เร่งสอบรร.เอกชนย่านปทุมธานี 30 วัน รู้ผลผิด-ไม่ผิด

เร่งสอบรร.เอกชนย่านปทุมธานี 30 วัน รู้ผลผิด-ไม่ผิด

สช. ประสาน ศธจ.ปทุมธานี เร่งสอบสวนรร.เอกชน จัดการเรียนการสอนไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต คาด 30 วัน รู้ผลชัดเจน

จากกรณีที่มีข้อชี้แจงจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี เรื่องการจัดการเรียนการสอนในลักษณะที่ไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เมื่อเร็วๆ นี้


ล่าสุด (21ม.ค.) นายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จ ได้รายงานให้รับทราบว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและหลักฐานต่างๆ เพื่อดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องในการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนดังกล่าว คาดว่าใช้ระยะเวลาการดำเนินการไม่เกิน 1 เดือนน่าจะสามารถสรุปผลได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ ดังนั้น จะขอความร่วมมือไปยังศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ปทุมธานี ให้เร่งรัดการสอบสวนในครั้งนี้ หากสามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้นก่อน 30 วันได้ ก็จะชี้แจงให้สังคมรับทราบ

นายชลำ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่โรงเรียนดังกล่าวอ้างว่าการจัดทำบัญชีรายชื่อทะเบียนนักเรียน แยกออกไว้ 2 เล่ม เนื่องจากต้องทำให้เกิดความชัดเจนว่านักเรียนกลุ่มใดขอรับเงินอุดหนุนตามโครงการเรียนฟรี 15 ปี จากรัฐบาล และนักเรียนกลุ่มใดไม่รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น ตามข้อเท็จจริงแล้วไม่ว่าจะขอรับหรือไม่ขอรับเงินอุดหนุน โรงเรียนเอกชนต้องมีการลงทะเบียนรายชื่อนักเรียน เพียงเล่มเดียว และต้องมีการเรียงลำดับการเข้าเรียนที่ชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมาโรงเรียนที่ไม่ขอรับเงินอุดหนุนถือปฏิบัติเช่นนี้โดยตลอด ดังนั้น หากโรงเรียนจะอ้างเพื่อความชัดเจนและมาแยกรายชื่อของนักเรียนคนละเล่มคงไม่ได้ ส่วนกรณีที่โรงเรียนอ้างว่ามีการฟ้องศาลปกครองกลาง เพื่อขอทุเลาคำสั่งทางปกครองกรณีที่ ศธจ.ปทุมธานี มีคำสั่งให้โรงเรียนหยุดรับนักเรียนในโครงการดังกล่าว เรื่องนี้เนื่องจากศาลปกครองกลางยังไม่ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว หรือมีคำสั่งให้ทุเลาคำสั่งทางปกครอง ดังนั้นระหว่างนี้โรงเรียนดังกล่าวจะต้องดำเนินการตามคำสั่งของ ศธจ.ปทุมธานี หากฝ่าฝืนถือว่าไม่ปฏิบัติคำสั่งของเจ้าพนักงาน

“ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมให้ความสนใจมาก เพราะถือว่ามีผู้เข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก ดังนั้นทาง ศธจ.ปทุมธานี คงต้องเร่งตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้โดยเร็ว แม้ว่าโรงเรียนเอกชนแห่งนี้จะอ้างว่ารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 เปิดช่องให้โรงเรียนสามารถดำเนินการรับเด็กเข้ามาเรียนในโครงการดังกล่าวได้ แต่ทั้งนี้ โรงเรียนจำเป็นต้องขออนุญาตจาก ศธจ.ปทุมธานี ก่อน และเท่าที่ทราบก็ไม่ได้มีการอนุญาตให้โรงเรียนดำเนินการโครงการนี้มาก่อน แต่การที่โรงเรียนมาเปิดสอนเช่นนี้ ถือเป็นการละเมิดคำสั่งของเจ้าพนักงาน และหากกลับไปมองในแง่ของการออกใบอนุญาตจัดตั้งสถานศึกษา ตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 ก็เห็นชัดเจนว่า โรงเรียนได้รับอนุญาตให้จัดการเรียนการสอนในระบบ แต่โครงการดังกล่าวของโรงเรียนกลับมีลักษณะเป็นการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบนอกระบบหรือตามอัธยาศัย และที่สำคัญโรงเรียนดังกล่าวได้รับอนุญาตให้รับนักเรียนได้ไม่เกิน 900 คน แต่เท่าที่ทราบขณะนี้โรงเรียนมีการรับเด็กเฉพาะในโครงการดังกล่าวกว่า 1,000 คน แถมยังมีการรับเด็กในระบบปกติอีกด้วย ถือว่าเกินกว่าจำนวนที่ได้รับอนุญาต แค่นี้ก็ถือว่าไม่ปฏิบัติตามใบอนุญาตที่ได้รับแล้ว”เลขาฯ กช.กล่าว