'เติบโต-ยั่งยืน' โจทย์ท้าทาย 'มรกต ยิบอินซอย'

'เติบโต-ยั่งยืน'

โจทย์ท้าทาย 'มรกต ยิบอินซอย'

การเดินทางที่ยาวนานถึง 88 ปี ตอกย้ำได้ว่า 'ยิบอินซอย' เป็นหนึ่งในธุรกิจครอบครัวที่ฝีไม้ลายมือไม่ธรรรมดา

จากธุรกิจที่รุกคืบเข้าไปบริหาร ทั้งเทคโนโลยี เทรดดิ้ง ล่าสุดกับการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์ไฮเอนด์

ที่ผ่านมา อาจมีบ้างที่สะดุด ด้วยการขยายใหญ่ของบริษัทลูกๆ ที่แผ่กิ่งก้านออกไปมากมาย บางรายก็ต้องปิดตัวไปในที่สุด ทำให้แต่ละก้าวของ 'ยิบอินซอย' วันนี้เดินอย่างระแวดระวัง พร้อมกับเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้กับธุรกิจในระยะยาว

เพื่อตอบโจทย์ใหญ่ "Global Company" ในอีก 10-20 ปีข้างหน้า

และ 'ยิบอินซอย' จะเดินไปถึงจุดนั้นได้เรื่องใหญ่อยู่ที่ "คน"

ด้วยลักษณะเด่นของการเป็นธุรกิจครอบครัว เต็มไปด้วยความหลากหลายของธุรกิจในมือ และการทำธุรกิจมายาวนาน การขับเคลื่อนองค์กรด้วย "คน" ในแต่ละช่วงเวลาย่อมมีความแตกต่าง

ภารกิจของการบริหารจัดการ 'ยิบอินซอย'วันนี้อยู่กับเจเนอเรชั่น 2 และ 3 ล่าสุดกับการเปิดตัวคณะผู้บริหารใหม่ประกอบ คือ เทียนชัย ลายเลิศ ประธานกรรมการ , มรกต ยิบอินซอย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ สุภัค ลายเลิศ กรรมการอำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ในช่วงเมษายน 2557 ก็เป็นการส่งสัญญาณว่าการจัดทัพ 'ยิบอินซอย' ในครั้งนี้เป็นการเตรียมตัวเองให้พร้อมท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง

"ที่ผ่านมา คนข้างนอกมักมองว่าเราใหญ่ แต่เรากลับไม่คิดอย่างนั้น" มรกต ยิบอินซอย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยิบอินซอย จำกัด กล่าว และว่า "วันนี้ไม่ได้มองตัวเองว่าแข็งแรงมาก ทั้งระบบ คน และความรอบรู้ ซึ่งในเรื่องของคนก็ต้องยอมรับว่า เรากับคนรุ่นใหม่ พูดกันคนละภาษา"

สิ่งที่เตรียมการอยู่ในปัจจบันสำหรับ 'ยิบอินซอย' จึงมุ่งที่การวางระบบด้านพัฒนาคนในองค์กร และ การคัดเลือกผู้สืบทอด

"คุณอา (เทียนชัย ลายเลิศ) สอนเสมอว่า ทำธุรกิจย่อมมีความเสี่ยง การจะทำอะไรให้ระมัดระวังในเรื่องนี้ ซึ่ง คน ก็เป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่เรามอง"

วันนี้เป็นยุคของการเตรียมคน และสร้างคนเพื่อให้พร้อมกับการทำงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

จำนวนพนักงานทั้งกลุ่ม 1,300 คน คละกันทั้ง "คนเก่า" ที่ทำงานกันมาตั้งแต่ยุคก่อน กับ "คนใหม่" ที่เข้ามาในระยะหลัง แนวทางคือทำอย่างไรที่จะสร้างส่วนผสมทั้งสองส่วนนี้ให้กลมกล่อมและหลอมเข้ากับวัฒนธรรมและค่านิยมองค์กรที่วางเอาไว้ นั่นคือ

Ethic-ความมีจริยธรรม ,Innovative-สร้างสรรค์ ,Growth-ก้าวหน้า,High Performance-มุ่งเน้นผลงาน และสุดท้าย Teamwork-การทำงานเป็นทีม

วันนี้ 'ยิบอินซอย' เลือกที่จะทำทั้งสองทาง คือ หาคนเก่งเข้ามา และผสานให้เข้ากับองค์กร จากนั้นก็คุยถึงทิศทางข้างหน้าที่จะเดินไปพร้อมกัน กับอีกส่วนที่เป็นคนเก่าก็ต้องเร่งพัฒนาเช่นกัน

ในเบื้องต้น ต้องเร่งพัฒนาผู้บริหารระดับกลางให้เตรียมพร้อมที่จะก้าวสู่ระดับบนมากขึ้น โดยการเปิดโอกาสให้ได้แสดงผลงาน และจัดหลักสูตรอบรมทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้บริหาร

เป้าหมายเพื่อสร้างระบบและพัฒนาบริษัทให้เป็น Professional มากยิ่งขึ้นในอนาคต หากความสามารถของลูกหลานไม่ถึงก็เลือกที่จะใช้มืออาชีพเข้ามาบริหารงาน

"ที่นี่ไม่ได้ยึดติดว่าต้องเป็นลูกหลานเสมอไปที่จะเข้ามาบริหารงาน แต่เปิดโอกาสให้กับมืออาชีพที่มีความสามารถ ที่นี่เชื่อมั่นในมืออาชีพ"

อย่างไรก็ดี ทัศนคติคนทำงานส่วนใหญ่ที่เป็นคนเติบโตมาพร้อมกับองค์กรในช่วงที่ผ่านมา ยังคิดว่าลูกหลานเป็นเจ้านาย สิ่งที่ทำให้ชัดเจนก็คือ ภาพของความเป็นมืออาชีพ และการวางโครงสร้างการบริหารจัดการให้ชัดเจน

"รุ่นคุณอา สร้างอะไรเอาไว้เยอะ ตอนนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีของการนำระบบที่ดีมาจับ เพื่อให้องค์กรโตอย่างมั่นคงต่อไป ...ไม่หลวม ..ไม่หลุด และเติบโตได้ อาทิ ธุรกิจไฟแนนซ์ก็มีการนำเอาระบบมาตรฐานเข้ามาใช้เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ของสากล เป็นต้น"

ในอีกด้านของการทำงานที่ยัง "ติวเข้ม" เรื่อง คน และระบบการบริหาร อีกด้านที่ มรกต มองก็คือ การแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ

ที่ผ่านมา จะเห็นว่าธุรกิจที่ "ยิบอินซอย" เข้าไปทำจะมีความหลากหลาย และการแตกกิ่งก้านภายใต้การดำเนินงานของบริษัทลูกนั้น หัวใจหลักอยู่ที่ "โอกาส" และ ความน่าสนใจของธุรกิจนั้นๆ

"(บริษัท)ลูกบางคน อาจจะมั่นใจมากและใจร้อน ต้องการเห็นผลเร็วๆ แต่เราก็จะคอยบอกว่าให้ระวังเรื่องความเสี่ยงเอาไว้ด้วย ใช่ว่าเห็นโอกาสแล้วรีบกระโดดเข้าไป การก้าวเข้าไปในจังหวะที่เหมาะสมน่าจะเป็นการดีกว่า หากเข้าไปทำธุรกิจในลู่ใหม่ที่ไม่ชำนาญจะเลือกทำธุรกิจร่วมกับพาร์ทเนอร์เป็นหลัก"

ทั้งกระบวนการเรื่องการเตรียมคนให้พร้อมรับกับการแข่งขันทั้งในประเทศและการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) แล้ว การวางระบบป้องกันภัย (ความเสี่ยง)ให้กับ "ยิบอินซอย" ซึ่งเป็นบริษัทแม่ก็สำคัญและต้องทำอย่างเคร่งครัด

เพื่อตอบโจทย์ทั้ง "การเติบโต" และ "ความยั่งยืน" ให้กับองค์กรแห่งนี้ได้ก้าวสู่ Global Company และกรุยทางสู่องค์กรร้อยปีในอนาคต