กบข. แนะสมาชิกนำใบแจ้งยอดลดหย่อนภาษีประจำปีภายในมี.ค.62

กบข. แนะสมาชิกนำใบแจ้งยอดลดหย่อนภาษีประจำปีภายในมี.ค.62

กบข. แนะนำสมาชิกนำใบแจ้งยอดเงินประจำปี 2561 เป็นหลักฐานยื่นลดหย่อนภาษีประจำปีจากการสะสมเงินเข้ากองทุน ภายในมีนาคม 2562

นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) แนะนำสมาชิก กบข. นำใบแจ้งยอดเงินประจำปี 2561 เป็นหลักฐานยื่นลดหย่อนภาษีประจำปีจากการสะสมเงินเข้ากองทุน โดย กบข. ได้จัดส่งใบแจ้งยอดเงินออนไลน์ e-Statement ตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. 2562 ไปยังอีเมลของสมาชิกที่ลงทะเบียนล่วงหน้าไว้กับ กบข. แต่หากสมาชิกไม่ได้ลงทะเบียน สามารถติดต่อขอรับใบแจ้งยอดได้ที่หน่วยงานต้นสังกัด หรือดาวน์โหลดสำเนาใบแจ้งยอดเงินได้ด้วยตนเองที่ https://mygpf.gpf.or.th

ทั้งนี้ กบข. ได้จัดทำข้อมูลใหม่แสดงในใบแจ้งยอดเงินประจำปี 2561 คือ ตารางแสดงยอดเงินล่าสุดในบัญชีของสมาชิก ที่แยกเป็นช่อง “เงินต้น” คือ ยอดเงินสะสมและเงินซึ่งสมาชิกมีสิทธิ์ได้รับจากรัฐ ที่นำส่งเข้าบัญชี กบข. ตั้งแต่วันที่เป็นสมาชิก และช่อง “ผลประโยชน์สะสม” คือ ยอดเงินผลประโยชน์สะสมตั้งแต่เป็นสมาชิก จนถึง ณ สิ้นปี และตารางแสดงตัวเลขผลตอบแทนของสมาชิกแบบรายบุคคล ที่แสดงอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีแบบ 3 ปีย้อนหลัง และตั้งแต่เริ่มนำส่งเงิน ซึ่งจะทำให้สมาชิกทราบความเคลื่อนไหวของเงินในบัญชีและเห็นการเติบโตของผลตอบแทนในระยะยาว

นายวิทัย กล่าวย้ำว่า ใบแจ้งยอดเงินประจำปีเป็นเอกสารสำคัญ ดังนั้นสมาชิกควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ทั้งยอดเงิน และข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อ ที่อยู่ หน่วยงานของตนเอง และปรับแก้ให้เป็นปัจจุบัน โดยสมาชิกควรนำใบแจ้งยอดเป็นหลักฐานประกอบการยื่นภาษีประจำปีภายในวันที่ 31 มีนาคม 2562 แต่ถ้ายื่นผ่านอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์กรมสรรพากร และผ่านแอปพลิเคชัน Rd smart tax สมาชิกจะสามารถยื่นได้ถึงวันที่ 9 เมษายน ซึ่งหากสมาชิกรีบดำเนินการก็จะทำให้ได้รับเงินคืนภาษีเร็ว และสามารถนำเงินดังกล่าวไปบริหารให้งอกเงยได้อีกด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ GPF Community (facebook, Line) และที่ GPF Contact Center โทร. 1179

เกี่ยวกับ กบข. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 เพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำเหน็จบำนาญและให้ประโยชน์ตอบแทนการรับราชการแก่ข้าราชการเมื่อออกจากราชการ ส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก และจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นให้แก่สมาชิก กบข. มีสถานะเป็นองค์กรของรัฐจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะไม่มีสถานะเป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ มีคณะกรรมการ กบข. เป็นผู้กำหนดนโยบาย ปัจจุบัน กบข. มีสมาชิกประมาณ 1 ล้านคน มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิประมาณ 890,890 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 31 ม.ค. 2562)