วันนี้การเมือง หยุดไว้ก่อน

วันนี้การเมือง หยุดไว้ก่อน

สถานการณ์โควิด-19 มีทิศทางดีขึ้น ต้องยอมรับฝั่งการเมือง โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจเบ็ดเสร็จตัดสินใจและป้องกัน ทั้งนี้ในวันนี้การเมืองต้องหยุดและถอยออกไปข้างๆ เวทีก่อนบีบให้ปรับคณะรัฐมนตรีอย่างที่เกิดขึ้น เพราะหากละเลยโควิดอาจกลับมาระบาดซ้ำสองได้

การรับมือกับสงครามโรค ถือว่าประเทศไทยทำได้ดี ถึงขั้นนานาชาติหลายประเทศต้องเอ่ยชม ซึ่งเมื่อวานนี้ผู้ติดเชื้อใหม่เหลือ 7 ราย ถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันอัตราผู้หายป่วยกลับบ้านได้ ก็เริ่มเข้าใกล้ยอดผู้ป่วยสะสม โดยล่าสุดเมื่อวานนี้มีผู้ป่วยสะสม 2,938 คนใน 68 จังหวัด เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 54 ราย และรักษาหายกลับบ้านได้แล้วยอดรวม 2,652 ราย

ซึ่งสถานการณ์ดีมาถึงตอนนี้ได้ต้องยอมรับฝั่งการเมือง โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จอาศัยตามพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมการตัดสินใจมาที่นายกรัฐมนตรี ไว้ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. แทนที่จะกระจัดกระจาย แบ่งงานตามกระทรวงต่างๆ เช่นอดีต ซึ่งเป็นสิ่งถูกต้องในยามที่ต้องบริหารจัดการวิกฤติ ทั้งนี้การตัดสินใจที่ผ่านมาอาศัยองค์ความรู้ของกลุ่มหมอผู้ใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาด เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ 

ส่วนกลุ่มระดับนักการเมือง รัฐมนตรีนั้น มีสถานะเพียงพี่เลี้ยงให้กับปลัดกระทรวง ที่มีอำนาจเต็มในการจัดการงบประมาณ ออกคำสั่ง และแต่ละจังหวัด จะมีผู้ว่าราชการมีอำนาจเต็มในการบริหารจัดการ จะเห็นว่าโครงสร้างบริหารประเทศที่ให้นักการเมืองมีระยะห่างจากนโยบาย ย่อมมีประสิทธิภาพมากขึ้นในยามวิกฤติ

แต่ถึงกระนั้นจะมีคำถามตามมาว่า เมื่อถึงระดับหนึ่งที่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ประเทศย่อมเข้าสู่ภาวะที่ต้องมีการเปิดประชุมรัฐสภา ต้องมีการเมืองแบบเดิมๆ ที่เราเห็นชินตา ก็เป็นเรื่องในอนาคต แต่เฉพาะหน้าในช่วงที่ต้องประกาศสู่กับโควิด วันนี้นั้นการเมืองต้องหยุดและถอยออกไปข้างๆ เวทีก่อน อย่าเพิ่งมาเปิดศึกแย่งเก้าอี้คณะรัฐมนตรี บีบให้ปรับคณะรัฐมนตรี อย่างที่เกิดขึ้นในพรรคแกนหลักอย่างพรรคพลังประชารัฐ 

เราเห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรีออกมาพูดถึงความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐในช่วงนี้ว่า “จะไม่ขอพูดเรื่องการเมืองช่วงเวลานี้ เราต้องร่วมกันแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน ทุกคนไม่ควรมีข้าง มีฝ่าย” เพราะเหตุการณ์วันนี้ต้องหยุดความแตกแยกทางการเมืองไว้ก่อน ศึกข้างหน้าใหญ่หลวง ถึงวันนี้แม้สถานการณ์โควิด จะดูดีขึ้น แต่พร้อมปะทุรอบสองขึ้นมาได้ทุกเวลาหากเราประมาท

ซึ่งบนเรียนในต่างประเทศ มีให้เราเห็นมาแล้ว ดังนั้นใครก็ตามที่จะทำให้การเมืองกลับมาขุ่นในช่วงนี้ กลับไปคิดใหม่ อย่าคิดสั้นเพียงแค่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและกลุ่มตน ให้คิดถึงประเทศชาติ เพราะต้องอย่าลืมว่าโลกหลังโควิดนั้น จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ดังนั้นแนวนโยบายต่างๆต้องปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ นักการเมืองก็เช่นกัน ต้องกลับมาคิดแบบใหม่ คิดหาความร่วมมือ เพื่อจัดการเรื่องยากของประเทศที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้