'สุวรรณภูมิ' มั่นใจจุดคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าประเทศ

'สุวรรณภูมิ' มั่นใจจุดคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าประเทศ

"สุวรรณภูมิ" มั่นใจ จุดคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าประเทศ เข้มกลุ่มเสี่ยงไวรัสโควิด-19 ด้านรองโฆษก.สตม. ระบุแรงงานไทยจากเกาหลีใต้ไม่มีความผิด เพราะเป็นกฎหมายคนละประเทศ เข้ามา 2-4 มี.ค. 180 คน พบมีไข้ 19 คน กักตัวแล้ว


รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ1) บริษัทท่าอาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กิตติพงศ์ กิตติขจร พร้อมเจ้าหน้าที่พาสื่อมวลชนดูมาตรการควบคุมโรค ภายหลังจากโรคระบาดโควิด-19 และมีแรงงานไทยจากเกาหลีใต้ทยอยเดินทางกลับ


โดยนายกิตติพงศ์ บอกว่า ทางการท่าฯ ได้จัดพื้นที่จุดจอดเครื่องที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงไว้เฉพาะ และเมื่อเครื่องบินมาถึง ก็จะพาผู้โดยสารมาตรวจวัดอุณหภูมิ ด้วยเครื่องเทอร์โมแสกน ซึ่งหากมีอุณหภูมิสูงเกินกำหนด 37.5องศา ก็จะถูกเจ้าหน้าที่วัดด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิอีกครั้ง และหากยังพบก็จะกักตัวซักประวัติ และให้เข้าตรวจคนเข้าเมืองที่ช่องทางเฉพาะเพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลดำเนอนการวินิจฉัยตรวจหาเชื้อทางห้องแล็บ ซึ่งขาเข้าประเทศนั้น จะมีเครื่องเทอร์โมแสกน จำนวน 5 จุด ตั้งแต่ออกจากเครื่องบิน มายังตรวจคนเข้าเมือง ส่วนขาออกประเทศ ก็จะมีการตรวจวัดอุณหภูมิเช่นกัน ซึ่งหากพบมีไข้สูง ก็ทางการท่าฯจะประสานไปยังสายการบินในการยกเลิกเที่ยวบิน สำหรับสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ มีเที่ยวบินที่บินมาจากโซล สาธารณรัฐเกาหลี วันละ 5 สายการบิน 8 ไฟล์ ต่อวัน

ด้าน พันตำรวจเอกเชิงรณ ริมผดี รองโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุถึง กรณีกลุ่มคนไทยที่เดินทางไปทำงานผิดกฎหมายยังสาธารณรัฐเกาหลี ว่า ล่าสุดมีเดินทางเข้าไทยมาแล้ว 180 คน นับตั้งแต่วันที่ 2-4 มีนาคม พบมีไข้ 19 คน และทางเจ้าหน้าที่ได้พาไปกักตัวเฝ้าระวังโรคแล้ว ซึ่งการที่กลุ่มคนไทยที่ทำงานผิดกฎหมายเข้ามายังประเทศไทยนั้น ถือว่าไม่มีความผิดตามกฎหมายของประเทศไทย และไม่สามารถที่จะดำเนินคดีได้ เพราะเป็นกฎหมายคนละประเทศ แต่ทาง ตม.ไทย จะมีการทำประวัติทั้งหมดไว้ ส่วนในอนาคตหากกลุ่มดังกล่าวจะเดินทางออกนอกประเทศไทยไปยังเกาหลีอีกนั้น ก็จะเป็นหน้าที่ของฝั่งเกาหลีว่าจะอนุญาตให้เข้าประเทศหรือไม่ ซึ่งล่าสุด ทางเกาหลีได้นิรโทษกรรม กลุ่มคนไทยที่ทำงานผิดกฎหมายที่เดินทางกลับไทย จนถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2562 - 29 ก.พ.2563 มีคนไทยที่ถูกส่งตัวกลับมาจากเกาหลีใต้ทั้งหมด 2,022 คน จากทั้ง 3 สนามบิน สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าทั้ง 2,022 คนนั้นจะเป็นกลุ่มที่ทำงานผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะอาจจะมีกลุ่มที่ถูกปฏิเสธเข้าประเทศร่วมด้วย

ด้านกลุ่มคนไทยที่เดินทางไปทำงานผิดกฎหมายแล้วตรวจไม่พบไข้สูงนั้น ทางตรวจคนเข้าเมืองจะประสานไปยังกรมควบคุมโรค ในการทำประวัติที่พักอาศัย ในการกักตัวเฝ้าระวังโรค 14 วัน ตามมาตรฐาน WHO ซึ่งจะประสานไปยังสาธารณสุขจังหวัดตามที่แจ้งในการเข้าไปตรวจสอบ หากพบว่าไม่ปฏิบัติตามก็มีการดำเนินคดีทั้งจำและปรับ

ส่วนการคัดกรองกลุ่มคนไทยที่ทำงานผิดกฎหมายในต่างแดน เมื่อมีการแจ้งเจตนาเดินทางกลับไทย ทางเจ้าหน้าที่สายการบินต้นทางจะควบคุมโซนที่นั่ง และเก็บพาสปอร์ต รวมถึงจะแจ้งยอดมายัง ตม.ฝั่งไทย และเมื่อมาถึง ก็จะมีเจ้าหน้าที่มารับตั้งแต่ประตูเครื่องบินในการไปตรวจคัดกรอง ส่วนต่างชาติหรือนักท่องเที่ยวคนอื่นก็จะต้องกักตัวยังที่พักที่แจ้งกับ ตม. 14 วันเช่นกัน