ศาลนัดสืบพยานคดี "แกนนำม็อบ 3 นิ้ว" พร้อมพวก 22 รายปักหมุดสนามหลวง 

ศาลนัดสืบพยานคดี "แกนนำม็อบ 3 นิ้ว" พร้อมพวก 22 รายปักหมุดสนามหลวง 

ศาลนัดสืบพยานคดี "แกนนำม็อบ" พร้อมพวก จำนวน 22 ราย ปักหมุดสนามหลวง ทนายเตรียมยื่นประกัน ไมค์-อานนท์-เพนกวิน-ไผ่

2 ธ.ค. 2564 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ได้เบิกตัว น.ส.เบนจา อะปัญ , นายอานนท์ นำภา , นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน , นายภานุ​พงศ์​ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง , นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ดาวดิน จากเรือนจำมายังศาลอาญา โดยวันนี้ศาลได้นัดพิพากษาคดีละเมิดอำนาจศาล ที่ นางชวัลนาถ ทองสม ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา ผู้กล่าวหา น.ส.เบนจา และนายณัฐชนน ไพโรจน์ นักกิจกรรมและนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
 
     กรณีก่อความวุ่นวายบริเวณบันไดหน้าศาลอาญา เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 64 เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวชั่วคราว "เพนกวิน" พริษฐ์ พร้อมนัดสืบพยานคดีปักหมุดคณะราษฎร ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19 และ 20 ก.ย. 63 โดยมี นายอานนท์ นำภา , นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน , นายภานุ​พงศ์​ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง , นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ดาวดิน และพวก รวม 22 ราย เป็นผู้ถูกกล่าวหา 

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกของการนัดสืบพยานโจทก์ ในคดีปักหมุดคณะราษฎร บริเวณท้องสนามหลวงและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 19 - 20 ก.ย. 63 โดยเบื้องต้นเห็นว่าฝ่ายโจทก์ได้เตรียมพยานไว้ 2 ปาก โดย 1 ในพยาน คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้กล่าวหาของคดีนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากระบวนการสืบพยานจะเป็นไปในลักษณะใด แต่ก็เป็นที่น่าหนักใจอยู่บ้าง เพราะโอกาสที่จะให้คำปรึกษาทางด้านคดีความกับจำเลยที่ยังไม่ได้รับการประกันตัวเป็นไปโดยยากลำบาก
 
     นอกจากนี้ อีกปัญหาหนึ่งคือ ทนายความพยายามขอหมายเรียกเอกสารสำคัญซึ่งอยู่ในการครอบครองของทางราชการ เพื่อที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของจำเลย แต่ศาลยังไม่ได้ออกให้ ซึ่งต้องไปตรวจสอบอีกทีวันนี้ว่าศาลจะออกหมายดังกล่าวให้หรือไม่ พร้อมเปิดเผยว่า ในวันนี้จะทำการยื่นประกัน ภาณุพงศ์ , อานนท์ , พริษฐ์ , จตุภัทร์ จำเลย 4 คนในคดีดังกล่าวที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำอีกด้วย

ต่อมาในเวลา 10.40 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลอาญาได้พิพากษาให้ เบนจา-ณัฐชนน มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามที่ถูกกล่าวหา โดยศาลสั่งจำคุกณัฐชนน 2 เดือน ส่วนเบนจาปรับ 500 บาท
 
     โดยศาลเห็นว่า การกระทำของนายณัฐชนนที่ใช้โทรโข่งปลุกระดมให้ประชาชนร่วมตะโกน "ปล่อยเพื่อนเรา" หลายๆครั้ง และกดดันผู้พิพากษา เป็นการพูดไม่สุภาพ หยาบคาย ถือเป็นการประพฤติไม่เรียบร้อย และก่อความไม่สงบในการใช้เครื่องขยายเสียงในศาล ซึ่งเป็นการละเมิดข้อกำหนดศาล
 
     ด้าน น.ส.เบนจา มีการอ่านเอกสารบนทางเท้า และชักชวนให้ประชาชนโปรยเอกสารและรายชื่อ ซึ่งมีเอกสารบางส่วนได้ตกหล่นเข้ามาในศาล แม้ไม่สกปรก รกรุงรัง แต่ก็ถือเป็นการประพฤติที่ไม่เรียบร้อยภายในศาลเช่นกัน ส่งผลให้ในคดีละเมิดอำนาจศาลนี้ ซึ่ง น.ส.เบนจา ตัดสินใจจ่ายค่าปรับ 500 บาท แทนการถูกคุมขัง 1 วัน 

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ทางทนายได้เตรียมยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว นายณัฐชนน โดยใช้เงินสดจำนวน 50,000 บาท ส่วนคดีปักหมุดสนามหลวง ศาลได้ขอเลื่อนสืบพยานโจทก์นัดแรกไปเป็นช่วงบ่าย และมีแนวโน้มว่าจะเลื่อนนัดเป็นวันอื่นแทน เนื่องจากในวันนี้ มีจำเลย 3 ราย ที่ไม่ได้เดินทางมายังศาล อีกทั้งหมายเรียกพยานเอกสารสำคัญที่จะเรียกความบริสุทธิ์ของจำเลยซึ่งอยู่ในความดูแลของหน่วยราชการ ศาลก็ยังไม่นำมา ขอเวลาพิจารณาและจะชี้แจงให้ทราบในช่วงบ่าย ทางฝ่ายจำเลยยืนยันว่าถ้าไม่มีพยานเอกสารก็สืบพยานไม่ได้