ครม.ไฟเขียวท่องเที่ยวไทยเป็นวาระแห่งชาติปี58

ครม.ไฟเขียวท่องเที่ยวไทยเป็นวาระแห่งชาติปี58

"กอบกาญจน์"เผยครม.ไฟเขียวท่องเที่ยวไทยเป็นวาระแห่งชาติ ปี 58 ระบุตัวเลขท่องเที่ยวเป็นบวกตั้งแต่เดือนต.ค.

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงคดี ปรส.ที่ใกล้หมดอายุความ พล.อ.ประวิตร กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ให้ไปถาม ป.ป.ช.

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม.อนุมัติผ่านความเห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอให้การท่องเที่ยววิถีไทยเป็นวาระแห่งชาติประจำปี 2558 ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มีการนำเสนอต่อที่ประชุม คสช.มาแล้วและเห็นชอบในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งปี 2558 ตลอดทั้งปีให้ถือว่าเป็นปีแห่งการท่องเที่ยววิถีไทย โดยวัตถุประสงค์ก็เพื่อการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและถูกต้องตามวิถีไทย โดยเน้นที่อัตลักษณ์ของความเป็นไทยเพื่อให้รู้จักวิถีชีวิตของคนไทย ทั้งศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ชาติ และธรรมชาติเป็นแหล่งท่องเที่ยวของเราอยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่าจะเป็นจุดขายและน่าสนใจที่ดีที่สุดคือชีวิตความเป็นอยู่ของเราในปัจจุบัน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากต่างประเทศ นอกจากนี้ก็จะเป็นการกระจายรายได้ที่ดี เพราะการท่องเที่ยววิถีไทยจะมีการไปเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวชุมชน การท่องเที่ยวตามหมู่บ้าน ตำบลต่างๆที่มีการพัฒนา นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมความเป็นอยู่ และซื้อสินค้าต่างๆ มีกิจกรรมอะไรบ้าง ถือเป็นการกระจายรายได้และลดความเหลื่อมล้ำ และสิ่งที่สำคัญเป็นการสร้าความภาคภูมิใจในความเป็นไทยและการปลูกฝังกับเยาวชน เพราะการท่องเที่ยววิถีไทยจะสร้างให้ชุมชนมาดูแล เช่นโครงการเจ้าบ้านน้อย ซึ่งจะมีเด็กนักเรียนมาเป็นมัคคุเทศก์ในท้องถิ่นนำเที่ยวในหมู่บ้าน วัดวาอาราม ซึ่งนอกจากจะสร้างรายได้แล้วเยาวชนก็จะได้เรียนรู้ถึงคุณค่าในสิ่งที่ใกล้ตัวเองเสริมสร้างการรักท้องถิ่น ชุมชน

"การท่องเที่ยววิถีไทยเป็นการตอบโจทย์คนที่เคยมาเที่ยวเมืองไทยแล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองไทยครึ่งหนึ่งคือคนที่เคยมาแล้วมากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งเขาต้องการแหล่งท่องเที่ยว ข้อมูลใหม่ๆ จึงเป็นการตอบโจทย์ให้คนที่เคยมาแล้วอยากกลับมาอีก หรือคนที่มาใหม่ก็จะได้เห็นความเป็นไทยอย่างลึกซึ่งมากขึ้น ซึ่งเป็นการตอบโจทย์การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ทำให้นักท่องเที่ยวใช้เวลานานมากขึ้น จากเดิมเฉลี่ย 8-9 วัน ก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 9-10 วัน หรือ 10-11 วัน ค่าใช้จ่ายต่อหัวก็จะเพิ่มขึ้น เป็นการท่องเที่ยวแบบสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งการโปรโมทโครงการท่องเที่ยววิถีไทยนั้นได้ดำเนินการไปแล้วโดยใช้งบประมาณ 60 ล้านบาท ในส่วนของจังหวัดก็มีการเตรียมการแล้วเพื่อสร้างจุดขายและจังหวัดเข้ามาดูแลแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ และนอกจาก 10 เมืองใหญ่ที่เป็นเมืองหลักที่มีการสร้างมุมมองใหม่ในการท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต กระบี่ พังงา หาดใหญ่ แล้วก็ยังมี 12 จังหวัดใหม่ที่เป็นเมืองต้องห้ามพลาด ที่กระจายครบทุกภาค ประกอบด้วย ลำปาง น่าน เพชรบูรณ์ บุรีรัมย์ เลย ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช ราชบุรี สมุทรสงคราม ตราดและจันทรบุรี"

รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงความมั่นใจเป็นการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเอเชียนบีชเกมส์ ที่จัดขึ้นที่ภูเก็ต ว่า มีความมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นการจัดการแข่งขันกีฬาและสนับสนุนการท่องเที่ยวไปด้วยกัน วันนี้นักกีฬาเริ่มทยอยเข้าพื้นที่แล้ว ประมาณ 2,700 คน รวมทั้งนักท่องเที่ยว 1,600 คน ยังไม่รวมครอบครัว ซึ่งที่พักเกือบเต็มหมดแล้ว ในส่วนของสถานที่จัดการแข่งขัน 23 ที่ จาก 26 ประเภทกีฬาก็มีความพร้อมยกเว้นอาจมีบางแห่งอาจล่าช้าไปบ้างเพราะฝนตก แต่ถือว่าค่อนขางสมบูรณ์

"การที่รัฐบาลยังคงกฎอัยการศึกไว้นั้นก็ไม่สร้างผลกระทบอะไรทั้งเรื่องการแข่งขันกีฬาหรือการท่องเที่ยว ซึ่งผู้ประกอบการเองก็ไม่มีการมาขอร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึก เพราะทุกคนเข้าใจและถึงวันนี้นักท่องเที่ยวยุโรป อังกฤษและจีนก็ไม่ตก ถึงวันนี้แนวโน้มการท่องเที่ยวเพิ่งขึ้นแล้ว เพียงแต่สถานที่ท่องเที่ยวจะกระจายออกไปและนักท่องเที่ยวก็จะบินตรงไปยังสถานที่นั้นๆเลย เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ สมุย เป็นต้น วันนี้นักท่องเที่ยวเริ่มเพิ่มมากขึ้นเป็นบวกตั้งแต่เดือน ต.ค.โดยเฉพาะในเดือนธ.ค.คาดว่าจะบวกประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์ ยอดการจองที่พักและตั๋วเครื่องบินเป็นบวก และตลอดทั้งปีคาดว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 25-25.5 ล้านคน และคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวปีหน้าจะเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ในปีนี้ นักท่องเที่ยวจะตกจากปีที่ผ่านมาไปประมาณ 1 ล้านคน เพราะต้นปีในช่วงสถานการณ์การเมือง ในต่างจังหวัดถือว่าการท่องเที่ยวดีขึ้น ด้วยความที่มีการโปรโมทการท่องเที่ยวต่างจังหวัดมากอีกทั้งสายการบินต่างๆ ก็มีการเพิ่มเที่ยวบิน มีการขยายสนามบิน ทำให้นักท่องเที่ยวมีทางเลือกมากขึ้น ในส่วนของ กทม.นักท่องเที่ยวก็แวะแต่จำนวนวันอาจน้อยลงซึ่งกระทรวงต้องหันมาดูว่าจะช่วยกทม.อย่างไร แต่ก็เป็นส่วนดีที่สามารถกระจายรายได้ไปยังท้องถิ่น"รมว.การท่องเที่ยวฯ กล่าว

นางกอบปาญจน์ กล่าวว่า สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่การท่องเที่ยวน่าจะดีขึ้น ซึ่งเราจะมีการกิจกรรมเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีปฏิทินเคาท์ดาวน์ออกมาเพราะหยุดยาว 5 วัน จึงขอเชิญชวนคนไทยว่าให้อยู่เที่ยวเมืองไทยไม่ต้องออกไปเที่ยวยังต่างประเทศ ซึ่งปีนี้เคาท์ดาวน์ประเทศไทยจะมีหลากหลายมีทั้งความสนุก มีเรื่องของธรรมมะ และจัดพร้อมกันในหลายพื้นที่ทั้งเซ็ลทรัลเวิร์ล ถนนข้าวสาร และอีกหลายๆที่ รวมทั้งจะร้อยเรียงกิจกรรมต่างๆที่มีอยู่แล้วและส่งเสริมให้รับทราบโดยทั่วกัน ส่วนจะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเคาท์ดาวน์หรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณา