เบรกเสนอตัวเป็น รมต. ลั่นปรับ ครม. เมื่อไหร่บอกเอง-เตรียมคนให้พร้อม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม.วานนี้ (9มิ.ย.) ว่า ตนได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงนี้ที่มีข่าวทุกวัน ยืนยันว่าตนยังไม่เกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้นเป็นเรื่องแต่ละพรรคการเมืองดำเนินการไป ส่วนการปรับเปลี่ยนครม.ย้ำว่าเป็นเรื่องของตน ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะพิจารณาได้เมื่อไหร่ แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ ดังนั้นไม่ต้องเสนอตัวกันเยอะแยะ ส่วนพรรคร่วมก็เป็นเรื่องของพรรคร่วมที่มีหลายพรรค ซึ่งใครจะเป็นใครจะไม่เป็นตนยังไม่คิด

“วันนี้ขอทำงานไปก่อน ดังนั้นกรุณาเลิกงดเสนอข่าวพวกนี้ได้แล้ว มันเหมือนดราม่า เหมือนละครสักเรื่อง ก็เหมือนดูละครก็ต้องย้อนมาดูตัวเหมือนกัน อย่าเพิ่งมาถามว่าจะปรับ ครม. ถ้าปรับเมื่อไหร่ผมบอกเอง บางทีไม่ต้องบอกผมก็ปรับเอง เป็นการตัดสินใจของนายกฯ แต่เพียงผู้เดียวในการปรับครม. และมีสัดส่วนของพรรคอยู่แล้ว เป็นเรื่องของแต่ละพรรคว่ามา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีใครหลุดโผ ใครจะหลุด ใครจะเข้า ตนยังไม่ได้ดู ตอนนี้ขอร้องอย่าให้ข่าวกัน เพราะคนตัดสินใจปรับครม.คือตน ไม่ใช่หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคก็เตรียมการคนของตัวเองไว้ หากเมื่อไหร่ที่ตนกลับก็จะนำมาพิจารณา เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่เหมาะสมตนก็เปลี่ยนคนก็เท่านั้น เพราะอำนาจตนมีอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็คุยกันไป เขาก็คุยกันทั้งนั้น ผมไม่ได้คุยด้วยนี่

ไม่ขัด“บิ๊กป้อม”นั่งหัวหน้าพปชร.

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค พลังประชารัฐ (พปชร.) จะกระทบกับการทำงานในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีหรือไม่ว่า “ทำไมล่ะ ถ้าท่านรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ก็เป็นเรื่องของท่าน ก็ต้องบริหารของท่านให้ได้ ผมมีหน้าที่ทำงานร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี ท่านก็ต้องทำงานทั้งสองด้านให้ได้ ถ้าท่านจะรับงานตรงโน้น ท่านก็ต้องทำงานตรงนี้ให้ได้เหมือนเดิม”

“ทุกคนทำงานได้หลายอย่าง เรื่องของพรรคการเมืองก็เป็นเรื่องของพรรค ไม่เกี่ยวกับการปรับ ครม.จะมาโยงกันได้อย่างไร การปรับ ครม.ก็เป็นเรื่องของ ครม.ก็มีสัดส่วนของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า หากมติที่ประชุมของพรรคพปชร. เลือกพล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรคก็ไม่ขัดข้องใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ให้เป็นเรื่องของพรรคพปชร.เขาไป ตนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรค เมื่อถามว่า เป็นห่วงสุขภาพของพล.อ.ประวิตรหรือไม่ หากยังต้องรับ 2 ตำแหน่ง ก็อาจจะมีปัญหาได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ไปถามท่านดู สื่อเองก็รู้ว่าพรรคการเมืองก็เป็นแบบนี้ ยิบย่อย ซึ่งทุกพรรคก็เป็นแบบนี้ เพียงแต่จะออกสื่อหรือไม่ออกผ่านสื่อเท่านั้นเอง วันนี้ก็เป็นประเด็นทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์ กันอยู่แล้ว”

“สุวิทย์”ขอคุยนายกฯก่อนตัดสินใจ

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กล่าวถึงกระแสข่าวยื่นลาออกจากตำแหน่ง โดยย้อนถามว่า ใครปล่อยข่าว คลิปเก่าหรือไม่ ยืนยันยังไม่ลาออก อย่างที่เคยบอกว่านายกฯและนายสมคิด เป็นคนดึงให้เราเข้ามาร่วมคณะรัฐมนตรี ดังนั้นถึงอย่างไรก็ต้องปรึกษาทั้ง 2 ท่านก่อน

ขณะที่นายสมคิด ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีที่ระบุว่าให้คนดีเข้ามาทำงานนั้นต้องการสื่อถึงอะไร โดยกล่าวเพียงว่า “ไม่มีอะไรครับ” ส่วนจะนำ 3 รัฐมนตรีไปหารือกับพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่นั้น “ตนจะไปรู้ได้อย่างไร ยังไม่ได้คุยกัน”

ไร้เงา“4กุมาร”ประชุมพรรค

ขณะเดียวกัน ในที่ประชุมส.ส.พรรคพปชร. มีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล เป็นประธานในที่ประชุมพร้อมด้วยแกนนำ 3 คน นั่งร่วมด้วย ได้แก่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รักษาการรองหัวหน้าพรรค พปชร. นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ประธานส.ส.พรรค โดยมีส.ส.เข้าร่วมประชุมอย่างคึกคัก อย่างไรก็ตามในการประชุมดังกล่าว นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกฯ ไม่ได้มาร่วมประชุม

ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายสิริ เจนจาคะ ส.ส.กทม. ได้ขอหารือถึงกรณี นายอุตตมและนายสนธิรัตน์ ไม่เข้าร่วมประชุม ส.ส. 3-4 ครั้ง โดยระบุว่า เป็นการไม่ให้เกียรติพรรคและสมควรดำรงตำแหน่งนี้หรือไม่ ซึ่งตนอยากจะถามว่าท่านจะลาออกเองหรือให้ตนขับไล่หรือไม่ เพราะตนไม่สามารถนำปัญหาของประชาชนมาหารือต่อหัวหน้าและเลขาธิการพรรคได้

ขีดเส้น‘อุตตม’ประชุมก่อน21มิ.ย.

นายไพบูลย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมพรรค ว่า ตนมั่นใจและเชื่อว่านายอุตตม จะมีการเรียกประชุมในเร็วๆนี้ ให้เป็นไปตามกรอบ และไม่ควรเกินวันที่ 19-21 มิ.ย.นี้ เนื่องจากเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ไม่มีภารกิจของรัฐมนตรี แต่ถ้ายังไม่ชัดเจน ก็ต้องใช้ พ.ร.ป.พรรคการเมือง รวบรวมเสียงส.ส. เกินกึ่งหนึ่ง โดยไปยื่น ต่อกกต. เพื่อให้มีการเปิดประชุมใหญ่สามัญต่อไป

“ถ้านายอุตตม ไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจน ผมเชื่อว่าคงไม่สามารถตอบคำถามสังคมได้ เพราะปัญหาของพรรคที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคมานาน โดยครั้งสุดท้ายคือวันที่ 26 ม.ค. จึงเห็นว่าควรทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดวิพากษ์วิจารณ์” นายไพบูลย์ กล่าว