MILL - ซื้อ

MILL - ซื้อ

แข็งแกร่งเยี่ยงเหล็กกล้า!

ประเด็นหลักการลงทุน

เราเริ่มต้นคำแนะนำ ซื้อ สำหรับ MILL ที่ราคาเป้าหมายปี 2560 ที่ 2.20 บาทต่อหุ้น อ้างอิงจากค่า PBV ปี 2560 ที่ 1.4 เท่า (สูงกว่าค่าเฉลี่ย PBV ระหว่างปี 2550-2559 อยู่ 0.5SD) เราชอบ MILL เนื่องจากการพลิกกลับมาเป็นกำไร กอปรกับแนวโน้มการเติบโตของกำไรหลักที่คาดว่าจะโตแข็งแกร่งที่ 23% ต่อปี สำหรับปี 2560-2562 นอกจาก MILL จะเป็น ตัวเลือกที่ดี สำหรับประเด็นลงทุนในเรื่องโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ทยอยเข้ามาในปีนี้ MILL ยังได้ร่วมทุนกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งจากญี่ปุ่น เพื่อสร้างความแตกต่างในฐานะผู้ผลิตเหล็กพิเศษสำหรับกลุ่มยานยนต์ รายเดียวในไทย ราคาปัจจุบันอยู่ในระดับน่าสนใจ ซื้อขายที่ค่า PBV ปี 2560 ที่ 1.0 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV ระหว่างปี 2550-2559 อยู่
1.0SD) เราประเมินโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับลดลงมีค่อนข้างต่ำ เนื่องจากปัจจุบันมีการทำคำเสนอซื้อหุ้น (Tender offer) ไม่เกิน 29.99% จากผู้ถือหุ้นเดิมที่ราคา 1.80 บาทต่อหุ้น

ตลาดเหล็กกลับสู่สมดุล ส่งสัญญาณบวกต่อราคาเหล็ก

หลังจากราคาเหล็กโลกทำจุดต่ำสุดในปี 2558-2559 เรามองเห็นสัญญาณเชิงบวกต่อราคาเหล็ก โดยราคาได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2560 เนื่องจากแผนลดการผลิตเหล็ก 150ล้านตันภายใน 5 ปี (ปี 2559-2563) ของจีนมีความคืบหน้าที่ดีมาก โดยคาดว่าจะสามารถบรรลุแผนลดการผลิตได้เร็วกว่ากำหนดภายใน 3 ปี จากการปราบปรามการผลิตเหล็กที่ผิดกฎหมาย ส่งผลให้ราคาเหล็กเส้นของจีนฟื้นตัวขึ้น 8% นับตั้งแต่ต้นปี เช่นเดียวกับราคาเหล็กเส้นไทย โดยเหล็กข้ออ้อยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9% นับตั้งแต่ต้นปี

การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ดันกำไรโตไม่หยุดยั้ง

จากนโยบายประเทศไทย 4.0 รัฐบาลได้วางแผนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่มูลค่าเกือบ2 ล้านล้านบาท ภายใน 8 ปี ซึ่งหลายโครงการจะเริ่มดำเนินการภายในปีนี้ ด้วยโครงการของภาครัฐกอปรกับการฟื้นตัวของภาคการส่งออกตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2559 คาดว่าจะเป็นการกระตุ้นการเติบโตของการลงทุนจากภาคเอกชนในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 เป็นต้นไป การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (Gross fixed capital) ในประเทศไทย คาดว่าจะหนุนการเติบโตของอุปสงค์ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและอุปสงค์ของเหล็ก ซึ่งคิดเป็น 20%-30% จากมูลค่าธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโดยรวม การเร่งการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรจะเป็นตัวแปรสำคัญในการกระตุ้นการบริโภคเหล็ก ซึ่งส่วนใหญ่ มักโตเป็น 2 เท่าของการเติบโตของ GDP

พัฒนาผลิตภัณฑ์เหล็กสู่ระดับ 4.0

MILL เป็นผู้ผลิตเหล็กรายเดียวในประเทศไทยซึ่งกำลังจะเปลี่ยนจากผลิตเหล็กที่ใช้สำหรับธุรกิจก่อสร้าง กลายเป็นผลิตเหล็กคุณภาพสูงเพื่อใช้สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ผ่านทางบริษัท Kobelo Millcon Steel Co., Ltd, ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับบริษัท Kobe Steel LTD (ถือหุ้น 50:50 ) Kobe Steel เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตเหล็กแนวหน้าของประเทศญี่ปุ่น โดยมีการลงทุนทั้งในประเทศญี่ปุ่น, เอเชีย, อเมริกา และยุโรป ทั้งนี้บริษัท Kobe Steel จะเข้ามาส่งเสริม MILL ทั้งในด้านองค์ความรู้, เทคโนโลยี และการเข้าถึงฐานลูกค้าเดิมของ KOBE ในอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยและทั่วภูมิภาค โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเริ่มทดสอบกลางปี 2560 แม้ว่าจะมีการเพิ่มปริมาณเพียงเล็กน้อย (น้อยกว่า 1% จากปริมาณโดยรวมในปี 2560 และ 2% ในปี 2561) แต่อัตรากำไรขั้นต้นของเหล็กพิเศษมากกว่าเหล็กธรรมดาถึงสามเท่า

ขยายธุรกิจสู่อาเซียน

MILL กำลังขยายธุรกิจไปยังประเทศเมียนมาร์และประเทศเวียดนาม ซึ่งมีอุปสงค์จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยบริษัททำการจัดตั้งโครงการการร่วมทุนกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งในท้องถิ่น ทั้งนี้ MILL ได้เริ่มเข้าไปในประเทศเมียนมาร์ผ่านบริษัทผลิตเหล็กโครงสร้าง และจะเริ่มเข้าสู่ประเทศเวียดนามโดยผ่านทางการเสนอแบบโครงสร้างอาคาร แบบสำเร็จรูป แม้ว่าธุรกิจดังกล่าวจะยังสันบสนุนกำไรของ MILL ไม่มากนัก หากแต่โครงการการร่วมทุนดังกล่าวจะเป็นโอกาสในการเติบโตในระยะกลางถึงระยะยาวแก่บริษัท