"ไพรวัลย์" เคลื่อนไหวล่าสุด ลั่นขอเป็นตัวเอง ยอมรับหากคนเลิกติดตาม

จากกรณีดราม่า "ไพรวัลย์" ไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ อดีตพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ หรือ ทิดเอก ประกาศถอนตัวจากการเป็นพิธีกรรายการ "นินทาประเทศไทย" และลุกเดินออกไปซึ่งทำเอาพิธีกรร่วมถึงกับเหวอไปตามๆกัน จนเรื่องนี้กลายเป็นกระแสที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย จนแฮชแท็ก #ไพรวัลย์ และแฮชแท็ก #นินทาประเทศไทย ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในทันที

 

 

ล่าสุด "ไพรวัลย์" หรือ อดีตพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ หรือ ทิดเอก ได้ออกมาเคลื่อนไหวล่าสุดผ่านเพจเฟซบุ๊ก "ไพรวัลย์ วรรณบุตร" อีกครั้ง โดยเจ้าตัวได้อธิบายถึงเรื่องราวทั้งหมดว่า 

 

ผมมีหลักคิดของผมแค่ว่า ถ้าสิ่งที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ หรือสิ่งที่ผู้คนผิดหวังในตัวผม ไม่ได้เป็นสิ่งที่เกิดจากการที่ผมไปทำร้ายหรือทำลายความปกติสุขในชีวิตของใคร ผมมีสิทธิ์ที่จะเป็น หรือมีสิทธิ์ที่จะเลือกมันได้ 

 

วันหนึ่ง แม้ต่อให้ผู้คนเลิกติดตามและเลิกสนใจผมกันหมด ผมก็คิดว่า นั่นก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ได้ผิดอะไร และมันสามารถเกิดขึ้นได้ เป็นธรรมดา ผมจะยอมรับนะครับ และผมไม่เสียใจ

 

ในการมีชีวิต ผมสนใจแค่ว่า ผมทำอะไรผิดต่อคนอื่นหรือเปล่า ผมสร้างปัญหาและความเดือดร้อนให้กับชีวิตของใครบ้างไหม ซึ่งแม้ถึงตอนนี้ ผมก็ยังยืนยันกับตัวเองว่า ผมไม่ได้ทำอะไรที่ว่านั้น

 

ชีวิตผม ผมไม่ได้ต้องการ แค่การทำอะไรก็ได้เพื่อให้ถูกใจคนอื่น หรือทำตามที่คนอื่นต้องการ เพื่อแลกกับงานหรือแลกกับเงิน 

 

 

 

ผมดีใจนะครับ ถ้าผมได้ใช้ชีวิตในแบบของผมเอง แม้ชีวิตที่ว่านี้ จะทำให้ผมต้องกลับบ้าน (ซึ่งก็อยากกลับมากแล้วเต็มที) เพื่อไปอยู่กับพ่อแม่หรือญาติพี่น้องที่ผมรักตามอัตภาพอย่างที่ควรจะเป็น

 

ปล. ผมตอบกับทุกคนที่ถามผมเหมือนกันหมดว่า ผมไม่ได้ต้องการทำงานในวงการ ที่ผมยังรับงาน (ซึ่งก็ต้องขอบคุณที่มีงานให้รับ) และเลือกอยู่กรุงเทพ เพราะผมเห็นว่าได้อยู่ใกล้แม่ เพราะแม่เองก็ยังต้องรักษาตัวที่กรุงเทพเหมือนกัน ผมพูดกับแม่ทุกครั้งว่า หายแล้วกลับบ้านเรานะ ไปทำอะไรก็ได้เล็กๆ แต่ได้อยู่บ้านด้วยกัน

 

ทั้งนี้ ไพรวัลย์ ยังระบุต่ออีกว่า "ผมตอบกับทุกคนที่ถามผมเหมือนกันหมดว่า ผมไม่ได้ต้องการทำงานในวงการ ที่ผมยังรับงาน (ซึ่งก็ต้องขอบคุณที่มีงานให้รับ) และเลือกอยู่กรุงเทพ เพราะผมเห็นว่า ได้อยู่ใกล้แม่ เพราะแม่เองก็ยังต้องรักษาตัวที่กรุงเทพเหมือนกัน ผมพูดกับแม่ทุกครั้งว่า หายแล้วกลับบ้านเรานะ ไปทำอะไรก็ได้เล็กๆ แต่ได้อยู่บ้านด้วยกัน"

 

ที่มา ไพรวัลย์ วรรณบุตร