'อาซีฟา' มั่นใจกำไรโตต่อ รับรัฐ-เอกชนเร่งลงทุน

'อาซีฟา' มั่นใจกำไรโตต่อ รับรัฐ-เอกชนเร่งลงทุน

"บมจ.อาซีฟา" มั่นใจผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตต่อเนื่อง รับอานิสงค์จากรัฐบาลเร่งลงทุน ธุรกิจพลังงานและเทคโนโลยี โชว์แบ็กล็อกในมือพุ่ง 2,100 ล้าน ขณะที่งวดปี 2561 กำไร 285 ล้านบาทโต 12%

นายไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ในระบบกระจาย ส่งจ่ายและระบบการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าครบวงจร กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2562 น่าจะยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยบริษัทมีงานรอรับรู้รายได้อยู่ในมือ(Backlog) ประมาณ 2,100 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้รับอานิสงค์จากโครงการลงทุนภาครัฐและเอกชน เช่น ระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) การขยายสนามบิน การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับเทคโนโลยีที่มาใหม่ เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ โทรคมนาคมสื่อสาร ระบบ 5G รวมถึงการลงทุนในโครงการพาณิชย์ขนาดใหญ่ โรงพยาบาลรัฐและเอกชนและพลังงานทดแทนต่างๆ เป็นต้น

สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2561 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและบริการรวม 3,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 212 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อน หรือ 7.57% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการรับรู้รายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่บริษัทผลิตและจำหน่ายเอง ขณะที่ธุรกิจงานบริการก็ขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งในช่วงครึ่งหลังยังมีการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากโครงการขนาดใหญ่

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า รายได้ที่เติบโตเพิ่มขึ้นส่งผล ให้บริษัทและบริษัทย่อยกำไรสุทธิ 285 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 253 ล้านบาท

ทั้งนี้ ภาพรวมของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทคงดำเนินงานตามแผนในด้านของการขยายตลาดและสินค้าบริการที่เกี่ยวข้องกับความสามารถหลักขององค์กรที่มุ่งเน้นการนำเสนอเป็นโซลูชั่นและการบริการดูแลบำรุงรักษาและบริหารด้านพลังงานอย่างครบวงจร รวมทั้งขยายตลาดด้านพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงาน ระบบสมาร์ทคอนโทรลและระบบการควบคุมอัตโนมัติ โดยยอดขายในกลุ่มสินค้าและบริการดังกล่าวมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา อนุมัติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานประจำปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 0.33 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการับเงินปันผลในวันที่ 3 พ.ค.2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พ.ค. 2562