'ฉัตรชัย'เร่งขายจีทูจีเจรจาจีนซื้อข้าวเพิ่ม

“ฉัตรชัย” เปิดแผนระบายข้าวหลังผลตรวจสต็อกชัดเจน แย้มจีนสนซื้อข้าวไทยเพิ่ม พร้อมดันซี.พี.ลุยตลาดบาห์เรนเพิ่มปริมาณนำเข้าข้าว เดินหน้าเจรจาฟิลิปปินส์-อินโดนีเซียขายจีทูจีเพิ่ม ยันระบายข้าวรัฐต้องโปร่งใส ไร้ระบบวอล์คอินขอซื้อข้าว มุ่งประมูลหวังราคาเหมาะสม

พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์หน้าผลการตรวจสอบปริมาณข้าวในสต็อกรัฐบาลจะได้ข้อสรุป เนื่องจากยังเลือกปริมาณข้าวบางส่วนที่กองล้มและกระสอบเปื่อยจนข้าวแตกออกมาทำให้ ตรวจวัดปริมาณไม่ได้ โดยม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกฯในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ได้สั่งการให้บริษัทเซอร์เวเยอร์และคลังสินค้าที่มีปัญหาดังกล่าว หาแนวทางแก้ไขว่าควรจะตรวจนับอย่างไร

"เบื้องต้นข้าวที่ตรวจนับไม่ได้ประมาณ 10% ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นแป้งป่น และออกมากองนอกกระสอบ แต่ก็สามารถระบายได้เช่นนำไปทำเป็นอาหารสัตว์"

ส่วนข้าวส่วนใหญ่อีก 80% เป็นข้าวเสื่อมคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน แต่เมื่อปรับปรุงแล้วก็สามารถขายได้ตามปกติ และอีก 10 % เป็นข้าวที่ดีผ่านมาตรฐาน ขณะที่ข้าวอีก 1 แสนตันขาดหายไปจากบัญชี ซึ่งตามระบบราชการ คณะกรรมการนโยบายและการบริหารจัดการข้าว (นบข.)เมื่อพบปัญหาก็จะต้องส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาผู้รับผิดชอบ

ทั้งประเด็นความเสียหายและสูญหาย ซึ่งหน่วยงานหลักๆ ทั้ง องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และองค์การคลังสินค้า (อคส.) ต้องเข้าไปดูสัญญาเพื่อหาผู้รับผิด โดยลักษณะสัญญามี 2 แบบคือ แบบเช่าคลัง เซอร์เวเยอร์รับผิดชอบ แบบฝากเก็บเจ้าของคลังต้องรับผิดชอบ

“เมื่อได้ข้อมูลที่ชัดเจนทั้งหมดแล้วก็จะขออนุมัติจาก นบข. เรื่องแผนการระบาย เบื้องต้นต้องส่งมอบข้าวให้ครบตามสัญญาเดิมที่มีอยู่ คือ ข้าว 1 ล้านตันที่ตกลงไว้กับคอฟโก ส่วนสัญญาอื่นๆ หรือที่เรียกว่าจีทูจีเก๊ อันอื่นผมไม่เกี่ยวและไม่เข้าไปยุ่งด้วย ตอนนี้กับคอฟโกส่งออกไปแล้ว 3 แสนตัน ที่เหลือ 7 แสนตันกำลังทยอยส่งมอบ” พล.อ. ฉัตรชัย กล่าว

การส่งมอบข้าวให้จีน ขณะนี้ติดปัญหาไม่มีเรือเข้ามารับข้าวเพราะมีปัญหาฝนตก ประกอบกับขาดแรงงานขนข้าว ส่วนปัญหาปลีกย่อยอื่น ได้แก่ ฝ่ายจีนขอให้ส่งแบบคอนเทนเนอร์ แต่ไทยสะดวกที่จะส่งแบบกระสอบมากกว่า ซึ่งในการเดินทางเยือนจีน เพื่อร่วมประชุมทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค)ในสัปดาห์หน้าจะได้หารือกับจีนเพื่อหาข้อสรุปปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ จะเจรจาขอให้จีนซื้อข้าวเพิ่ม โดยต้องการนำเสนอข้าวเหนียวและข้าวขาวฤดูกาลใหม่ให้จีนพิจารณาซื้อ

พล อ. ฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ได้มอบหมายให้ซีพีไปเจรจาเพิ่มเพื่อให้ประเทศบาห์เรนนำเข้าข้าวจากไทยด้วย ส่วนการทำจีทูจีกับประเทศอื่นๆ ได้แก่ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์อยู่ระหว่างเจรจา ทั้งนี้ เห็นว่าวิธีการระบายข้าวแบบจีทูจีมีความโปร่งใส สร้างความสบายใจทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

"การระบายต้องทำอย่างโปร่งใส เปิดประมูลแข่งขันราคาจากเอกชน โดยรัฐจะคิดราคาที่เหมาะสมไว้ก่อน หากเอกชนให้ราคาที่น่าพอใจจึงจะขาย ซึ่งข้าวส่วนใหญ่ในสต็อก 80% เป็นข้าวที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน ต้องยอมรับว่าราคาจะปรับลดลงบ้าง โดยในประเด็นความโปร่งใส จะไม่มีระบบวอล์คอินเข้ามาแล้วขอซื้อข้าว ไม่มี ไม่ให้ ถ้าจะซื้อต้องแน่ใจว่าจะส่งออกไปต่างประเทศ หรือมาร่วมประมูลแข่งขันตามที่รัฐออกประกาศ"