'สหรัฐ' เล็งขึ้นภาษีครั้งใหญ่ในรอบเกือบ 30 ปี

'สหรัฐ' เล็งขึ้นภาษีครั้งใหญ่ในรอบเกือบ 30 ปี

"โจ ไบเดน" เล็งขึ้นภาษีครั้งใหญ่ในรอบเกือบ 30 ปี โดยรัฐบาลกลางสหรัฐ อาจต้องเรียกเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากผู้ที่มีรายได้สูง เพื่อรองรับการใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวเมื่อวานนี้ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ มีแผนปรับขึ้นภาษีครั้งใหญ่เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายสำหรับโครงการด้านเศรษฐกิจระยะยาว โดยจะพิจารณาปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 21% เป็น 28% และปรับขึ้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 4 แสนดอลลาร์ต่อปีขึ้นไป

รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของปธน.ไบเดนนั้น อยู่ในระหว่างการพิจารณาจัดทำร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการคาดการณ์ว่า รัฐบาลกลางสหรัฐอาจต้องปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากผู้ที่มีรายได้สูงเพื่อรองรับการใช้จ่ายดังกล่าว

ทั้งนี้ หากรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจปรับขึ้นภาษีจริง ก็จะนับเป็นการปรับขึ้นภาษีส่วนกลางครั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี หลังจากที่เคยมีการปรับขึ้นภาษีครั้งใหญ่ในปี 2536 ในสมัยของประธานาธิบดีบิล คลินตัน