สตม.ทลายโรงงานเถื่อน รวบ31ต่างด้าวหนีเข้าเมือง
สตม.แถลงคดีสำคัญ ทลายโรงงานเถื่อนผิดกม. จับ31แรงงานต่างด้าวหนีเข้าเมือง
พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. เรียกประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดตม.ทั่วประเทศ ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อสั่งให้ทุกหน่วยงานระดมกำลังกวาดล้างจับกุมชาวต่างด้าวที่ประกอบอาชีพผิดกฎหมาย ด้วยการกวดขัน ตรวจตราสถานประกอบการ ร้านอาหาร ตลาดสด โรงงาน รวมไปถึงหาบเร่แผงลอย หรือแผงค้าที่มีคนต่างด้าวเป็นเจ้าของ รวมไปถึงที่มีคนไทยเป็นนอมินีบังหน้า
พล.ต.ท.ณัฐธร เปิดเผยว่า หลังจากเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และเปิดให้มีการลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน อนุญาตให้ทำงานบางประเภทที่ขาดแคลนแรงงานไทย ที่คนไทยไม่ค่อยสนใจ เช่นคนงานก่อสร้าง กินการประมง คนรับใช้ ฯลฯ ทำให้มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาเป็นลูกจ้างในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เมื่อทำงานไปสักระยะเริ่มเห็นลู่ทางในการเป็นเจ้าของกิจการ เริ่มจากการค้ากับแรงงานต่างด้าวด้วยกันเอง จนมีลูกค้าคนไทย และขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ บางส่วนใช้คนไทยเป็นนอมินีบังหน้าเพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ บางส่วนจนทะเบียนสมรสกับคนไทยบังหน้ายากต่อการตรวจสอบ ซึ่งหลังจากนี้ สตม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะกวดขันจับกุมอย่างจริงจังเพื่อสกัดกั้นไม่ให้มาแย่งอาชีพคนไทย
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวอีกว่า จากมาตราดังกล่าว สตม.ได้เข้าทลายโรงงานเถื่อนผิดกฎหมาย ซอยกำนันย่านบางบอน ที่ใช้แรงงานเด็กต่างด้าวผิดกฎหมาย หลังจากก่อนหน้านี้ ด่านตม.จว.หนองคาย พบเด็กชาวลาว 4 คน กำลังเดินทางกลับประเทศผ่านด่าน แต่เจ้าหน้าที่พบพิรุธจึงเรียกสอบถามได้ความว่า ลอบเข้าเมืองมาทำงานในโรงงานดังกล่าวอย่างผิดกฎหมาย โดยภายในโรงงานยังมีแรงงานเด็กอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบ พบแรงงานต่างด้าวลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย 15 คน เป็นเยาวชน 5 คน ทั้งหมดให้การว่า ลอบเข้าเมืองมาทางชายแดนมาทำงานในโรงงานดังกล่าว ได้ค่าจ้างวันละ 200 บาท ต้องทำงานตั้งแต่ 08.00-22.00 น. เจ้าหน้าที่จึงจับกุมนายจ้าง พร้อมแจ้งข้อหา ให้การอุปการะ ซ่อนเร้น ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองนั้นพ้นจากการจับกุม ,เป็นนายจ้างรับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นลูกจ้างไม่แจ้งต่อพนักงานภายใน 15 วัน
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวต่อว่า อีกรายเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ สตม.รับแจ้งว่า จะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจากตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มายังกทม. จึงจัดกำลังเฝ้าดูตามเส้นทาง จนกระทั่งพบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ป้ายแดง ก-7047 วิ่งผ่านเส้นทางสายบางปะกง-ฉะเชิงเทรา จึงได้เรียกตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่หลบหนีเข้าเมือง 16 คน อยู่ในรถ ทั้งหมดให้การว่าจะเข้าไปทำงานในกทม. โดยต้องเสียค่าคนละ 1,500 บาท เจ้าหน้าที่จึงจับกุมคนขับรถตู้ในข้อหา ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้าเมือง โดยผิดกฎหมายนั้นพ้นจากการจับกุม และแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต กับแรงงานต่างด้าวทั้งหมด
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่่ผ่านมานายมาร์ค อัลเลน โรเจอร์ (Mark Allen Rogers) อายุ 64 ปี สัญชาติอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับตำรวจสากลที่ทางการอเมริกาต้องการตัวในคดีความผิดทางเพศ และหลบหนีการประกันตัวเข้ามาในประเทศไทย โดยจับกุมได้ที่อาคารสินธร ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ทั้งนี้บุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมเป็นภัยสังคม สตม.จึงได้พิจารณาเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นบุคคลต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป