รปภ.ดวลมีด โจรปล้นธนาคารดับ แม่ผู้ตายเผยลูกเครียดตกงาน ลำดับเหตุการณ์ลงมือ

คลิปว่อนโซเชียล รปภ.ดวลมีด โจรปล้นธนาคารดับ แม่ผู้ตายเผยลูกเครียดตกงาน ลำดับเหตุการณ์ลงมือก่อเหตุ

กลายเป็นกระแส คลิปว่อนโซเชียล รปภ.ดวลมีด โจรปล้นธนาคารดับ แม่ผู้ตายเผยลูกเครียดตกงาน ลงมือก่อเหตุ

จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์เหตุเกิดภายใน ธนาคารออมสิน สาขาทียูโดมรังสิต ถนนเชียงราก-บางขัน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตตาที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญนางสมศรี อายุ 51 ปี แม่พร้อมด้วยภรรยาของผู้ตาย มาสอบปากคำเพื่อหาแรงจูงใจในการก่อเหตุ โดยแม่เปิดเผยว่า ที่บ้านอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คน มีพ่อ แม่ ลูกสะใภ้ ลูกชายและหลาน สำหรับลูกชายตอนนี้ตกงานและเกิดความเครียด เพราะต้องดูแลภรรยาและลูกน้อยวัย 1 ขวบ 6 เดือน ที่กำลังใช้เงิน

โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 2 สัปดาห์ ลูกชายได้เข้ารับการรักษาที่ รพ. หลังมีอาการปอดอักเสบติดเชื้อ และเคยบ่นให้แม่ว่าเครียดเพราะอาจจะทำให้เสียชีวิต และวานนี้เพิ่งไปพบแพทย์เพื่อเอกซเรย์ปอดมา

รปภ.ดวลมีด โจรปล้นธนาคารดับ แม่ผู้ตายเผยลูกเครียดตกงาน ลำดับเหตุการณ์ลงมือ

โดยเช้าวันนี้ ตนเองและสามีออกไปทำงานตั้งแต่ตี 5 มารู้อีกทีก็ต่อเมื่อเกิดเรื่องแล้ว และลูกสะใภ้โทรไปแจ้ง ส่วนสาเหตุตนเองคาดว่าเกิดจากความเครียดที่ต้องหารใช้เงินและยังหาสมัครงานอยู่ในขณะนี้ ขณะที่ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า รถที่ใช้ก่อเหตุเป็นชื่อของตนเอง ซึ่งสามีพบกันครั้งสุดท้ายช่วงเที่ยงและบอกว่าจะออกไปสมัครงานที่ย่านคลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และมาทราบอีกทีก็ตอนเกิดเหตุแล้ว

ทางด้าน พ.ต.ต.ศิโรจน์ แนบเนียน สว.สอบสวน สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ให้ชุดสืบสวนเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดสอบปากคำพยานบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ และให้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อเก็บหลักฐานดีเอ็นเอที่มือทั้งสองข้างเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการประกอบคดีเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

รปภ.ดวลมีด โจรปล้นธนาคารดับ แม่ผู้ตายเผยลูกเครียดตกงาน ลำดับเหตุการณ์ลงมือ

ลำดับเหตุการณ์

เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 2 ธันวาคม 2564 พ.ต.ต.ศิโรจน์ แนบเนียน สว.สอบสวน สภ.คลองหลวง รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์ เหตุเกิดภายในธนาคารออมสิน สาขาทียูโดมรังสิต ถนนเชียงราก-บางขัน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รองผกก.สอบสวน สภ.คลองหลวง พ.ต.ต.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวง , ว่าที่ร้อยตรี พิชญะ เพียราช ปลัดคลองหลวง อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รถกู้ชีพเทศบาลเมืองคลองหลวง รถกู้ชีพรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

 


ที่เกิดเหตุภายในธนาคารออมสิน พบรอยเลือดเป็นทางยาว ตั้งแต่หน้าเคาน์เตอร์จนถึงถนนเชียงราก บริเวณลานจอดรถบริเวณริมถนนหน้าทางเข้าพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่กลางอก 1 แผล ยังไม่ทราบชื่อเป็นชายไทยอายุ 25-30 ปี ถูกใส่กุญแจมือ ไพล่หลังข้างกันพบอาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 20 ซม. เปื้อนเลือดตกอยู่ 1 เล่ม ห่างกันเล็กน้อยพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของ รปภ.ธนาคารออมสิน ทราบชื่อ ขุนทอง ศรีไชยะ ได้รับบาดเจ็บถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่หน้าอก อาการสาหัสถูกนำตัวส่ง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นอกจากนี้ ริมทางยังพบรถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่1คัน จากการตรวจต้นใต้เบาะรถพบแผ่นป้ายทะเบียนรถหมายเลข ทะเบียน 2ขฆ-4621กทม. อยู่ใต้เบาะ

รปภ.ดวลมีด โจรปล้นธนาคารดับ แม่ผู้ตายเผยลูกเครียดตกงาน ลำดับเหตุการณ์ลงมือ

สอบสวนเบื้องต้น นายยุทธนา เกิดแสง พนักงานสินเชื่อธนาคารออมสิน ให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนเองทำหน้าที่เจ้าหน้าที่สินเชื่ออยู่ที่เคาน์เตอร์มีชาย1คน เข้ามาภายในธนาคารพร้อมอาวุธมีดก่อนเดินตรงมาที่ตนเองตนเองจึงหลบเข้าไปที่ห้องแม่บ้าน  จากนั้นก็ตรงไปที่เคาน์เตอร์แล้วใช้อาวุธมีดที่ติดตัวมาบังคับขู่นำเงินจากลิ้นชักไป

ขณะนั้นเองเจ้าหน้าที่ รปภ.ไม่ยอมจึงมาขวางหน้าแล้ว เกิดการต่อสู้กันตั้งแต่ภายในธนาคารก่อนคนร้ายวิ่งหนีเพื่อไปขึ้นรถจยย.ที่จอดไว้ริมทาง ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ รปภ.วิ่งตามไปทั้งที่โดนแทงด้วยอาวุธมีดแล้ว ก่อนจะเกิดการปลุกปล้ำกันและสู้กันด้วยอาวุธมีด จากนั้นพลเมืองดีก็เข้ามาช่วยเหลือด้วยการมัดคนร้ายไว้และประสานตำรวจและกู้ภัยมาที่เกิดเหตุ ส่วนเงินที่คนร้ายได้ไปก็ตกอยู่รายทางตั้งแต่หน้าธนาคาร

ด้านนายชนากรณ์ อายุ 18 ปี เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองอยู่ที่ร้านค้าริมทางพบคนร้ายวิ่งออกมาเพื่อจะขึ้นรถจยย.สภาพทั้งคนร้ายและรปภ.ชุ่มไปด้วยเลือด โดยมีการปลุกปล้ำกับเจ้าหน้าที่รปภ.ที่วิ่งไล่ตามมาตนเองและพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์จึงวิ่งเข้าไปช่วยเหลือและจับมัดมือล็อคแขนไว้โดยมีคนเข้าไปช่วยเหลือที่เป็นพลเมืองดี 3 คน หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป

รปภ.ดวลมีด โจรปล้นธนาคารดับ แม่ผู้ตายเผยลูกเครียดตกงาน ลำดับเหตุการณ์ลงมือ

ต่อมา เวลา 15.00 น. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 1 เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง จาการสอบถามพนักงานธนาคารบอกว่าคนร้ายได้เงินสดไปจำนวน 1 แสนกว่าบาท และทราบชื่อคนร้ายที่ถูกแทงเสียชีวิตชื่อ นายปิยะพงษ์ อ่ำอ่อน อายุ 28 ปี ชื่อเล่นบาส ชาวต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ถูกแทงด้วยอาวุธมีดมีบาดแผลที่ หน้าอกขวา 1 แผล ต้นแขนขวา 1 แผล หัวไหล่ขวา 1 แผล

จากาการสอบถามพ่อค้าตลาดนัด บอกกับผู้สื่อข่าวว่า มายังไงตนไม่ทราบแต่เห็นว่าเขามาสู้กันที่ประตูทางออกหน้าห้างที่ยูโดมเพราะประตูได้ล็อคไว้และน่าจะสู้กันมาตั้งแต่ข้างในแล้วและตนเองได้ยินว่าปล้นธนาคารและมีคนมาช่วยกันหลายคน ซึ่งคนร้ายกำลังจะขับรถหนีและทุกคนก็ช่วยกันไว้ซึ่งก็ไม่กล้าเข้าใกล้เพราะคนร้ายถือมีดอยู่ในมือ ซึ่งทุกคนก็พากันดึงคนร้ายลงจากนั้นและคนร้ายวิ่งหลบหนีแต่ก็มีคนมาช่วยกันจับไว้ได้และก็จับคนร้ายคว่ำหน้า ซึ่งคนร้ายได้โยนมีดลงก่อน และก็ได้ล็อคแขนไว้ตนก็ไปหยิบเชือกมามัด และคนร้ายบอกว่ากูไม่ไหวแล้ว ซึ่งครั้งแรกยังไม่เห็นบาดแผลจนมีเลือดไหลออกมาจากตัวคนร้าย ส่วนรปภ.มีบาดแผลทั่วตัว ซึ่งตนคิดว่าทางรปภ.มีใจเด็ดเดี่ยวมากและทุกคนก็ต้องช่วยเมื่อเห็นแบบนี้แล้ว

ด้าน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 กล่าวว่าเมื่อช่วงบ่ายมีคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าธนาคาร และเข้าไปก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารออมสิน โดยคนร้ายอาวุธมีดและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่รปภ.เข้าไปชิงทรัพย์ได้เงินสดไป1 แสนกว่าบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่รปภ.และเจ้าบ้านช่วยกับจับคนร้ายเอาไว้ได้ซึ่งคนร้ายได้ใช้อาวุธมีดแทงรปภ.และรปภ.ก็ได้ใช้อาวุธแทงคนร้ายเพื่อเป็นการป้องกัน ซึ่งทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ได้กำชับให้หัวหน้าสถานีทุกแห่งเฝ้าระวังเหตุที่คนร้ายจะประสงค์อยู่ตลอดเวลาเช่นเคสนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุได้รวดเร็ว และเจ้าหน้าที่รปภ.ที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็วในส่วนของตำรวจภูธรภาค 1 ตนเองก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านเฝ้าระวังและเป็นนโยบายหลักและสามารถจับกุมได้ทุกคดี