เอฟดับบลิวดีประกันภัย รุกอินชัวเทคครบวงจร
เอฟดับบลิวดีประกันภัย รุกพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรม หลังควบรวม”สยามซิตี้ประกันภัย” พร้อมตั้งเป้าหมายในการเป็นผู้นำตลาดอย่างรวดเร็ว
นายบ๊อบ เวาเทอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟดับบลิวดีประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจภายหลังจากควบรวมกับ บมจ.สยามซิตี้ประกันภัย ว่า บริษัทจะมุ่งมั่นรับประกันในช่องทางดิจิทัลแบบครบวงจร เพื่อให้สอดคล้องกับแผน ไทยแลนด์ยุค 4.0 ในการพัฒนาช่องทางและรูปแบบดิจิทัลในอุตสาหกรรมประกันภัยเพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มประกันภัยที่ดีที่สุดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงานที่มีอยู่และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป โดยคาดว่าในปี 2563 นี้ การทำธุรกิจพาณิชย์ผ่านช่องอิเล็กทรอนิกส์จะเติบโตเพิ่มขึ้น 35% หรือประมาณ 220 พันล้านบาท ภาพรวมการเติบโตของภาคธุรกิจประกันภัยของประเทศไทยจาก 247.6 พันล้านบาท ในปี 2561 และคาดว่าในปี 2566 จะมีเบี้ยประกันภัยอยู่ที่กว่า 285.5 พันล้านบาท โดยแบบประกันที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจในภาพรวมเติบโตจะมาจากประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล และ ประกันภัยสุขภาพ
“บมจ.สยามซิตี้ ประกันภัย ได้เปลี่ยนชื่อและปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์องค์กร เป็น บริษัท เอฟดับบลิวดีประกันภัย จำกัด (มหาชน) หลังจากการเข้าซื้อกิจการ ในเดือนธันวาคม 2562 ส่วนกรมธรรม์ของบริษัทจะอยู่ภายใต้การดูแลและส่งมอบโดย เอฟดับบลิวดีประกันภัย โดยให้ความสำคัญและมุ่งเน้นการประกันภัยผ่านช่องทางดิจิทัล และ ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอขายประกันภัยดิจิทัลของบริษัท โบลท์เทค ซึ่งเป็นธุรกิจอินชัวร์เทคระหว่างประเทศในเครือ แปซิฟิก เซ็นจูรี่ กรุ๊ป เจ้าของ เอฟดับบลิวดีประกันภัย อีกด้วย”นายบ๊อบ กล่าว
ส่วนแผนดำเนินการหลังจากนี้ยังคงออกแแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้สอดคล้องต่อความอต้องการของผู้บริโภค ร่วมมือกับพันธมิตรปัจจุบันและพันธมิตรใหม่ มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มในการสร้างกำไร รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคมอีกด้วย นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนในการขยายฐานตัวแทนและสนับสนุนให้ตัวแทนมีใบอนุญาตทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย เพิ่มผลิตภัณฑ์เอฟดับบลิวดีประกันภัยในโบลท์เทคดิจิทัลโบรกเกอร์ และตั้งเป้าหมายในการเป็นผู้นำตลาดอย่างรวดเร็ว
ในส่วนของการพัฒนาระบบไอที บริษัทได้มีการปรับทั้งในส่วนของลูกค้า เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ขณะที่การออกแบบและการเปิดตัวพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยแนวคิดใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคม รวมถึงปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานและพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลให้กับพนักงาน นอกจากนี้จะนำรูปแบบกิจการกำกับดูแลกิจการที่ดีที่สุดมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเครือข่ายสาขาอีกด้วย