พาณิชย์แนะเอกชนตรวจสอบสถานะบริษัทร่วมลงทุนในเมียนมา

พาณิชย์แนะเอกชนตรวจสอบสถานะบริษัทร่วมลงทุนในเมียนมา

สคต.เมียนมาหารือสมาคมธุรกิจไทยในเมียนมา หลังรัฐประหาร เผย เมียนมายังสนับสนุนการลงต่างชาติ แนะนักลงทุนไทยระวังความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน จับตาต่างชาติ ใช้มาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจ เล็งแบล็คลิสต์ บริษัทที่ร่วมลงทุนกับกองทัพ

นายธนวุฒิ นัยโกวิท ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศเมียนมา ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ ล่าสุด ทางสคต. ได้ประชุมหารือสถานการณ์ ดังกล่าวกับ สมาคมนักธุรกิจไทยในเมียนมา (TBAM) ผ่านทางระบบ Zoom VDO Conference โดยมีประธานและกรรมการ สมาคมฯ เข้าร่วมประชุม รวม 19 ราย ซึ่งข้อมูลจากข่าวรายงานที่สภาบริหารแห่งรัฐ (State Administration Council) ของเมียนมา ที่ได้ประชุมกับสภาหอการค้าและ อุตสาหกรรมแห่งเมียนมา (UMFCCI) ทราบว่า เมียนมาจะยังคงสนับสนุนภาคธุรกิจในเมียนมาในการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ และ โครงการลงทุนต่างๆจะยังคงดำเนินการได้ต่อไป

 

ส่วนที่กรณีที่เมียนมาจะลดการพึ่งพาการซื้อขายโดยการใช้เงินดอลลาร์ลง และหันมาใช้เงินบาทและเงินหยวนในการค้าระหว่างประเทศ ให้เพิ่มมากขึ้นนั้นที่ประชุมเห็นว่า คงต้องติดตามว่ามีโอกาสเป็นจริงได้มากน้อยเพียงใด ถ้าเป็นจริงได้จะเป็นประโยชน์ต่อการค้าชายแดนของไทยยิ่งขึ้น โดยขณะนี้ค่าเงินจั๊ดต่อดอลลาร์มีความผันผวนมาก ดังนั้นการตกลงซื้อขายสินค้ากับเมียนมาจำเป็นต้องระมัดระวังค่าเงินที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ รวดเร็ว และจำเป็นต้องมีการป้องกันความเสี่ยงในการค้า ทั้งในการเก็บเงินจาการขายสินค้าและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีการหารือกรณีที่หากชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุนไทยในเมียนมาหรือไม่ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีมาตรการตอบโต้จากชาติตะวันตกจากสถานการณ์การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและการเข้าบริหารประเทศของสภา บริหารแห่งรัฐ (State Administration Council) ของเมียนมาโดยการแต่งตั้งของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย

จึงเห็นว่าบริษัทไทยที่จะทำการค้ากับเมียนมา จำเป็นต้องมีการทำ Due Diligence หรือการตรวจสถานะบริษัท เพื่อตรวจสอบว่าบริษัทเมียนมาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพเมียนมาและไม่ได้อยู่ใน Black List ล่าสุดจากการสอบถามทราบว่าไม่มีบริษัทไทยรายใดที่ลงทุนในเมียนมา ที่มีกองทัพเมียนมาเป็นหุ้นส่วนร่วมด้วย แต่ก็ขอให้หลีกเลี่ยงจากทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลเมียนมาในช่วงนี้ เช่น Innwa Bank และ Myawady Bank

 

อย่างไรก็ตามก็ยังมองว่า ในวิกฤตยังมีโอกาสในการค้าและการทำธุรกิจในเมียนมาของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะการค้าชายแดน จาก สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่งทางการค้าของไทย

ทั้งนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์ในเมียนมาติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรายงานกลับมาทุกวันและจะอัพเดทสถานการณ์ในเมียนมาที่เกี่ยวข้องกับการค้าการลงทุนการทำธุรกิจให้ทราบผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์