'ช่อ' พร้อมพ้นที่ปรึกษากมธ.ทันทีหากมีมติ

'ช่อ' พร้อมพ้นที่ปรึกษากมธ.ทันทีหากมีมติ

"ช่อ" พร้อมพ้นที่ปรึกษากมธ.ทันทีหากมีมติ ซัดกลับ "สิระ" ไม่เห็นหัวประชาชน

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม เเละสิทธิมนุษยชน  พร้อมด้วย น.ส.พรรณิการ์ วานิช ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ เเถลงต่อสื่อมวลชนถึงกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการฎหมาย การยุติธรรม เเละสิทธิมนุษยชน  สภาผู้แทนราษฎร ไม่รับเรื่องร้องเรียนเข้าสู่วาระการประชุมจากกรณี 2 เยาวชน จ.ระยอง มาร้องเรียนต่อกรรมาธิการ ให้ตรวจสอบเเละเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ในการควบคุมเเละจับกุม กรณีชูป้ายเรียกร้องไม่เอาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวมีความสำคัญเพราะไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของเยาวชนที่ระยอง เพียง 2 คนเท่านั้น แต่ผลจากกรณีที่จ.ระยอง ทำให้นำไปสู่การชุมนุมทางการเมือง ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กว่า3,000 คน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยการชุมนุมทางการเมืองเป็นสิ่งที่รับรองไว้ตามรัฐธรรมนูญ หากกรรมาธิการเราได้รับการร้องเรียน เเต่กรรมาธิการ ไม่รับเรื่องไว้ ทำให้เห็นถึงการทำงานของกรรมาธิการที่ไม่เล็งเห็นหัวประชาชน ควรทำตัวเป็นกลาง เเละสิ่งที่เราทำมาตั้งเเต่สมัยนายปิยบุตร เเสงกนกกุล อดีตประธานคณะกรรมาธิการ เราทำมาโดยดีเเละมีประสิทธิภาพมาตลอด ซึ่งจากการกระทำดังกล่าว จะมาเสียชื่อกรรมาธิการ ในสมัย นายสิระ เจนจาคะ เป็นประธาน โดยตนไม่เห็นด้ว

ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวถึงกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการ จะปลดและเสนอให้ตนลาออก จากตำเเหน่งที่ปรึกษากรรมาธิการเพราะมีการแอบอ้างใช้ชื่อกรรมาธิการจากการลงไปรับหนังสือของสองเยาวชน จ.ระยองว่า ขอชี้เเจงว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว ตนปฏิบัติตามอำนาจเเละหน้าที่ในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการ อย่างโปร่งใส  มีกรรมาธิการมาร่วมรับเรื่องร้องเรียน 3 คนจากเยาวชนที่โดนข่มขู่เเละถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพียงเพราะว่าเขามีความเห็นต่างจากรัฐบาล ซึ่งตนมองว่าเป็นการลิดรอนสิทธิเเละเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ 

ทั้งนี้ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวต่อไปว่า โดยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่ประชุมวันนี้ ไม่มีการเสนอให้ใช้มติในประชุมเพื่อปลดตนออกจากที่ปรึกษากรรมาธิการ มีเพียงนายสิระ ลุกขึ้นในที่ประชุม ใช้วาจาที่ก้าวร้าว ไร้มารยาทต่อตนเองในการต้องการที่จะปลดตนออกจากที่ปรึกษาของคณะกรรมาธิการ จากเหตุการณ์ดังกล่าว หากมีการปลดตนออกจริง ต้องใช้มติข้างมากในที่ประชุม ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ตนสามารถยินยอมออกได้ทันที โดยไม่ใช่อำนาจของนายสิระ ที่จะใช้อำนาจตามอำเภอใจ หรือเหตุผลส่วนตัวมาปลดตน

"มาทำงานไม่ใช่เพื่อเงินเดือนที่น้อยนิด ไม่ใช่เพื่อตำเเหน่งเเละเกียรติยศ เเต่เราทำงานเพื่อประชาชน ตามสิทธิมนุษยชนโดยเเท้จริง ตลอดเวลาที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการเป็นตัวกลางระหว่างประชาชน กลุ่มนักศึกษา เพื่อช่วยคลี่คลายให้สถานการณ์ทางการเมืองดีขึ้น  หากกรรมาธิการไม่สนใจเรื่องของประชาชนเช่นนี้ การเมืองในระบอบประชาธิปไตยจะเป็นเช่นไร และตนคิดว่าการเมืองในระบอบรัฐสภาจะเดินต่อไปไม่ได้" น.ส.พรรณิการ์ กล่าว