มากมายที่อยู่ในตลาด

“ผมเป็นคนชอบกิน และเห็นว่าของไทยดีๆ มีอยู่เยอะมาก ชาวต่างชาติก็ชอบมากด้วย แต่ที่ผ่านมาขนมไทยยังมีข้อจำกัดเรื่องคุณภาพและราคา คือส่วนใหญ่เน้นขายถูก เพราะจะขายแพงกลัวขายไม่ได้ ทำให้คุณภาพไม่ได้ จึงค่อนข้างหาขนมไทยดีๆ ทานยาก”

และนั่นคือที่มาของการคิดยกระดับของกินเล่นบ้านๆ ที่คุ้นเคยคนไทยดี อย่าง บ๊วย, กล้วยฉาบ, ลูกเดือยฉาบ, เม็ดบัวฉาบ, มะขามจี๊ดจ๊าด, ขนมผิง, มะม่วงอบ เหล่านี้ มาเป็นของดีของพรีเมี่ยม ที่ใครเห็นเป็นอยากควักกระเป๋าจ่าย และซื้อไปเป็นของขวัญของฝากได้

รับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ที่กล้าจ่ายแพงกว่า เพื่อให้ได้ของคุณภาพดีมากขึ้น

เวย์ตาน่า ไม่ได้ทำแค่หยิบขนมไทยบ้านๆ แล้วมาปรับแพคเก็จจิ้งให้สวยให้เด่น แต่พวกเขาคิดโจทย์กันแบบ 360 องศา ตั้งแต่ตระเวนหาแหล่งผลิต “ของดีที่สุด” ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ โจทย์ที่โยนให้ซัพพลายเออร์ก็แค่ เน้นของดี เกรดคุณภาพ ราคาค่อยมาว่ากัน ที่สำคัญไม่เน้นซื้อผ่านพ่อค้าคนกลาง เพื่อให้รายได้ถึงชุมชนอย่าง "เต็มเม็ดเต็มหน่วย"

เวย์ตาน่า เป็นแบรนด์ที่มีเรื่องเล่า พวกเขาสร้างความรู้สึกร่วมกับลูกค้า โดยใช้คอนเซ็ปต์ “ขนมผสมความรัก” ถ่ายทอดลงไปในตัวบรรจุภัณฑ์แล้วส่งมอบให้กับลูกค้า

สินค้าที่ไม่ได้สวยแต่รูป ฉีกตัวเองของจากตลาดด้วยการออกแบบให้โดดเด่น ซึ่งหลายคนอาจคิดว่า “ช่างกล้า” ตั้งแต่ เน้นข้อความขนาดใหญ่เหมือนพาดหัวข่าว ลงทุนจัดเต็มกับแพคเก็จจิ้ง เลือกใช้ขวดแก้วที่ทั้งหนักทั้งแพง เป็นขนมแต่กล้าใช้สีอย่าง “ขาว-ดำ” ที่คงไม่มีใครกล้าใช้

“เรากล้าให้ มากกว่า ลูกค้าขอ”

คนหนุ่มบอกวิธีคิดของการทำธุรกิจ ที่มีพื้นฐานมาจากการเป็นนักสื่อสาร (นิเทศศาสตร์) ฉะนั้นคงไม่ได้คิดถึงแต่ “ต้นทุน” และ “กำไร” เป็นหลัก ทว่าขอแค่ธุรกิจอยู่ได้ ไม่ขาดทุน เพราะโจทย์ของเขาก็แค่ จะทำผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้าได้กิน

“บางทีกำไร เราไม่จำเป็นต้องได้เยอะมาก จนกระทั่งไปลดคุณภาพลงไป ซึ่งนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราอยู่ได้นะ เพราะลูกค้าก็เข้าใจว่า เราเป็นของแพงก็จริง แต่เป็นของแพงที่คุ้มค่า แม้จะตั้งราคาแพงกว่าสินค้าทั่วไป แต่เราก็ให้ ‘ของแพง’ กับเขาด้วย” เขาสะท้อนความคิด

แม้บอกว่าเป็นของแพง แต่เวย์ตาน่า ก็ตั้งราคาสูงกว่าสินค้าทั่วไปแค่ประมาณ 20% เท่านั้น คนทำบอกเราว่า ถ้าจะแพงกว่าขนาดเท่าตัว ไม่ใช่แต่ลูกค้า แต่คนทำอย่างเขาเองก็ “รับไมได้” โดยราคาขายมีตั้งแต่ 39 บาท จนถึง 195 บาท

ขณะที่เมื่อเข้าฤดูเทศกาลของขวัญของฝาก อย่างในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เวย์ตาน่า ยังเป็นกระเช้ายอดนิยม ที่มียอดสั่งกว่า 6 พัน กระเช้า ไม่ใช่เพียงแค่สินค้าดูดีที่นำมาจัดกระเช้า แต่รวมถึงผลิตภัณฑ์ดีไซน์ที่พวกเขาเอามารวบรวมเป็น “มูลค่าเพิ่ม” ให้กับลูกค้าด้วย เช่น ตุ๊กตาหมีวิลฟรีด ผ้าปักลายดอกไม้ความสุข จานขนมเจ้าหญิงกับสิ่งรัก เป็นต้น กับราคากระเช้าตั้งแต่ 799 ไปจนประมาณ 2,500 บาท

“ตอนนี้เวย์ตาน่า มีโพรดักส์ไลน์ 21 ตัว”

คนทำบอกตัวเลข "เป๊ะๆ" โดยไม่ต้องใช้การประมาณ เพราะลงมือทำด้วยตัวเอง ไม่ได้ใช้มืออาชีพที่ไหนมาบริหารให้ ซึ่งสินค้าที่ออกมาใหม่ทุกชิ้น ก็ยังคงอยู่ในคอนเซ็ปต์ ของดี คุณภาพสูง มีเรื่องเล่า และเน้นดีไซน์

“นี่เหมือนเป็น ‘คำสัญญา’ ของแบรนด์ ที่เราจะให้ในทุกโพรดักส์ คือ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกครั้ง ลูกค้าจะมั่นใจได้ว่า เมื่อทานแล้วเขาจะได้รสชาติที่แตกต่าง และเป็นของดีจริงๆ ไม่ใช่หาที่ไหนก็ได้”

ความละเอียดและใส่ใจในการทำธุรกิจ ด้วยสูตรที่ย้ำกับเราว่า “ให้มากกว่าที่ลูกค้าร้องขอ” ทำให้แบรนด์ที่เริ่มต้นด้วยเงินลงทุนเพียงหลักหมื่นบาท เติบโตมาเป็นธุรกิจหลักสิบล้านบาทในเวลาเพียง 3 ปี! ขณะที่ปัจจุบันอยู่มาได้ 5 ปี มีรายได้ที่ประมาณ 25-30 ล้านบาท มีสินค้ากระจายไปในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อ และสายการบิน พร้อมเป้าหมายส่งสินค้าไทยไปขายทั่วเอเชีย

เป้าหมายในการทำธุรกิจของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน สำหรับคนหนุ่มที่ชื่อ นนทกช เขาบอกแค่ว่า มันคือ “ความสุข”

“ผมมีเพื่อนรุ่นเดียวกันที่ได้เงินเยอะกว่าเป็นร้อยเท่า แต่พอถึงจุดหนึ่งเขาอาจบอกว่า เขาไม่มีความสุขเลยก็ได้ เขาอาจจะหยุด หรือบางทีก็เจ็บป่วยไป หรืออย่างรุ่นพ่อแม่เรา ที่ทำงานมากไปจนกระทั่งไม่มีเวลาใช้เงินเลย สำหรับผมแล้ว การทำธุรกิจ ผมต้องการแค่..ความสุข”

ฝากถึงคนรุ่นใหม่ที่อยากลุกมาเป็นผู้ประกอบการ คนหนุ่มบอกเราว่า ขอให้ชัดเจนว่า ตัวเองอยากได้อะไร ซึ่งความชัดเจนที่ว่านั้น จะทำให้เรามีพยายาม และมีความรักที่จะมุ่งมั่นกับสิ่งที่ทำต่อไป ขณะที่ต้องสู้ และสู้แล้วต้องไม่หยุด ต้องรักจริง ที่สำคัญต้องมีความเชื่อ และศรัทธา ทั้งในตัวเองและสินค้าที่ทำด้วย ถึงจะพิชิตเป้าหมายที่หวังไว้ได้

และนี่คือสินค้าที่ตอบความสุขของคนทำ พร้อมส่งมอบ “ความรัก” ไปยังคนทาน ผ่านเรื่องเล่าที่เป็นมากกว่าเรื่องเล่า เพราะนี่คือ ชีวิตและตัวตนของพวกเขา...เวย์ตาน่า

....................................

Key to success

สูตรทำขนมบ้านๆ ให้พรีเมี่ยม

๐ ขายคอนเซ็ปต์ มีเรื่องเล่า ขนมผสมความรัก

๐ ใช้การออกแบบ แตกต่าง ดูดี สะท้อนตัวตน

๐ เน้นของดี เกรดพรีเมี่ยม คุณภาพสูง

๐ กล้าให้มากกว่าที่ลูกค้าร้องขอ

๐ เพิ่มมูลค่ากระเช้าเทศกาล ด้วยของดีไซน์

๐ กำไรไม่สำคัญที่สุด แต่ธุรกิจต้องตอบ ความสุข