'ชวลิต' ชี้ความเห็น กกต.ประเด็นคุณสมบัติ 'ประยุทธ์' ไม่เป็นที่สุด

'ชวลิต' ชี้ความเห็น กกต.ประเด็นคุณสมบัติ 'ประยุทธ์' ไม่เป็นที่สุด

“ชวลิต” ชี้ความเห็น กกต.ประเด็นคุณสมบัติ “ประยุทธ์” ไม่เป็นที่สุด มีข้อมูลใหม่ที่ศาล รธน.ควรรับฟัง

เมื่อวันที่ 8 ก.ค.62 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นประเด็นคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สรุปว่า การที่ กกต.ได้รับรอง พล.อ.ประยุทธ์ ว่ามีคุณสมบัติชอบด้วยรัฐธรรมนูญในการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ นั้น ผมมีความเห็นว่า ความเห็นของ กกต.ดังกล่าวยังไม่เป็นที่สุด เพราะ กกต.ไม่ใช่ศาล

เมื่อความปรากฎต่อสาธารณะอย่างแพร่หลายว่า ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาที่ 3578/2560 ชี้สถานะว่า พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช.เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ซึ่งก็หมายความว่า เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ อย่างชัดเจน เท่ากับ พล.อ. ประยุทธ์ มีคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญ ไม่อาจเป็นนายกรัฐมนตรีได้

ตามรัฐธรรมนูญ 2560 และทุกฉบับที่ผ่านมา ทุกองค์กรตามรัฐธรรมนูญต้องยึดหลักนิติธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎบัตรสหประชาชาติ เพราะประเทศไทยไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้เพียงประเทศเดียว

ดังนั้น ศาล รธน.คงมิได้ฟังความเห็นของ กกต.ที่เคยมีความเห็นไว้เท่านั้น เมื่อความปรากฎว่าข้อมูลคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ศาล รธน. ก็ต้องตรวจสอบทุกข้อมูลเพื่อประกอบการวินิจฉัยในคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ส่งมา

เพราะถ้าศาล รธน.วินิจฉัยโดยไม่ฟังข้อมูลจากศาลฎีกาซึ่งมีคำพิพากษาวางบรรทัดฐานไว้ กระบวนการยุติธรรมของไทยอาจขาดความเชื่อถือ ทั้งในหมู่ประชาชนคนไทย และที่สำคัญ คือชาวโลก ที่จะต้องปฏิสัมพันธ์กับประเทศไทยทั้งในระดับทวิภาคี หรือพหุภาคี ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมอย่างรุนแรง

หากเป็นเช่นนั้น หายนะก็จะมาเยือนประเทศไทยอย่างแน่นอน เพราะจะไม่มีใครมาคบค้าสมาคมกับประเทศที่ไม่ยึดหลักนิติธรรมในการปกครองประเทศ เรื่องนี้ เป็นประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ ประชาชนคนไทยและชาวโลกกำลังติดตามความคืบหน้าการพิจารณาของศาล รธน. อย่างใกล้ชิด